กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก ให้ความสำคัญการประชุมเฟดในเดือนมีนาคม คาดมีโอกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยสูง ส่วนเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง คณะกรรมการ EEC เตรียมเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และโครงการรถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,785 -1,825 จุด แนะเก็งกำไรกลุ่มพลังงาน PTT -PTTEP -PTTGC -IRPC ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 63.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านราคาทองคำ แนะเก็งกำไรในกรอบ 1,320–1,360 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงจากการที่กลุ่มโอเปกให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าลดการผลิตน้ำมันตามสัญญาจนถึงสิ้นปีนี้ และความตึงเครียดในดินแดนปาเลสไตน์ที่ปะทุขึ้นหลังสหรัฐประกาศเปิดสถานทูตในเยรูซาเลมเดือนพ.ค.นี้ส่งผลบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยต้นปี 61 มีแนวโน้มขยายตัวดีขานรับการส่งออกเติบโตดี การบริโภคการลงทุนภาคเอกชนและภาคท่องเที่ยวที่เติบโตเช่นกัน
รวมทั้งความคืบหน้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้ข้อสรุปเตรียมเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กรุงเทพฯ-ระยอง (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) รวมทั้งเห็นชอบให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) พร้อมทั้งให้ทำการศึกษาการขยายพื้นที่โครงการล่วงหน้าภายหลังจากที่ พ.ร.บ. EEC มีผลบังคับใช้แล้ว เพื่อให้เป็นไปตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC ที่มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมกันในปี 2566
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความกังวลจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ หลังจากผลการวิเคราะห์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 83% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้ และการที่ fund flow ยังคงผันผวน โดยในช่วง 1 เดือนย้อนหลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3.9 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตา ในวันที่ 27 ก.พ. นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกของเขาต่อรัฐสภาสหรัฐ ,วันที่ 28 ก.พ. สหรัฐ เปิดเผย GDP 4Q/2560 (ประมาณการครั้งที่2) และในวันเดียวกันธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และเป็นกำหนดวันสุดท้ายของบริษัทจดทะเบียนในการส่งงบการเงินปี 60 ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มีกำหนดแถลงดัชนีอุตสาหกรรม และในวันที่ 6 มี.ค. ศาลตัดสินคดีความหงสาเวลา 9.00 น. มีผลกับ BANPU – BPP
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด คาดทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มบวกต่อจากปัจจัยบวกด้านแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีในช่วงไตรมาสแรกของปี 61 และปัจจัยกดดันหลักๆยังเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและ fund flow ที่ยังผันผวน ประเมิน SET ผันผวนในกรอบ 1,785 -1,825 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ PTT, PTTEP, PTTGC และ IRPC ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 63.5 ดอลลาร์/บาร์เรล รวมถึง GPI คาดกำไรปี 2561 ราว 158 ล้านบาท เติบโต 13% จากปีก่อน ซึ่งยังไม่รวมงานมอเตอร์โชว์ที่พม่าและงาน Air Race I ในไทยครั้งที่ 3 และ IVL และ MINT ได้แรงหนุนจากดัชนี MSCI เพิ่มน้ำหนักลงทุน มีผล 28 ก.พ.นี้
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มทรงตัวมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะสั้นหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เข้าใกล้ระดับ 3% ทำให้การเคลื่อนไหวของเงินบาทแกว่งแบบ sideway down ใกล้ระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีความผันผวนลดลง ทำให้ราคาทองคำภายในประเทศในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มจะแกว่งแคบลง
ในขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในรูปดอลลาร์สร้างรูปแบบสามเหลี่ยมทางเทคนิค จึงมีแนวโน้มจะแกว่งแคบลงเช่นกัน โดยนักลงทุนควรจับตาโอกาสที่ราคาจะ breakoutในช่วงปลายสัปดาห์นี้ถึงต้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ คาดการณ์กรอบสัปดาห์ระหว่าง 1,320–1,360 ดอลลาร์ แนะนำนักลงทุนเก็งกำไรในกรอบดังกล่าว โดยแบ่งส่วนมาเล่นเน้นปิดทำกำไรเร็ว และอีกส่วนดักจังหวะเล่น breakout follow