กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิตอลและการเชื่อมต่อเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลก มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยการนำเอาไอทีหรือเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาใช้ เพื่อเพิ่มผลผลิตเป็นหลัก ในช่วงที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนให้ความสนใจบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่ม มากขึ้น โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดัชนี MSCI World Information Technology ปรับตัวขึ้นมากว่า 138.6% (ข้อมูล จาก Bloomberg วันที่ 18/03/2013 ถึง 14/03/2018)
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์ กล่าวว่า ปัจจุบันภาคธุรกิจได้นำเทคโนโลยีดิจิตอลที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นและทำให้ การแข่งขันในตลาดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเข้าถึงสินค้าและบริการของผู้บริโภคสามารถทำได้ง่ายและมีหลากหลายช่องทางในทางกลับกันผู้ขายสินค้าและบริการก็สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น กว้างขึ้น และตรงกลุ่มมากขึ้น นอกจากนี้ระบบ Big data ยังมีส่วนช่วยในการจัดการคลังสินค้าของร้านค้าต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ในแง่ของผู้บริโภค เทคโนโลยีดิจิตอลได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของเรามาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการซื้อสินค้าและบริการ รวมไปถึงธุรกรรมทางการเงิน ที่มีการทำธุรกรรมบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น การที่เราเข้าสู่ยุคที่ทุกคนต้องการรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ เทคโนโลยีดิจิตอลก็ได้เข้ามามีผลกระทบอย่างมากต่อรูปแบบการ ออกกำลังกายและการรับประทานอาหาร กล่าวคือ ผู้คนเริ่มมีการใช้อุปกรณ์ดิจิตอล เช่น smart watch หรือ application ต่างๆ เพื่อติดตามกิจกรรมที่เกิดขึ้นในระหว่างวันของตนเอง
กรรมการผู้จัดการ แอล เอช ฟันด์ กล่าวต่อว่า จากปัจจัยดังกล่าวจึงมองเป็นโอกาสดีของผู้ลงทุนที่จะกระจาย การลงทุนในหลักทรัพย์แห่งอนาคต บริษัทจึงเปิดตัวกองทุนเปิดแอล เอช ดิจิตอล อีโคโนมี หรือ LH DIGITAL ECONOMY FUND (LHDIGITAL) โดยเป็นกองทุน Feeder Fund ลงทุนในกองทุน AXA World Funds-Framlington Digital Economy ซึ่งเป็นกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ซึ่งบริหารการลงทุนโดย AXA Funds Management S.A. กลยุทธ์ในการลงทุนจะเน้นลงทุนในบริษัทที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของประสบการณ์ การบริโภคออนไลน์ ได้แก่
1) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาสินค้าและบริการ เช่น การทำการตลาดและโฆษณาออนไลน์ การค้นหา ทางออนไลน์ และ social media
2) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
3) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบ เช่น บริษัทที่เกี่ยวกับการชำระเงินและการขนส่ง
4) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Digital data and Enablers โดยทั้งหมดนี้ล้วนเป็นซัพพลายเออร์ที่สำคัญด้านเทคโนโลยีที่ช่วยในการเปลี่ยนถ่ายไปยังยุคดิจิตอลของภาคธุรกิจ
" LHDIGITAL จะเสนอขายครั้งแรก 21-28 มีนาคม 2561 โดยมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท กำหนดเงินลงทุนครั้งแรกและครั้งถัดไปขั้นต่ำ 5,000 บาท ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกรับผลประโยชน์ได้ 3 รูปแบบ คือ ชนิดสะสมมูลค่า (LHDIGITAL-A) ชนิดจ่ายเงินปันผล (LHDIGITAL-D) และชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (LHDIGITAL-R) สำหรับเรื่องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้หากผู้ลงทุนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนการลงทุนได้ที่ LH Fund โทร 0 2286 3484 ต่อ 211-214 หรือ www.lhfund.co.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ LH Bank ทุกสาขา โทร 0 2359 0000 หรือตัวแทนขาย"