กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--IR PLUS
FLOYD อวดผลงานไตรมาสแรกปีนี้ออกมาสวย มีกำไรสุทธิ 19.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 6,403% โกยรายได้จากการให้บริการ 101.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 207.75% จากการทยอยรับรู้รายได้งานคอนโดฯ และงานห้างสรรพสินค้าอย่างต่อเนื่อง "ทศพร จิตตวีระ" ประเมินแนวโน้มผลงานปี 2561 ฟื้นตัว ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15 - 20% จากการเร่งลงทุนงานโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสีต่างๆ ทำให้ภาคเอกชนเริ่มกลับมามีความมั่นใจในการลงทุนอีกครั้ง เผยบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานภาคเอกชน 5-6 โครงการ
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้า งานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และเครื่องกลแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ สำหรับงวดไตรมาส 1/2561 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561) บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 19.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6,403.33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 0.30 ล้านบาท โดยบริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการ 101.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 205.75% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 33.18 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นเนื่องจากการรับรู้รายได้งานอาคารสูง 5 โครงการ งานแนวราบ ซึ่งเป็นงานโครงการห้างสรรพสินค้า 4 โครงการ และงานปรับปรุง งานเพิ่มอื่นๆ อีก 6 โครงการ ส่งผลให้บริษัทสามารถทยอยรับรู้รายได้จากการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
"ผลงานในไตรมาสแรกที่ออกเป็นที่น่าประทับใจ ทั้งรายได้และกำไร โดยกำไรสุทธิโตมากถึง 6,403% เช่นเดียวกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 207% จากภาพรวมศรษฐกิจ และการลงทุนในประเทศกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ FLOYD ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานวางระบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการที่รวดเร็ว ด้วยทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจ ทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 33.63 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 5.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 507.3%" นายทศพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 2561 เชื่อว่าจะกลับมามีทิศทางสดใส จากภาคเอกชนที่ชะลอการลงทุนในปีก่อนหน้า เริ่มกลับมาลงทุน ประกอบกับ การเร่งลงทุนของโครงการภาครัฐบาล โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสีต่างๆ สะท้อนความเชื่อมั่นของการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศกลับมาดีขึ้น และเป็นโอกาสของบริษัทฯ ที่จะเข้าไปรับงานได้มากขึ้นเช่นกัน จึงตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตราว 15 - 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานภาคเอกชน 5-6 โครงการ เป็นโครงการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ซึ่งคาดว่าบริษัทฯมีโอกาสได้งาน คาดว่าจะทราบผลในช่วงไตรมาส 2-3/2561 นี้ สนับสนุนการรับรู้รายได้ให้แข็งแกร่งในอนาคต