กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--ONE Championship
เรื่องของอายุกลายเป็นที่พูดถึงอยู่เสมอในวงการศิลปะการป้องกันตัวสมัยใหม่ เนื่องจากมีนักกีฬาจำนวนมากที่ยังเลือกแข่งขันต่อในระดับสูง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะผ่านจุดสูงสุดของตัวเองมาแล้ว
มีนักกีฬาบางคนที่ยังคงมีแรงผลักดัน และประสบความสำเร็จในช่วงอายุ 30 กลางๆจนถึงเกือบ 40 ปี ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากร่างกายและสภาพจิตใจที่สึกหรอไปตามวัย อันเป็นธรรมชาติของอาชีพนักกีฬานั่นเอง แต่ก็มีอีกหลายคนที่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าสุดท้ายแล้ว อายุก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข
ซึ่งเดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค ยอดฝีมือจอมเก๋าชาวไทยคือหนึ่งในนักกีฬาดังกล่าว จ้าตัวมีกำหนดการขึ้นสังเวียนกรงในศึก ONE Championship วันที่ 24 มีนาคมนี้
เดชดำรงค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่ดีสุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา เขาได้สร้างชื่อเสียงจนพาตัวเองขึ้นไปจุดสูงสุดของวงการคิกบ็อกซิ่งโลก พร้อมดีกรีแชมป์เวทีลุมพินี 3 สมัย ในพิกัด 2 รุ่นที่แตกต่างกัน
หลังจากเดชดำรงค์ได้ผันตัวเข้าสู่สังเวียนกรง เจ้าตัวก็สามารถคว้าแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวตของ ONE มาได้ ด้วยการพิชิต Roy Doliguez อดีตแชมป์ชาวฟิลิปปินส์ เมื่อพฤษภาคม 2015 และด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี เดชดำรงค์ยังคงไม่หมดไฟที่จะพาวัย 39 ปีของตัวเองสร้างความภาคภูมิใจและเกียรติยศให้กับแผ่นดินเกิดต่อไป
"ศิลปะการป้องกันตัวเกี่ยวข้องกับชีวิตผมมากเหลือเกิน ผมฝึกซ้อมอย่างหนักในทุกๆวันถึงแม้จะไม่มีโปรแกรมแข่งขัน ผมต้องทำให้ตัวเองมั่นใจอยู่เสมอว่าได้เรียนรู้เทคนิกใหม่ๆ และเพื่อรักษาสภาพร่างกายให้ดีเยี่ยม มันไม่ใช่เพราะเป็นอาชีพ แต่มันคือวิถีชีวิตของผม" เดชดำรงค์กล่าว
"ผมรักที่จะได้เผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เก่งที่สุด ผมรักในขั้นตอนของการเตรียมตัว และรักที่จะได้ขึ้นสังเวียน มันคือเลือดนักสู้ที่มีอยู่ในตัวผม" เขากล่าวเสริม
สำหรับไฟต์ล่าสุดของเขานั้นคือการพ่ายต่อ Riku Shibuya ชาวญี่ปุ่น เมื่อธันวาคมที่ผ่านมา ด้วยการถูกจับซับมิสชั่นตั้งแต่ยกแรก ซึ่งถือว่าเป็นการแพ้ครั้งที่ 3 จาก 4 ไฟต์ล่าสุดใน ONE Championship โดยจุดเริ่มต้นนั้นรวมไปถึงการแพ้ Yoshitaka Naito ในการป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวตของ ONE เมื่อพฤษภาคม 2016 นั่นเอง
แม้ว่าบรรดากูรูหลายคนเชื่อว่าเขาควรจะแขวนนวมได้แล้ว เนื่องจากอายุที่มากขึ้น แต่เดชดำรงค์ยังมั่นใจว่าตนยังดีพอสำหรับวงการนี้
"ผมไม่ได้ใส่ใจมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องอายุ หลายคนบอกว่ามันก็แค่ตัวเลข ผมยังสนุกกับการแข่งขันและมีแผนในอนาคตอยู่เสมอ ผมต้องการแสดงให้เห็นว่า ถ้าคุณดูแลตัวเองเป็นอย่างดีและมีความทุ่มเท คุณก็สามารถลงแข่งขันได้นานตราบเท่าที่คุณต้องการ ท้ายที่สุด ทั้งหมดก็มาจากวินัยและการฝึกซ้อมอย่างหนักด้วย" เดชดำรงค์กล่าวเพิ่มเติม
หลังจากการพ่ายแพ้เมื่อธันวาคมที่แล้ว เดชดำรงค์ได้โอกาสกลับมากู้ชื่ออีกครั้ง ด้วยการพบกับ Jeremy Miado ชาวฟิลิปปินส์ ในศึก ONE : IRON WILL ที่จะจัดขึ้น ณ อิมแพ็ค อารีน่า ประเทศไทย ในวันที่ 24 มีนาคมนี้
ด้าน Miado ก็กำลังมองหาชัยชนะครั้งแรกของตัวเองใน ONE Championship ซึ่งหวังที่จะพิชิตเดชดำรงค์ เพื่อให้ตนเองกลับสู่เส้นทางอาชีพให้จงได้
"ผมตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะชนะในไฟต์นี้ ผมรู้สึกพร้อมและมั่นใจว่าจะชนะได้ ผมไม่ได้วางแผนอะไรเป็นพิเศษในการเผด็จศึก แต่ก็จะเต็มที่แน่นอนเมื่อถึงเวลานั้น ผมจะซ้อมให้หนักและทำทุกอย่างเพื่อคว้าชัยชนะ" นักกีฬาชาวฟิลิปปินส์กล่าว