บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ เคาะราคา IPO ที่หุ้นละ 2.30 บาท รับแผนลงทุนซื้อที่ดินก่อสร้างโรงงาน-เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 12, 2017 16:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย 'ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์' ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 2.30 บาท เตรียมเปิดจองซื้อในวันที่ 13-15 ธ.ค. และคาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 20 ธ.ค.นี้ พร้อมแต่งตั้ง บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ด้านผู้บริหาร CPT ชูจุดแข็งด้านความหลากหลายของระบบควบคุมเครื่องจักรและระบบไฟฟ้า รวมถึงประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 30 ปี สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ พร้อมซื้อที่ดินขยายโรงงานและเครื่องจักรรุกขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย จัดพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ โดยแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ และที่ปรึกษาทางการเงินได้กำหนดราคาขาย IPO ที่ราคาหุ้นละ 2.30 บาท โดยราคาดังกล่าวได้สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ CPT ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและโอกาสการเติบโตที่ดีในอนาคตตามการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้จึงได้กำหนดให้นักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 13-15 ธันวาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 20 ธันวาคม 2560 สำหรับราคา IPO ที่ 2.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ประมาณ 14.12 เท่า โดยคำนวณมาจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12เดือนที่ผ่านมา (ไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 – ไตรมาสที่ 3 ของปี 2560) ซึ่งกำไรสุทธิเท่ากับ 146.60 ล้านบาท หรือเท่ากับ 0.16 บาทต่อหุ้น โดย P/E Ratio คิดเป็นอัตราส่วนลดประมาณร้อยละ 36.18 จาก P/E ของหลักทรัพย์ที่อยู่ในหมวดธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักรในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เฉลี่ยช่วงระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2560 ถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 22.12 เท่า ปัจจุบัน บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ มีทุนจดทะเบียน 450 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 900 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 315 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 270 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดย CPT จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.ลงทุนซื้อที่ดินสำหรับก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่และซื้อเครื่องจักรเพื่อการผลิตตู้ไฟชนิดไม่มีโครงสร้าง Metal Clad Switchgear (MSCG) และการประกอบ Ring Main Unit(RMU) ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีขึ้น 2.ใช้เพื่อการขยายตลาดต่างประเทศ และ 3.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ นายสมศักดิ์ หลิมประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมเครื่องจักร ครอบคลุมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย โดยแบ่งธุรกิจเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจขายตู้ไฟฟ้า (Panel) ที่มี 2 ประเภท ได้แก่ ตู้ไฟฟ้าระบบควบคุมเครื่องจักร และตู้ไฟฟ้าแรงดันต่ำและแรงดันปานกลาง 2.ธุรกิจการขายสินค้าสำเร็จรูปประเภทหน่วย (Unit) โดยบริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าสำเร็จรูปประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ควบคุม เช่น ตัวปรับความเร็วมอเตอร์กระแสสลับแรงดันต่ำและแรงดันปานกลาง และอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติ (PLC) 3.ธุรกิจให้บริการรับเหมาติดตั้งสายไฟ (Cable Installation) และการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ขนาดความดัน 69-115 KV. ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยแบบ Turnkey Project รวมถึงเป็นผู้ออกแบบและประกอบตู้ควบคุมไฟฟ้าพร้อมระบบเพื่อป้องกันความผิดพลาด (Protective Relays) การแสดงผล/ควบคุมและการวิเคราะห์ (SCADA) ผ่านระบบใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) รวมถึงให้บริการวางรากฐาน ติดตั้งสายไฟสำหรับงานประกอบตู้ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปและสถานีไฟฟ้าย่อย และ 4.ธุรกิจจากการให้บริการและซ่อมแซม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPT กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหารที่อยู่ในธุรกิจมานานกว่า 30 ปี จึงมีความเชี่ยวชาญในด้านความหลากหลายของระบบควบคุมเครื่องจักรและระบบไฟฟ้า เพื่อการออกแบบ ผลิตตู้ไฟฟ้าของระบบควบคุมและไฟฟ้ากำลังที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตให้แก่ลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้หลักการบริหารจัดการที่ดีจากฐานการผลิตของโรงงานตนเอง ส่งผลให้สามารถควบคุมต้นทุน คุณภาพ และระยะเวลาในการผลิตได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ส่งมอบสินค้าได้ตรงต่อเวลา ช่วยสร้างความพึงพอใจและความไว้วางใจจากลูกค้าภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปีนี้ ที่มีรายได้จากการขายและการบริการ 763.45 ล้านบาท ลดลง 2.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการควบคุมต้นทุนที่ดีและลดค่าใช้จ่าย จึงทำให้มีกำไรสุทธิ 85.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 64.50% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน "เรามีวิสัยทัศน์เป็นผู้นำด้านการผลิตตู้ไฟฟ้า ระบบควบคุมเครื่องจักรและระบบไฟฟ้า ที่มุ่งเน้นการแข่งขันได้ทั้งราคา คุณภาพ การบริการ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า พร้อมมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับการรุกขยายฐานลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและแถบภูมิภาคอาเซียน" นายสมศักดิ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ