เอ็ม พี กรุ๊ป ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์การแพทย์ในไทย ทุ่มเงินลงทุนกว่า 100 ล้านสร้างศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร หวังยอดขาย 1,500 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า

ข่าวทั่วไป Wednesday December 13, 2017 15:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--เอ็ม พี กรุ๊ป เอ็ม พี กรุ๊ป เตรียมทุ่มเงินกว่า 100 ล้านบาท สร้างศูนย์สุขภาพครบวงจร เพิ่มการให้บริการทุกด้านเกี่ยวกับ Wellness Center รวมถึงการนำเข้าสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับห้องปฎิบัติการ เพื่อเสริมการเติบโตและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์การแพทย์ในประเทศไทย พร้อมขยายช่องทางออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มบุคคล นายฤทธิชัย ศรีวิจารย์ ประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม พี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัท เอ็ม พี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เราทำธุรกิจในการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์มากว่า 17 ปี และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีห้องปฏิบัติการการตรวจวิเคราะห์ที่ทันสมัยและแม่นยำด้านการตรวจวิเคราะห์ในระยะเริ่มต้น เพื่อสามารถป้องกันโรคร้ายไม่ให้ลุกลาม และเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างทันท่วงที บริษัทฯ จึงได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลชั้นนำทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กเลือกใช้เครื่องมือและอุปกรณ์จากเรา นอกจากนี้เยังมีศูนย์แล็บเคลื่อนที่เพื่อบริการตรวจร่างกายให้กับบริษัทเอกชนในราคาพิเศษ ที่มีความแตกต่างจากการตรวจแบบเดิมๆ และเพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์การแพทย์ คุณนทพร บุญบุบผา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม พี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมมากมาย ตั้งแต่ในเรื่องของ Plat form อาทิเช่น นวัตกรรมด้าน Plat form POCT เพื่อนำเสนอ fast track สำหรับการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลันหรือตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด เพียงแค่ 17 นาที, เครื่องตรวจหา Vitamin D ที่มีความแม่นยำ ซึ่งสามารถตรวจได้ถึงอนุพันธ์ของ Vitamin D ที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้ป่วยกำลังเผชิญกับโรคไต, เครื่องตรวจหาความเสี่ยงของโรคมะเร็งครบทุก marker เมื่อเทียบกับเครื่องในกลุ่มเดียวกัน, นวัตกรรมที่ตรวจหาวัณโรคหรือโรคมะเร็งปากมดลูกในระดับ gene, โรคโลหิตจาง (Thalassemia Alpha I) ในระดับ gene หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจในระดับ gene ได้สูงสุดถึง 26 ชนิด ใน 1 คน ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้จะเข้ามาช่วยให้ห้องปฏิบัติการทำงานได้ง่ายและสะดวก ทำให้ได้ผลการทดสอบที่ถูกต้องแม่นยำ รวดเร็ว และสามารถวินิจฉัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้จ่ายยาให้ผู้ป่วยได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้หมายถึงความเร็วในการรอดชีวิตของผู้ป่วย อีกทั้งยังเป็นการป้องกันโรคก่อนที่จะเกิดขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน" และภาพรวมของธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์ในไทย มีการเติบโตต่อเนื่องและมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เนื่องจากทุกวันนี้เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พฤติกรรมการใส่ใจเรื่องสุขภาพเปลี่ยนไปมากผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญในการแลสุขภาพตัวเอง เช่น การนำอุปกรณ์ทางการแพทย์เบื้องต้นมาไว้ใช้ดูแลตัวเองที่บ้าน ทำให้สัดส่วนของตลาดกลุ่มนี้สูงขึ้นตามลำดับ และขณะเดียวกันตลาดที่เป็นโรงพยาบาลก็สรรหาอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่ถูกต้องและแม่นยำ มีความทันสมัยเข้ามาใช้ในโรงพยาบาลเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเช่นกัน บริษัทฯ มองเห็นช่องทางการเติบโตจึงมีแผนรุกตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าบุคคลให้มากขึ้น โดยได้เตรียมนำเข้าสินค้าในกลุ่มผู้สูงอายุเข้ามาจำหน่าย อาทิเช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องตรวจน้ำตาลพร้อมแอพพลิเคชั่นในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ให้สามารถควบคุมสภาวะน้ำตาลได้ตรงตามเป้าหมาย เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรังสามารถที่จะดูแลตัวเองและสื่อสารกับแพทย์ผู้รักษาได้ตลอดเวลา นอกจากนี้เรายังมีแผนขยายตลาดเชิงรุกจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่มองเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพด้วย" นายฤทธิชัย ศรีวิจารย์ กล่าวเสริมว่า "ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขาย อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท มีการเติบโตต่อเนื่องและปัจจุบันบริษัทยังคงสามารถรักษามาตรฐานการเติบโตของธุรกิจได้มากกว่า 18% โดยบริษัทมีแผนที่จะลงทุนงบประมาณอีกกว่า 100 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร โดยเราจะเพิ่มการให้บริการทุกด้านเกี่ยวกับ wellness Center ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์เพื่อสุขภาพทั้งในส่วนออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการนำเข้าสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับห้องปฏิบัติการ เพื่อเสริมการเติบโตและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์การแพทย์ในไทย"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ