กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยให้บริการรับ-ส่งเงินด่วนระหว่างประเทศเวสเทิร์น ยูเนี่ยน ผ่านบริการ KTB netbank เป็นธนาคารแรกในประเทศไทย เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว รองรับยุคดิจิทัล ตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ 5- 10%
หม่อมหลวงณัฏฐ์ชัญญา ทวีวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเปิดให้บริการรับ-ส่งเงินด่วนระหว่างประเทศเวสเทิร์น ยูเนี่ยน สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีกับธนาคาร ผ่านบริการ KTB netbank เว็บไซต์ และ โมบายแอปพลิเคชั่น โดยสามารถใช้บริการได้ทั้งระบบ iOS และ Android เป็นธนาคารรายแรกในประเทศไทย ด้วยรหัสรับ-ส่ง เพียง 10 หลัก เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัวและปลอดภัยให้กับลูกค้า ด้วยขั้นตอนการทำธุรกรรมง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน พร้อมระบบความปลอดภัยโดยยืนยันการทำรายการด้วยรหัส TOP สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในโลกยุคดิจิทัลที่นิยมการทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟน
สำหรับการลงทะเบียนใช้บริการรับ-ส่งเงินด่วนระหว่างประเทศเวสเทิร์น ยูเนี่ยน ผ่าน KTB netbank ครั้งแรก สามารถแจ้งลงทะเบียนใช้บริการที่สาขาได้ โดยใช้สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ktbnetbank.com ส่วนลูกค้าที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ที่ต้องการความเร่งด่วนในการทำธุรกรรมรับ-ส่งเงินระหว่างประเทศเวสเทิร์น ยูเนี่ยน ผ่านช่องทางสาขา สามารถใช้รหัสรับ-ส่งเงิน 10 หลักเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร โดยใช้บริการได้ทุกจุดบริการทั่วโลก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTB Call Center 02-111-1111
หม่อมหลวงณัฏฐ์ชัญญา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้ร่วมกับ บริษัทเวสเทิร์น ยูเนียน ผู้ประกอบการโอนเงินระหว่างประเทศรายใหญ่ของโลก ให้บริการการรับ-ส่งเงินด่วนระหว่างประเทศ ผ่านบริการกรุงไทย เวสเทิร์น ยูเนี่ยน ที่สาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปี 2561 ตั้งเป้าเติบโต 5-10% จากการเพิ่มช่องทางการให้บริการผ่าน KTB netbank ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการก้าวสู่ Future Banking ธนาคารแห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ
นายอาทิช เชรสทา ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคอินโดจีน เวสเทิร์น ยูเนี่ยน เซอร์วิสเซส สิงคโปร์ พีทีอี ลิมิเต็ด กล่าวว่า เวสเทิร์น ยูเนี่ยน ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทยในการพัฒนาระบบการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน KTB netbank เนื่องจากเห็นว่า ลูกค้าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือเพิ่มมากขึ้น และเชื่อว่าการพัฒนาระบบและให้บริการในครั้งนี้ จะสามารถรองรับความต้องการของลูกค้า และส่งผลให้ปริมาณธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น