เกษตรฯ ดีเดย์เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้แล้งเป็นทางการ เชื่อมทีมอาสาสมัครร่วมวิเคราะห์สภาพอากาศและสภาพพื้นที่จริงรายงานตรงเข้าศูนย์ฝนหลวง 5 แห่ง

ข่าวทั่วไป Friday March 2, 2018 13:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2561 อย่างเป็นทางการ ณ สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกในการเปิดปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากการเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งอย่างเป็นทางการ เพื่อปฏิบัติภารกิจหลักของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร คือ ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรและผู้ใช้น้ำทั่วทั้งประเทศทั้งในพื้นที่ในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน รวมถึงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับระบบบริหารจัดการน้ำ ขณะเดียวกันปัจจุบันกรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังได้รับการร้องขอให้ปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติ หรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน อาทิ สถานการณ์หมอกควันและไฟป่าควันพิษ รวมถึงการยับยั้งพายุลูกเห็บ สำหรับแผนปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี 2561 ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลที่กำชับให้ทุกหน่วยงานมุ่งดำเนินงานเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและประชาชน โดยจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการ รวมถึงพัฒนาอาสาสมัครฝนหลวงร่วมเป็นทีมงานในการแจ้งสภาพอากาศ สอนวิธีการดูเมฆที่เหมาะสม และที่สำคัญคือการทำฝนหลวงต้องไม่กระทบต่อการเพาะปลูกของเกษตรกร โดยรายงานมายังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงที่รับทราบข้อมูล และนำมาวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวงเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ยังให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาในการรายงานสภาพอากาศประจำวันที่แจ้งให้ประชาชนรับทราบ โดยเพิ่มเติมข้อมูลการปฏิบัติการฝนหลวงด้วยกรณีที่พื้นที่ใดมีการขึ้นปฏิบัติการและจะมีการฝนเกิดขึ้นจากการขึ้นบินฝนหลวง เพื่อให้ประชาชนรับรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานศาสตร์ฝนหลวงไว้ให้ นำมาช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ป่าไม้ และประชาชนคนไทยให้รอดพ้นจากความทุกข์ยากอย่างยั่งยืน "สถานการณ์ช่วงฤดูแล้งในปีนี้ ซึ่งถือว่าสภาพน้ำเก็บกับในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศในภาพรวมถือว่ายังมีปริมาณน้ำเพียงพอ แต่สิ่งที่ทางกระทรวงเกษตรฯ กังวล คือ เมื่อปริมาณน้ำมาก ขณะที่พืชผลทางการเกษตรหลายตัวราคาดี เช่น ข้าว ก็เกรงว่าเกษตรกรจะปลูกข้าวนอกฤดูกาลมาก ก็อาจจะเสี่ยงกับการขาดแคลนน้ำได้ ขณะเดียวกัน เมื่อผลผลิตมากราคาก็จะตกต่ำ จึงขอความร่วมมือเกษตรกรในเขตชลประทานสามารถทำการเกษตรได้แต่ควรทำเกษตรแบบพืชใช้น้ำน้อย หรือการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดผลกระทบต่อผลผลิตที่จะเสี่ยงหายหากต้องประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอ" นายกฤษฏา กล่า ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรและผู้ใช้น้ำทั่วทั้งประเทศ รวมถึงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศ โดยมีแผนปฏิบัติการประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม โดยจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ ภาคเหนือ จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 1 หน่วยฯ จังหวัดขอนแก่น ภาคกลาง จำนวน 2 หน่วยฯ จังหวัดนครสวรรค์ และกาญจนบุรี ภาคตะวันออก จำนวน 1 หน่วยฯ จังหวัดจันทบุรี และภาคใต้ จำนวน 1 หน่วยฯ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวง ยังมีความร่วมมือจากหน่วยงานร่วมบูรณาการที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สนับสนุนน้ำแข็งแห้งในการปฏิบัติการฝนหลวง กรมชลประทานและกรมป่าไม้ เรื่องบริหารจัดการน้ำและการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ การวิจัยพัฒนาจรวดดัดแปรสภาพอากาศ กับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ดำเนินโครงการอากาศยานไร้คนขับ UAV กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง การดำเนินงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้สนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวงเกี่ยวกับการดัดแปรสภาพอากาศโดยพลุสารดูดความชื้นและพลุสารซิลเวอร์ไอโอไดร์ กับกองทัพอากาศ และการวิจัยสารฝนหลวงทางเลือก กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ