ปภ.เตือนขับรถเกียร์อัตโนมัติขาดการใส่ใจ – ไม่ระมัดระวัง...เสี่ยงอุบัติเหตุ

ข่าวทั่วไป Friday April 20, 2018 11:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เรียนรู้การใช้งานเกียร์อัตโนมัติอย่างถูกวิธี โดยสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P และเหยียบเบรกค้างไว้ เลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสม กับสถานการณ์ ใช้เกียร์ต่ำเมื่อขับรถลงทางลาดชัน เพิ่มความระมัดระวังขณะขับรถผ่านเส้นทางที่การจราจรติดขัด ไม่เปลี่ยนเกียร์ในขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เหยียบเบรกค้างไว้เมื่อเปลี่ยนเกียร์จาก N ไป D หรือ R กรณีหยุดหรือจอดรถในช่วงเวลาสั้นๆควรเหยียบเบรกค้างไว้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่ง N กรณีหยุดเป็นเวลานาน ควรเลื่อนเกียร์ไปตำแหน่งตัว N แล้วดึงเบรกมือ กรณีจอดรถบริเวณที่ลาดชันหรือลงจากรถชั่วคราว ควรเลื่อนเกียร์ไปตำแหน่ง P ที่สำคัญห้ามเลื่อนเกียร์ไว้ตำแหน่ง D แล้วดึงเบรกมือ เพราะเบรกมือไม่สามารถหยุดการเคลื่อนที่ของรถ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า บ่อยครั้งที่มักเกิดอุบัติเหตุ กับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากผู้ขับขี่ขาดความระมัดระวัง และไม่เข้าใจระบบการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ขับขี่เรียนรู้การใช้งานเกียร์อัตโนมัติอย่างถูกวิธี ดังนี้ การขับรถ สตาร์ทเครื่องยนต์ขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P และเหยียบเบรกค้างไว้ เพราะหากเกียร์คร่อมอยู่ในตำแหน่ง P– R แรงสั่นสะเทือนอาจทำให้เกียร์เลื่อนไปตำแหน่งเกียร์ R ส่งผลให้รถถอยหลัง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งาน เกียร์ P ใช้สำหรับจอดรถในตำแหน่งที่ไม่กีดขวางรถคันอื่น หรือจอดบริเวณ ที่ลาดชัน เกียร์ R ใช้สำหรับถอยหลัง ซึ่งผู้ขับขี่ควรเหยียบเบรกทุกครั้งที่เข้าเกียร์ถอยหลัง เกียร์ N เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้กรณีหยุดรถชั่วคราวบนทางราบ หรือจอดรถกีดขวางเส้นทาง เกียร์ D ใช้สำหรับขับรถในเส้นทางปกติ เกียร์ S L หรือ D3 ใช้เมื่อขับผ่านเส้นทางลาดชัน และต้องใช้ความเร็วต่ำ ใช้เกียร์ต่ำเมื่อขับรถลงทางลาดชัน เพื่อช่วยฉุดกำลังและชะลอ ความเร็วรถ ห้ามใช้เกียร์ว่าง เพราะไม่มีกำลังเครื่องช่วยเบรกและชะลอความเร็ว เพิ่มความระมัดระวังขณะขับรถผ่านเส้นทาง ที่มีการจราจรติดขัด ห้ามยกเท้าออกจากแป้นเบรกในขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง D เพราะรถจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่เปลี่ยนเกียร์ในขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัว ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ควรเปลี่ยนเกียร์ ในขณะที่รถจอดอยู่กับที่ เหยียบเบรกค้างไว้เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จาก N ไป D หรือ R เพื่อป้องกันรถเดินหน้า หรือถอยหลังอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ การหยุด – จอดรถ กรณีหยุดหรือจอดรถในช่วงเวลาสั้นๆ ควรเหยียบเบรกค้างไว้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่ง N กรณีหยุดรถเป็นเวลานาน ควรเลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง N และดึงเบรกมือ กรณีจอดรถบริเวณที่ลาดชันหรือลงจากรถชั่วคราว เลื่อนเกียร์ไปตำแหน่ง P พร้อมดึงเบรกมือเพื่อป้องกันรถลื่นไถล ห้ามเลื่อนเกียร์ ไว้ตำแหน่ง D แล้วดึงเบรกมือ เพราะเบรกมือไม่สามารถหยุดการเคลื่อนที่ของรถได้ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรศึกษาและเรียนรู้ระบบการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ โดยจดจำตำแหน่งเกียร์ และการใช้งานของเกียร์แต่ละตำแหน่ง พร้อมฝึกฝนการใช้เกียร์ ให้เกิดความชำนาญ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ