ทรูประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2547 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเข้าสู่ยุคเปิดเสรีโทรคมนาคม

ข่าวทั่วไป Monday February 28, 2005 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--ทรู คอร์ปอเรชั่น
ทรูประกาศผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทรูมีรายได้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทีเอ ออเร้นจ์ ธุรกิจบรอดแบนด์และอินเทอร์เน็ต และพร้อมเข้าสู่ภาวะการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้นหลังเปิดเสรีธุรกิจโทรคมนาคม
“ผลการดำเนินงานของทรู สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่บริษัทดำเนินมาอย่างถูกทาง ซึ่งเราจะยังคงดำเนินกลยุทธ์นี้ต่อไป”นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวภายหลังการประกาศผลประกอบการประจำปี 2547
ในปี 2547 ทรูมีรายได้เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 18.1 เมื่อเทียบกับปี 2546 เป็น 33.0 พันล้านบาท โดยรายได้ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ในอัตราร้อยละ 45.4 ทำให้บริษัทมีรายได้รวมประจำไตรมาส ประมาณ 11 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้รับรู้ผลการดำเนินงานของ ทีเอ ออเร้นจ์ อย่างเต็มที่ (Fully Consolidation) ภายหลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในทีเอ ออเร้นจ์ เป็นอัตราร้อยละ 83 ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน เป็นต้นมา
รายได้จากทีเอ ออเร้นจ์ เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 94.3 (เมื่อเทียบกับปี 2546) เป็น 9.9 พันล้านบาท รายได้จากบริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในปี 2547 (เป็น 725 ล้านบาท) และ รายได้จากบริการอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 90 (เป็น 888 ล้านบาท)
ทั้งนี้ บริษัทมีผลกำไรสุทธิ จำนวน 605 ล้านบาท ภายหลังกำไรจากการลดหนี้จำนวน 2.9 พันล้านบาท ซึ่งนับเป็นการทำกำไรสุทธิครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา และหากไม่รวมกำไรจากรายการพิเศษต่างๆ บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลง ในอัตราร้อยละ 34 เป็นจำนวน 3 พันล้านบาท
กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) ในปี 2547 เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 13.1 จากปี 2546 เป็น 13.2 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลจาก ทีเอ ออเร้นจ์ มี EBITDA เพิ่มขึ้น (ในปี 2547 บริษัทได้รับรู้ EBITDA จาก ทีเอ ออเร้นจ์ จำนวน 1.8 พันล้านบาท เปรียบเทียบกับผลขาดทุน จำนวน 266 ล้านบาท ในปี 2546) ในขณะที่ ธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจาก ทีเอ ออเร้นจ์ สามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง จำนวน 6.2 พันล้านบาท ในปี 2547 โดยเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 20.7 จากปี 2546
นายศุภชัย กล่าวว่า "ผลประกอบการนี้ยังแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างรายได้ของทรูมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานกำลังถูกแทนที่ด้วยรายได้จากธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพและมีการเติบโตสูง"
ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจบรอดแบนด์และอินเทอร์เน็ต ของทรู เติบโตเหนือความคาดหมาย ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของบริษัท ในปี 2547 ธุรกิจเหล่านี้ มีรายได้ในอัตราร้อยละ 37 ของรายได้จากค่าบริการโดยรวมของบริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26 ในปี 2546 และมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 54 ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา
“ทีเอ ออเร้นจ์ มีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านราย (หรือในอัตราร้อยละ 85) เป็น 3.4 ล้านราย ส่งผลให้ ทีเอ ออเร้นจ์เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ณ สิ้นปี 2548 บริษัทคาดว่า ทีเอ ออเร้นจ์ จะมีผู้ใช้บริการกว่า 4.2 ล้านราย และสามารถทำรายได้ คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 50 ของรายได้รวมของกลุ่มบริษัททรู” นายศุภชัยกล่าว
“จำนวนผู้ใช้บริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นกว่า 13 เท่าในปี 2547 เป็นจำนวนกว่า 160,000 ราย ทำให้ทรูสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 85 ทั้งนี้ธุรกิจบรอดแบนด์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการปัจจุบัน มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 3 ของจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตโดยรวม"
"การเติบโตของธุรกิจบรอดแบนด์ ทำให้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตของเราแข็งแกร่งขึ้น โดยทรูมีลูกค้าอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น เกือบร้อยละ 90 ในปี 2547 เป็น 1.2 ล้านราย ทำให้ทรูเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ"
"ธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานพกพา (WE PCT) เริ่มมีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างคงตัว โดยโทรศัพท์พื้นฐานมีกำไรจากการดำเนินงาน ติดต่อกัน 5 ไตรมาส และนับจากนี้ ผลประกอบการโดยรวมของทรู จะสามารถปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายศุภชัยกล่าว
นายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (CFO) กล่าวเสริมว่า “ทรูมีงบดุลที่แข็งแกร่งขึ้น ภายหลังประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้ระยะยาวของทีเอ ออเร้นจ์ รวมทั้งการเพิ่มทุน และการปรับโครงสร้างหนี้ของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานพกพา (WE PCT)"
“เรายังสามารถลดหนี้ของธุรกิจต่าง ๆ นอกเหนือไปจากทีเอ ออเร้นจ์ ได้ถึง 9.3 พันล้านบาท รวมกำไรที่ได้จากการลดหนี้จำนวน 2.9 พันล้านบาท ทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA (ไม่รวมทีเอ ออเร้นจ์) ลดลงเป็น 4.3 เท่า ณ สิ้นปี 2547
"กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโตของบริษัท รวมทั้งการลดภาระหนี้ในอนาคต" นายแฮริส กล่าวในที่สุด
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ :
พิมลพรรณ / ณวนุช / ศิษฎิ :
02-699-2772, 02-699-2774 , 02-643-2463--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ