กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--แอสเซท พลัส
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในปัจจุบันภาวะตลาดหุ้นในประเทศไทยเองนั้นมีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวแล้ว แต่กลับหันมาขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเอเชียซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยหลังจากที่สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยได้มีการคลี่คลายลงไปในทางที่ดี และจะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ เป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ บลจ. แอสเซท พลัส เองนั้น เรามีกองทุนตราสารแห่งทุนทั้งหมด 4 กองทุน ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ กองทุนแรก คือ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสกำไรปันผล (ASP-GDF) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนที่ดีที่กองทุนจะได้รับจากเงินปันผล หรือกำไรส่วนเกินทุนจากการลงทุนในตราสารแห่งทุน มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ที่ผ่านมากองทุน ASP-GDF มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 15.91% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 32.04% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 34.82% ตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 36.03% ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 37.99%*(เปรียบเทียบกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 24.87% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน) ซึ่งกองทุน ASP-GDF ได้มีการเปลี่ยนนโยบายจากกองทุนผสม เป็นกองทุนตราสารทุน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2550 และในปีนี้กองทุน ASP-GDF ได้มีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้ว 3 ครั้งเป็นเงิน 1.75 บาท/หน่วย
ส่วนอีก 3 กองทุน เป็นกองทุนรวมที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนมีการออมเงินระยะยาว และเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณอายุของนักลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาว (ASP-LTF) มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารกองทุนโดยเลือกลงทุนผสมทั้งในหุ้นคุณค่า (Value Stock) และหุ้นเติบโต (Growth Stock) ที่มีนโยบายจ่ายปันผลสูง โดยกองทุนจะเลือกลงทุนในจังหวะและราคาที่เหมาะสม ซึ่งกองทุน ASP-LTF นี้ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนไม่เกินปีละ 1 ครั้ง สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ASP-LTF ย้อนหลัง 3 เดือน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 14.52% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 28.85% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 36.26% ตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 32.68% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 41.69%* (เปรียบเทียบกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 31.10% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน)
กองทุนที่สอง คือ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาวทวีกำไร (ASP-GLTF) มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพของการเพิ่มขึ้นของราคาสูงเมื่อเทียบกับราคาตลาด (High Beta Stocks) และมีการบริหารกองทุนโดยเลือกลงทุนผสมทั้งในหุ้นคุณค่า (Value Stock) และหุ้นเติบโต (Growth Stock) ตามสภาวการณ์ที่เหมาะสม โดยกองทุนนี้ไม่มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ASP-GLTF ย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 14.32% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 28.84 ตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 32.97% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 32.07%* (เปรียบเทียบกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 35.90% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน)
กองทุนสุดท้าย คือ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-ERF) มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีอัตราการเจริญเติบโตสูงผล สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ASP-ERF ย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 14.45% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 28.85% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 35.82% ตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 32.30% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 36.02%* (เปรียบเทียบกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 25.67% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน)
โดยหากเปรียบเทียบผลตอบแทนของกองทุนตราสารแห่งทุนของบลจ.แอสเซท พลัส จำกัด ทั้ง 4 กองทุน กับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แล้วนั้น จะเห็นว่า ทั้ง 4 กองทุนของบริษัทฯ ได้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ อยู่ที่ 8.85% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 25.50% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 23.23% และตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 24.37%
* คำนวณตามเกณฑ์มาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
ติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1019 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th