กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--IR PLUS
"เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป" หรือ PLAT อวดผลประกอบการปี 60 นิวไฮ!! ตัวเลขรายได้และกำไรเติบโต 2 หลัก โดยรายได้รวม 2,059 ลบ. เพิ่มขึ้น 196 ลบ. หรือ 11% พร้อมโชว์กำไร 772 ลบ. เพิ่มขึ้น 68 ลบ. หรือ 10% จากปี 59 ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.20 บ./หุ้น ขึ้นXD วันที่ 7 พ.ค. 61 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พ.ค. 61
นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าส่งและค้าปลีกรวมทั้งบริหารพื้นที่ค้าส่งและค้าปลีกให้เช่าเพื่อการพาณิชย์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 60 นิวไฮ!! ตัวเลขรายได้และกำไรเติบโต 2 หลัก โดยรายได้รวม 2,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196 ล้านบาท หรือ 11% พร้อมโชว์กำไร 772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68 ล้านบาท หรือ 10% จากปี 59 ส่วนกำไรขั้นต้นปี 60 เพิ่มขึ้น 145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 59 มาจากธุรกิจให้เช่าและบริการ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นรายได้หลัก 63%
โดยปัจจัยหลักที่ส่งเสริมอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากปี 59 แบ่งตามประเภทรายได้ดังนี้ รายได้จากการให้เช่าและบริการปี 60 รวม 1,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152 ล้านบาท คิดเป็น 14% จากปี 59 เนื่องจากมีการปรับสัญญาค่าเช่าระหว่างปีที่สิ้นสุดสัญญาเช่า ของศูนย์การค้าส่ง เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และการทำสัญญาเช่าเหมาพื้นที่ส่วนกลางมาบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนำพื้นที่ปล่อยให้เช่าทำกิจกรรม
รายได้จากการประกอบกิจการปี 60 รวมโรงแรม 395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท คิดเป็น 8% จากปี 59 เนื่องจากมีปรับอัตราค่าห้องพักขึ้น 7% และมีกลุ่มลูกค้า MICE (กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาประชุมสัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการแสดงสินค้า) ประกอบกับไตรมาสที่ 3 ปี 60 มีการเพิ่มห้องพักขึ้นมาจากเดิม 283 ห้อง เป็น 288 ห้อง ส่งผลให้บริษัทมีรายได้สูงขึ้น รวมทั้งในไตรมาส 4 ปี 60 มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 90% ส่งผลให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปี 60 เป็น 88% ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยในปี 60 มีมากถึง 35.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9% จากปี 59
ส่วนรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มปี 60 รวม 269 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 ล้านบาท คิดเป็น 9% จากปี59 เนื่องจากมีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในศูนย์อาหารเพิ่มขึ้น และมีการปรับร้านอาหารให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้าให้มากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัททำแผนการตลาดร่วมกับบริษัทนำเที่ยวอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม ส่งผลให้มีจำนวนผู้มาใช้บริการภายในศูนย์การค้าส่ง เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15% และนอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้อื่นๆอีกรวม 136 ล้านบาท
สำหรับการจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เห็นชอบเสนอให้นำเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติสำหรับงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.ถึง 31 ธ.ค. 60 อัตราจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.20 บาท/หุ้น ในวันที่ 23 พ.ค. 61
มั่นใจเปิดตัวศูนย์การค้าปลีก เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก บนถนนราชดำริ ปลายปี 61 หนุนรายได้เติบโตก้าวกระโดด ด้านงานขายพื้นที่เช่าร้านค้า สำหรับร้านค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ทางทีมงานฝ่ายขายพื้นที่เช่าได้มีการนำเสนอพื้นที่ขายไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 ปี 60 และปัจจุบันยังมีการนำเสนอเพิ่มเติมอยู่ และในบางรายอยู่ในระหว่างรออนุมัติทำสัญญากันทั้งสองฝ่าย
ส่วนร้านค้ารายย่อยในหมวดสินค้าแฟชั่น หลังจากที่ได้เปิดสำนักงานขายโครงการอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 18 ม.ค.61 ที่บริเวณชั้น 10 ศูนย์การค้าส่ง เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ไปแล้วนั้น มีร้านค้าติดต่อขอดูตัวอย่างโครงการ พร้อมยื่นแบบสินค้าและร้านค้ารอจับจองพื้นที่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางบริษัทได้เปิดสำนักงานขายให้ผู้ประกอบการร้านค้าได้มาชมและสอบถามรายละเอียดอย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดรับให้ยื่นแบบร้านค้าและสินค้าเอาไว้ เพื่อทางผู้บริหารโครงการจะได้ช่วยแนะนำและจัดสรรพื้นที่ทำเลที่เหมาะสมที่สุดให้กับร้านค้าและสินค้านั้นได้มีโอกาสวางจำหน่ายสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละโซนที่จัดวางไว้ สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อเยี่ยมชมโครงการได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์เวลา 09.30 – 17.30 น. หรือโทรสอบถาม ได้ที่ โทร. 02-121-8888 อีเมล info@themarketbangkok.com หรือช่องทาง www.facebook.com/themarketbangkok/
สำหรับรายละเอียดโครงการศูนย์การค้าปลีกเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ขนาดที่ดินประมาณ 20 ไร่ พื้นที่ก่อสร้างประมาณ 200,000 ตรม. (ไม่รวมพื้นที่โรงแรม และอาคารสำนักงาน)พื้นที่ให้เช่าประมาณ 40,000 ตรม. ที่จอดรถประมาณ 2,000 คัน พื้นที่ศูนย์การค้า จำนวน 6 ชั้น กำหนดการเปิดให้บริการในปลาย ปี 61
จุดเด่นคือของโครงการคือเป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนราชดำริ ย่านราชประสงค์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางย่านธุรกิจ (Central Business District : CBD) และการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยซึ่งมีผู้สัญจรและใช้ชีวิตจำนวนมากกว่า 2 ล้านคน (โดยแบ่งเป็นสัดส่วนผู้คนที่พักอาศัยกว่า 2.5 แสนครัวเรือน (เฉลี่ยครัวเรือนละ 2 คน)และนอกจากนี้ยังมีผู้คนสัญจร คนทำงาน ในศูนย์กลางนี้อีก 1.5 ล้านคน) กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่ม B พื้นที่โดยรอบของโครงการมีการคมนาคมขนส่งแสนสะดวกสบาย ซึ่งลูกค้าสามารถเดินทางมาได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางรถ ทางเรือ และรถไฟฟ้า ซึ่งเส้นทางที่เป็นที่นิยมและสะดวกที่สุดคือ "ราชประสงค์วอล์ค"หรือ R-Walk ทางเดินลอยฟ้าที่สามารถเดินเข้าสู่พื้นที่ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ได้ทันที โดยสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าชิดลม และสถานีสยาม ได้อย่างสะดวกสบาย จากการที่ เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ได้ร่วมทุนก่อสร้างทางเดินลอยฟ้าดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับผู้มาใช้บริการที่ศูนย์การค้าปลีก เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ตลอดจนมอบเป็นสาธารณประโยชน์ต่อ ผู้สัญจรในย่านดังกล่าวอีกด้วย