สค. ปล่อยหมัดเด็ด ไทยเทรดดอทคอม

ข่าวทั่วไป Monday April 23, 2018 14:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เชื่อมสู่ตลาดโลก เล็งสร้างมูลค่าซื้อขายระดับหมื่นล้านภายในปี 64 สืบเนื่องจาก วันที่ 19 เมษายน 2561 นายแจ๊ก หม่า ประธานกรรมการบริหารบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group)พร้อมคณะผู้บริหาร เดินทางมาเยือนประเทศไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมร่วมหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการลงทุนบนพื้นที่อีอีซี รวมถึงการเชื่อมอีมาร์เก็ตเพลสทั้งสองประเทศ เพื่อเปิดตลาดให้กับผู้ประกอบการรายย่อยและวิสาหกิจชุมชนได้เพิ่มรายได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและอาลีบาบา กรุ๊ป ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศแผนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) โดยมีการลงนามกับกระทรวงอุตสาหกรรม 4 ด้าน ได้แก่ 1.โครงการลงทุนสร้างศูนย์ Smart Digital Hub ในพื้นที่อีอีซี เพื่อเป็นศูนย์ประมวลข้อมูลโลจิสติกส์รองรับขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน ข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นทั่วโลก 2.โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรรองรับการส่งเสริมธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยอาลีบาบา จะร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มุ่งพัฒนากลุ่มคนที่มีศักยภาพหรือดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) โดยอาลีบาบาเสนอให้วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา นำ Platform E-Commerce มาใช้อบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการไทย 3.โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการ SME และสตาร์ตอัพของไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการสตาร์ตอัพระดับชุมชนทั่วประเทศ 4.อาลีบาบา เตรียมร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำ Thailand Tourism Platform บนออนไลน์เชื่อมโยงข้อมูลทางการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวชุมชน คาดว่ารายได้จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะเติบโต 113,400 ล้านบาท ในปี 2561 เพิ่มเป็น 186,500 ล้านบาท ในปี 2565 สำหรับโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและส่งเสริมบุคลากรไทยในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่ม SME หรือ วิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งการค้าออนไลน์ พร้อมเชื่อมโยงไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมีแผนลงทุนพัฒนาศูนย์ Smart Digital Hub พร้อมแนะนำ Thai Rice Tmall Flagship Store เพื่อเปิดการซื้อ-ขายข้าวไทยผ่านเว็บไซต์ ที-มอลล์ แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ของอาลีบาบา" นายสมคิด กล่าว ด้านนางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กล่าวว่า ทางนายแจ๊ก หม่า ประธานกรรมการบริหารบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ได้มีเป้าหมายสำคัญที่จะมาช่วยผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยให้มีความสามารถแข่งขันได้มากขึ้น โดยเชื่อมสินค้าเกษตรเข้ามาสู่การค้าทางออนไลน์ ขณะที่ทางผู้ประกอบการ ก็เริ่มมีความตื่นตัวในการทำการค้าออนไลน์มากขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะทำผ่านเว็บไซต์ทั่วไป ซึ่งขาดความน่าเชื่อถือ นั้นจึงเป็นหน้าที่ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการส่งเสริมและสนับสนุนในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นช่องทางตลาด การสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำการค้าออนไลน์ รวมไปถึงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อให้ SMEs และ วิสาหกิจชุมชนได้มีช่องทางการส่งออกสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ทางอาลีบาบาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เช่น ทุเรียนรวมถึงผลไม้ต่างๆ เพราะประเทศในอาเซียนส่วนใหญ่ มีการผลิตสินค้าเกษตรปริมาณมาก แต่ด้วยช่องทางการระบายสินค้าเกษตรมีอยู่จำกัดทำให้ประสบปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรอยู่บ่อยครั้ง ในส่วนนี้จึงอาจได้อาลีบาบามาช่วยดูแลเรื่องการขายปาล์ม ข้าว และยางพาราของไทยผ่านเว็บไซต์ ที-มอลล์ อย่างไรก็ตาม นอกจากสินค้าเกษตรที่ทางประเทศจีนสนใจแล้ว ยังมีอีกหลายสินค้าที่ได้รับความสนใจ เช่น หมอนยางพารา ผลิตภัณฑ์สปา อาหารแปรรูปประเภทขนมขบเคี้ยว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์โอทอปของไทย เพราะถือเป็นสินค้าที่มีอัตลักษณ์และได้รับความนิยมมากในประเทศจีน เป็นกระตอกย้ำว่ายังมีสินค้าอีกมากมายที่มีโอกาสเพิ่มพูนรายได้จากตลาดจีน นางจันทิรา กล่าวต่อว่า สำหรับกลไกการซื้อขายทางเว็บไซต์ที-มอลล์จะเลือกสินค้าที่จะนำไปขายที่ประเทศจีนผ่านเว็บไซต์ไทยเทรดดอทคอม อีมาร์เก็ตเพลส ซึ่งเป็นเว็ปไซต์ของไทยที่จัดตั้งโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวมสินค้าไทยคุณภาพดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดสภาพคล่องทางการค้าอย่างมาก และสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าต่างประเทศมากยิ่งขึ้น "ด้านการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพพร้อมรับมือกับการค้าขายที่ใหญ่ขึ้น ทางรัฐบาลได้มีเครื่องมือมากมายเพื่อพัฒนาขีดความสามารถผู้ประกอบการรายย่อยหรือเกษตรกรด้านองค์ความรู้ในการทำการค้าออนไลน์ รวมไปถึงการยกระดับผู้ประกอบการทั่วไปสู่การเป็นนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น เพื่อสร้างมาตรฐานสินค้าและผู้ประกอบการให้มีคุณภาพก่อนจะนำเข้าสู่ไทยเทรดดอทคอมต่อไป ทั้งนี้ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังได้จับมือกับพันธมิตรอีมาร์เก็ตเพลสอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ อเมซอน อีเบย์ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขยายสินค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าหลังจากที่รัฐบาลได้จับมือกับอีมาร์เก็ตเพลสอย่างอาลีบาบาและอีกหลายประเทศแล้ว จะทำให้มูลค่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์ในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท จะสามารถเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวหรือประมาณหมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้าหรือในปีพ.ศ.2564" นางจันทิรา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ