ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 2 จังหวัด พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งคลี่คลายสถานการณ์ภัย เตือนจังหวัดภาคใต้รับมือภาวะฝนตกหนัก

ข่าวทั่วไป Monday December 25, 2017 11:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 5 อำเภอ 35 ตำบล 345 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 22 - 25 ธ.ค. 60 ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่จากอิทธิพลของพายุ "ไคตั๊ก" เคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ตอนล่างปภ.ได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 22 ธันวาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล ชุมพร นราธิวาส นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ รวม 123 อำเภอ 835 ตำบล 6,187 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 598,568 ครัวเรือน 1,906,786 คน เสียชีวิต 38 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 9 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ สตูล ยะลา นราธิวาส ชุมพร ปัตตานี ตรัง สงขลา และพัทลุง ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด รวม 5 อำเภอ 35 ตำบล 345 หมู่บ้าน 21,966 ครัวเรือน 51,956 คน ประกอบด้วย ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร รวม 20 ตำบล 269 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,142 ครัวเรือน 40,100 คน ลุ่มน้ำตาปี 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านนาเดิม และอำเภอพุนพิน รวม 15 ตำบล 76 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,824 ครัวเรือน 11,856 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค และน้ำดื่ม จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับผู้อพยพ พร้อมระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งรถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัย และช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 22 - 25 ธันวาคม 2560 ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล จากอิทธิพลของพายุ "ไคตั๊ก" ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง และคลื่นสูง 2 – 4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง ชาวประมงให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ