HLG แนะ 5 ประเทศน่าลงทุนในแถบคาริบเบียน ชี้ผลตอบแทนสูง ได้วีซ่ากว่า 130 ประเทศ พร้อมสิทธิพลเมืองในประเทศ

ข่าวทั่วไป Tuesday May 22, 2018 15:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--YSIS Asia ในปีที่ผ่านมา ประเทศในแถบแคริบเบียนจัดอยู่ในประเทศอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนจากนักธุรกิจผู้ซึ่งมองหาการลงทุนเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนจากตะวันตก แต่ยังมีจำนวนนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากจากประเทศในแถบอาเซียนอีกด้วย สืบเนื่องจากการแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจในแถบแคริบเบียน ประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เครือรัฐโดมินิกา, แอนติกาและบาร์บูดา, เกรนาดา, เซนต์ลูเซีย และเซนต์คิตส์และเนวิสให้การตอบรับที่ดีต่อโปรแกรมการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติ โดยรูปแบบของการลงทุนมีให้เลือกหลากหลาย อาทิ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล, การลงทุนในกองทุนหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล Harvey Law Group (HLG) โดย นายบาสเตียน เทรลแคท กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึงข้อมูลการลงทุนสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติและนักลงทุนไทยที่ชื่นชอบประเทศในแถบแคริบเบียนนั้น โปรแกรมการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาตินี้ยังให้ผลตอบแทนในด้านอื่น ๆ อาทิ ผลประโยชน์ทางด้านภาษี การเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยไม่ต้องดำเนินการขอวีซ่า "ความต้องการในการลงทุนของประเทศในแถบแคริบเบียนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากนักลงทุนชาวจีน เวียดนาม และไทย สืบเนื่องมาจากโอกาสในการลงทุนที่มีเพิ่มมากขึ้นและด้วยมาตรฐานคุณภาพของการดำรงชีวิตที่ดีในประเทศแถบแคริบเบียน" บาสเตียนยังกล่าวอีกว่า "นักลงทุนระดับกลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในการลงทุน ผู้คนเริ่มสำรวจเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อตนเองและครอบครัว และเพื่อการลงทุนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอีกด้วย นักลงทุนจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความต้องการที่แตกต่างกันในแง่ของการลงทุนทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์สูงสุดทางธุรกิจ การได้มาซึ่งสัญชาติทางเลือก และเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่า อีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักลงทุนของประเทศในแถบแคริบเบียนคือการเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกาเหนือ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อต่อยอดพัฒนาการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจด้านการจัดจ้างและธุรกิจอื่นๆ โดยนักลงทุนมีทางเลือกสำหรับการลงทุนใน 5 ประเทศในแถบแคริบเบียน ซึ่งแต่ละประเทศมีผลประโยชน์และผลตอบแทนที่แตกต่างอย่างชัดเจน ได้แก่ แอนติกาและบาร์บูดา (ลงทุนขั้นต่ำ USD100,000) ประเทศที่ผสมผสานระหว่าง ชายหาด แหล่งปะการัง ป่าฝนและรีสอร์ท แอนติกาและบาร์บูดายังเป็นประเทศที่เสนอข้อได้เปรียบทางด้านภาษีสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติที่ลงทุนในโปรแกรมการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติอีกด้วย หนังสือเดินทางของประเทศแอนติกาและบาร์บูดายังเอื้อให้นักลงทุนเดินทางได้รวมทั้งสิ้น 125 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องง้อวีซ่า รวมถึงประเทศในกลุ่มเชงเก้นและประเทศอังกฤษ ตัวเลือกในการลงทุนของนักลงทุนชาวต่างชาติ อาทิ การบริจาคให้กับรัฐบาล, การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล (USD400,000) หรือการลงทุนในธุรกิจที่ได้รับอนุมัติจากทางรัฐบาล โดยในแต่ละการลงทุนอยู่ภายใต้การดำเนินการและการตรวจสอบของรัฐบาล โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆเพื่อประกอบการสมัคร เครือรัฐโดมินิกา (ลงทุนขั้นต่ำ USD100,000) การลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติของประเทศเครือรัฐโดมินิกา มี 2 ทางเลือกให้กับนักลงทุน คือ การบริจาคเงินให้กับโครงการของรัฐบาล หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล (USD200,000) โดยการถือหนังสือเดินทางเครือรัฐโดมินิกานั้นนอกจากนักลงทุนและครอบครัวจะได้รับข้อได้เปรียบทางด้านภาษี ยังสามารถเดินทางได้รวมทั้งสิ้น 120 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องง้อวีซ่า รวมถึงประเทศอังกฤษและประเทศในกลุ่มเชงเก้นอีกด้วย เกรนาดา (ลงทุนขั้นต่ำ USD150,000) โปรแกรมการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติเกรนาดานั้นเป็นโปรแกรมที่มีการดำเนินการในระยะเวลาอันสั้นและไม่มีการสัมภาษณ์ ไม่จำเป็นต้องมีถิ่นที่อยู่หรือพำนักในประเทศเกรนาดา และเป็นประเทศที่ปลอดภาษีจากรายได้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ และเหมือนกับประเทศอื่นๆ ในแคริบเบียนที่สามารถเดินทางได้รวมทั้งสิ้น 125 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องง้อวีซ่า รวมถึงประเทศอังกฤษและประเทศในกลุ่มเชงเก้นอีกด้วย การลงทุนสามารถทำได้โดย การบริจาคเงินให้กับโครงการของรัฐบาล หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล (USD350,000) และต้องถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นอย่างต่ำ 5 ปี เซนต์คิตส์และเนวิส (ลงทุนขั้นต่ำ USD150,000) โปรแกรมการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติของประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสนั้น เป็นโปรแกรมที่มีความเก่าแก่ที่สุด และเป็นโปรแกรมที่ได้รับความไว้วางใจและประสบผลสำเร็จสูงสุด การลงทุนไม่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปยังแคริบเบียนเพื่อการสมัครในการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติ ยกเว้นเสียแต่ท่านจะหาข้ออ้างเพื่อไปเยือนประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ หาดทรายสงบ แวดล้อมไปด้วยภูเขา การถือหนังสือเดินทางประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสนั้นสามารถเดินทางได้รวมทั้งสิ้น 130 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องง้อวีซ่า รวมถึงประเทศในกลุ่มเชงเก้น อังกฤษ ฮ่องกง และสิงคโปร์ และการลงทุนสามารถทำได้โดย การบริจาคเงินให้กับโครงการของรัฐบาล หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล (USD200,000) และต้องถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นอย่างต่ำ 7 ปี เซนต์ลูเซีย (ลงทุนขั้นต่ำ USD100,000) โปรแกรมการลงทุนล่าสุดในแถบแคริบเบียน คือการลงทุนของประเทศเซนต์ลูเซีย โดยนักลงทุนสามารถสมัครพร้อมกับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา บุตรและผู้ปกครอง โดยการถือหนังสือเดินทางประเทศเซนต์ลูเซียนั้นท่านสามารถเดินทางได้รวมทั้งสิ้น 120 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องดำเนินการขอวีซ่า อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องมีถิ่นพำนักในประเทศและยังได้รับการลดหย่อนทางด้านภาษีอีกด้วย ตัวเลือกในการลงทุนมีหลากหลาย อาทิ การลงทุนในโครงการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเป็นระยะเวลา 5 ปี หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (USD300,000) และต้องถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นอย่างต่ำ 3 ปี หรือการลงทุนในธุรกิจที่ได้รับอนุมัติจากทางรัฐบาล "โปรแกรมการลงทุนเพื่อการได้มาซึ่งสัญชาติของประเทศในแถบทะเลแคริบเบียนเป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาความแตกต่างในการลงทุน โอกาสในการขยายธุรกิจผ่านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในหน่วยงานเอกชน เอชแอลจี ให้คำปรึกษาโดยรวบรวมประสบการณ์ระดับนานาชาติและท้องถิ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นในแง่ของกฎหมายหรือการลงทุนเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน" บาสเตียนกล่าว อย่างไรก็ตาม HLG สำนักงานกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายธุรกิจและการลงทุนเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่มีโปรแกรมให้เลือกลงทุนหลากหลายโปรแกรมในทั่วทุกมุมโลก โดยให้บริการทั้งในส่วนองค์กรและบุคคล HLG ได้รับรางวัล Best Immigration Firm at the 13th annual Macallan ALB Hong Kong Law Awards ในปี 2014 และ 2017 HLG ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการจากประเทศต่างๆ ในการดำเนินการด้านการลงทุนเพื่อสัญชาติทางเลือก อาทิ การนำเสนอโปรแกรมและการยื่นสมัครในนามของนักลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาสามารถติดต่อ นายบาสเตียน เทรลแคท กรรมการผู้จัดการ ได้ที่(btrelcat@harveylawcorporation.com) 02-670-1848 หรือ http://www.harveylawcorporation.com และ FB: https://www.facebook.com/HLGthailand

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ