กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
สมาคมการขายตรงไทย (TDSA : Thai Direct Selling Association) รุกให้ความรู้และเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงรายใหม่และรายปัจจุบัน ได้พบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ธุรกิจขายตรงในวงกว้าง กับสมาคมฯ ซึ่งเป็นสมาชิกระดับทองของสมาพันธ์การขายตรงโลก (WFDSA : World Federation of Direct Selling Associations) ผ่าน TDSA Open House ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงสมัครเป็นสมาชิกรายใหม่ ร่วมสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจขายตรงอย่างยั่งยืน มีจรรยาบรรณ เทียบเท่ามาตรฐานโลก โดยมีผู้เข้าร่วมงานร่วม 30 บริษัท
นางสุชาดา ธีรวชิรกุล นายกสมาคมการขายตรงไทย เผยว่า "เป็นครั้งแรกที่จัดงาน TDSA Open House ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเชิงรุกที่จะสร้างอุตสาหกรรมธุรกิจขายตรงให้เติบโต แข็งแรง ยั่งยืน ภายใต้ปณิธาน "ยึดมั่นจรรยาบรรณ สร้างสรรค์สังคมไทย" โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงทั้งรายใหม่ และที่ประกอบการมาแล้ว สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฯ โดยจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาตามเงื่อนไข อันดับแรกบริษัที่จะสมัครเป็นสมาชิก จะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงจาก สคบ. และต้องดำเนินธุรกิจขายตรงไม่น้อยกว่า 6 เดือน และที่สำคัญต้องมีนโยบายการรับประกันสินค้า และการรับคืน ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบขายตรง พ.ศ.2545 หรือตามข้อกำหนดจรรยาบรรณของสมาคมฯ แผนการจ่ายผลตอบแทน หรือแผนทางธุรกิจของบริษัท จะต้องไม่เข้าข่ายการระดมเงินทุนจากผู้จำหน่ายอิสระหรือผู้บริโภค เป็นต้น
นายกสมาคมฯ ยังได้ชูสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ เช่น รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงทั้งในและต่างประเทศ, สนับสนุนการดำเนินธุรกิจขายตรงของแต่ละสมาชิกให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น, มีโอกาสเป็นผู้แทนร่วมแสดงความคิดเห็น เสนอข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงให้แก่ภาครัฐ เพื่อร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจขายตรงให้เป็นที่ยอมรับแก่ผู้บริโภค สาธารณชน และภาครัฐมากขึ้น ปัจจุบันสมาคมฯ มีสมาชิกรวม 33 บริษัท ซึ่งมีส่วนแบ่งมูลค่าการตลาดกว่า 60% ของอุตสาหกรรมขายตรงไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้และประสบการณ์ในธุรกิจ ขายตรงระดับประเทศและระดับสากล ด้วยความเป็นมืออาชีพที่มีจรรยาบรรณเทียบเท่ามาตรฐานโลก ซึ่งสมาคมฯ เป็นองค์กรเดียวในประเทศไทยที่ได้รับเกียรติเป็นสมาชิกสมาพันธ์การขายตรงโลก ที่มีสมาชิกขายตรงมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก จึงมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูลในมุมมองหลากหลายระดับโลก