อัพเดทรอยยิ้ม ความเชื่อ พรที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต กับ ไอดอลสาวในดวงใจ และ “เทวดาท่าจะเท่ง”

ข่าวบันเทิง Tuesday April 1, 2008 12:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม
อัพเดทรอยยิ้ม ความเชื่อ พรที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต กับ ไอดอลสาวในดวงใจ และ “เทวดาท่าจะเท่ง” หนังใหม่เรื่องที่7 ของ “เท่ง เถิดเทิง” “สุดยอดตลกแห่งเอเชีย” ตลกอัจฉริยะที่กลายมาเป็น “พระเอก500 ล้าน”
Q. ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีด้วยกับรางวัล “ตลกแห่งเอเชีย” สำหรับ “เท่ง เถิดเทิง” ในส่วนของรางวัลที่ได้รับ ถือว่าสร้างความกดดันในการทำงานกันเราไหม
T.ไม่นะ ความรู้สึกเย็นๆความรู้สึกชาๆ มึนๆ ถามว่าภูมิใจมั้ย ก็โอเคนะ ดีใจก็ดีใจ แต่บอกไม่ถูก มันไม่รู้สึกอะไร สิ่งที่ได้มันไกลเกินไป รางวัลมันไกลเกินไป ทำไมเรา ในเมืองไทยไม่เคยได้รางวัลอะไรเลย และก็มาได้นี่ มันเหมือน เฮ้ย...เอออะไรเกิดขึ้นกับเราวะ ได้ในเมืองไทยดีกว่ามั้ง (หัวเราะ)ก็แฮปปี้มีความสุข
Q.อย่างนี้ได้รางวัลมา ต้องมากดดันตัวเองไหมว่าตัวงานของเราจะต้อง....
T.ได้มาแล้วต้องให้ฮากว่าเดิม ขยันกว่าเดิม มันๆก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เราเป็นตลกเราหยุดนิ่งไม่ได้ ได้มาแล้วต้องให้ดีกว่าเดิม กดดันกว่าเดิมมันไม่ใช่ ปกติชีวิตเราก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว พยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุด หลายคนชอบถามว่ามีแรงบันดาลใจมาจากไหน อย่างไร อืมๆผมก็ตอบไม่ได้แต่มันเข้าใจ เข้าใจว่า เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจคำว่าพรสวรรค์มันแตะต้องไม่ได้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วทุกวันกับเราเนี่ย เราไม่ได้เอาวิชาที่ร่ำเรียนมา แต่เรากอบโกยมาจากศิลปะลิเก กอบโกยมาจากการดำเนิน ชีวิตที่ผ่านมา เรียนรู้ทุกอย่างในชีวิต
Q. มันเป็นเหมือนสัญชาตญาณที่อยู่ในตัวเรา อันนี้มั้งที่เขาเรียกกันว่าพรสวรรค์
T. อือ เกิดมาก็ขำตัวเองเลย อย่างพี่หม่ำพี่โหน่งเนี่ยเค้าขำเราก็ขำเค้า ไม่รู้อะไรกัน ชิงไหวชิงพริบกัน..หน้าเวทีเลย มันก็สนุกไปด้วย แต่ถ้าเราขึ้นเวทีแล้วเรานัดกันไปเนี่ยะ คุณขึ้นเวทีเนี่ยะคุณนับ123แล้วผมต่อ456 โหน่งต่อ 789 พอ9 ปั๊บขำตูมเลย แบบเรารู้กันมาแล้ว แต่ถ้าเราขึ้นเวที่เนี่ยะแล้วเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย อารมณ์สดเนี่ยะ เราไม่รู้เค้าก็ไม่รู้ แล้วเหตุการณ์ที่ออกมาเนี่ยะ มันจะเป็นความเป็นตัวเอง บางทีไร้สาระ แต่ก็เป็นความบันเทิงอีกแบบ
Q.ก่อนที่ชีวิตจะประสบความสำเร็จเฉกเช่นทุกวันนี้ พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณเคยทำอะไรมาบ้างก่อนที่จะกลายมาเป็นเท่ง เถิดเทิง
T.ตลอดชีวิตเคยปั่นสามล้อ เคยขายก๊วยเตี๋ยว เคยล้างจาน4 ปี แต่ในระหว่างที่ปั่นสามล้อล้างจานก็มีอาชีพลิเก ล้างจานเสร็จแล้วก็เล่นลิเก เล่นลิเกเสร็จก็มาเล่นตลก แล้วก็เริ่มมาค้าขาย ขายปลาหมึกแล้วก็มาทำลิเก แต่ละอย่างๆล้วนเป็นอาชีพที่สุจริต อาชีพที่ต้องแลกด้วยเหงื่อ บางทีหลายอย่างเลย พอมาถึงทุกวันนี้กับบทบาทของงานแสดง จนมาถึงการกำกับหนัง แล้วทุกอาชีพที่ทำมาไม่ใช่เป็นอาชีพสังคมชั้นสูง เราไม่ได้คิดอย่างนั้นงานทุกงานเราทำเต็มที่ พอเหนื่อยเต็มที่ได้เงินได้ทอง แล้วมันจะหายเหนื่อย ทำแล้วปลาหมึกอร่อย เงินทองไม่ได้ คนกินอร่อยเราก็ชื่นใจแล้ว เล่นลิเกไปเหนื่อยไปอะไรแต่สิ่งที่คนดูหัวเราะ คนดูมาดู มันลืมความเหนื่อยมันลืมเรื่องเงินเรื่องทองไปเลย เราไม่ได้เอาเงินตรงลิเกก็ได้ เพราะเราบอกตัวเองว่าเรามาเอาเงินทางทีวีทางรายการก็ได้ แต่สิ่งที่เรามานั่งคิดคือทุกอาชีพที่เราทำมา เราค่อนข้างทำจริงจัง ถ้ามันทำสำเร็จ เราก็จะทำมันไปเรื่อยๆถือว่าเราทำดี
Q.จนถึงทุกวันนี้เท่ง เถิดเทิง ทำหน้าที่มอบความสุขให้กับผู้คนมากี่ปี่แล้ว
T. 31 ปีคือชีวิตของนักแสดง วัยเด็กก็ยืนอยู่บนเวทีลิเก แล้วก็มาเล่นตลก จนถึงวันนี้ก็ยังอยู่บนเวที ที่มีจะหยุดไปก็ตอนไปล้างจาน 3 ปีทั้งชีวิตอยู่บนเวทีมาตลอด
Q. ถ้างั้นอัพเดทชีวิตของ “เท่ง เถิดเทิง”ให้ฟังหน่อย ในตลอด7 วันทำอะไรบ้าง
T. 7วันทำอะไรบ้างเหรอ ครับผม ส่วนมากเข้าออฟฟิศแน่นอน เสาร์อาทิดย์ก็หยุดอยู่บ้าน แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าต้องหยุดประจำ เพราะมีการถ่ายงาน ถ่ายรายการบางอย่างบ้าง แต่ที่แน่ๆคือ ทุกอังคาร-พุธเนี่ยะไม่ว่างแน่ๆ 7วันก็สรุปแล้วจะอยู่บ้านแค่2วัน3วัน ใน1เดือนก็มีวันหยุดเฉพาะรายการก็ไม่น่าเกิน4-5วัน แต่ถ้ามีหนังมาแล้วก็ วันหยุดก็จะถูกเทคิวมาให้กับหนังทั้งหมด สำหับในทีวี ที่เราเห็นก็จะมีชิงร้อยชิงล้าน มีระเบิดเถิดเทิง มีคุณพระช่วย มีซิทคอมรักต้องซ่อม ที่คือที่มีในทีวีนะ แต่ในตู้เย็นก็ไม่มีนะครับ กำลังหาโอกาสออกอยู่(หัวเราะ)
Q.เป็นความตั้งใจของตัวพี่เท่งเองด้วยไหมที่ แฟนๆจะได้มีโอกาสดูพี่เท่งเล่นหนังเพียงแค่ปีละ1 เรื่อง
T.มันเป็นความคิดส่วนตัวที่ว่าปีละเรื่องพอสำหรบหนังนะ เพราะถ้าเยอะไปมันจะเอียนซะ อย่างเท่งโหน่งคนมาหาเฮียเมื่อปีที่แล้วเข้า 31พ.ค.50 พอมาปีนี้ 1พ.ค.51 ก็เป็นเทวดาท่าจะเท่ง
Q.แล้วอย่างนี้ในแต่ละวันมีการจัดสรรแบ่งเวลางานกับครอบครัวอย่างไรบ้าง
T.อย่างวันเวลาถ้าจะแบ่ง จริงๆมันก็จะแบ่งยากอยู่แล้ว อย่างสมมติวันนี้มาอัดรายการก็จะอัดทั้งวันเลยงั้นชีวิตก็จะอยู่ที่สตูดิโอเวิร์คพอยท์ทั้งวันเลย แล้วเวลากลับไปบ้านลูกๆๆก็หลับหมดแล้ว เวลาตื่นเช้ามาลูกๆก็ไปโรงเรียนกันหมดแล้ว นอกจากจะเจอลูกเฉพาะวันเสาร์-อาทิดย์ ถ้ามีเวลาว่างไม่ได้อัดรายการ ไม่ได้ถ่ายหนัง หรือไม่ได้ไปไหน ก็จะเลือกอยู่บ้านจริงๆเป็นคนไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้ว และอีกอย่างเที่ยวมาทั้งชีวิตแล้ว มันผ่านชีวิตวัยรุ่น มันผ่านแสงสีเสียงมาหมดทุกอย่างแล้ว เพราะฉะนั้นความสุขที่สุดในชีวิตที่แท้จริงก็คือการอยู่บ้าน อยู่กะครอบครัว อยู่กะลูก มันเป็นความสุขที่แท้ และชัดเจนมาก
Q.ถามจริงๆทำไมต้องรับงานหรือทำงานเยอะขนาดนี้
T.คนเราอายุปูนนี้แล้ว ทำงานทุกอย่างไม่ได้หวังอะไรให้ตัวเองสักเท่าไหร่ ที่ต้องทำงานก็เพื่อลูกทั้งนั้นแหละ แล้วงานที่เราทำมา หรือรับมา ตัวเราต้องรักงาน เราต้องรับผิดชอบงานให้ดีที่สุดดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ได้กลัวตัวเองจะลำบาก กลัวครอบครัวที่เราพามาด้วย อย่างถ้าชีวิตเรามีตัวคนเดียว เวลาเราพลาดคนเดียวเราพลาดได้ แต่นี่เราพลาดไม่ได้เพราะครอบครัวของเรามีอยู่ด้วย ทำอะไรคิดอะไรกจะค่อนข้างระวังตัว
Q.ถ้างั้นความสุขของ “เท่ง เถิดเทิง” ในปัจจุบันคืออะไร แล้วมีหลักการหรือวิธีหาความสุขให้กับตัวองอย่างไร
T.หาความสุขอย่างไรเหรอครับ อย่างถ้าวันไหนที่ว่างๆ ถ้าว่างวัน2วันก็ก็คงจะอยู่บ้าน แต่ถ้าว่าง3-4วันขึ้นไปจริงๆ ถ้ามีโอกาสก็จะพาลูกไปเที่ยว ไปกิน หาอะไรที่ไม่เคยเห็น ส่วนมากก็ไปเที่ยวทะเลพาครอบครัวไปเที่ยว
Q. มาจนถึงภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง เทวดาท่าจะเท่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ 7 แล้ว ในฐานะนักแสดงมองว่าบทหรือตัวคาแรคเตอร์ในหนังเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ทำไมตัดสินใจรับเล่นหนังเรื่องนี้
T. แหมแอบมามากระซิบถามเลยนะ(หัวเราะ)ว่าทำไมถึงรับหนังเรื่องนี้เล่น สิ่งแรกเลย คือ ผมไม่ได้มองเรื่องตัวเงิน จริงๆแล้ว ผมมองว่าเรื่องนี้มันมีเนื้อหาอย่างไรบ้าง มันมีอะไรให้คนดูบ้าง โอเค ผมพอจะมีมงมีมุกอะไรเล็กๆน้อยๆไปสอดใส่ได้ แต่พออ่านเนื้อหาปั๊ป เออ มันเป็นเรื่องแรกของเรานะ ซึ่งมารับบทอย่างนี้ มันไม่ใช่บทเดียว มันมารับ บทอย่างนี้ๆๆ ทั้งหมด (นับมือ) 7- 8 ตัวในหนังเรื่องเดียวกัน 7 คาแรกเตอร์ในเรื่องเดียวกัน ไม่ใช่ผมคนเดียว ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นตั๊ก ไม่ว่าจะเป็นครูมืด จะเป็นพี่วิยดา อุมารินทร์ จะเป็นต่าย(เชิญยิ้ม) ใคร หลากหลาย เยอะแยะมากเลยครับ แต่ละมุมมอง แต่ละคน แต่ละความคิด มันแตกต่าง แต่ทุกอย่างมารวมตัวกันหมด เป็นเรื่องเดียวกันหมด มันจะบอก จะสื่อสารกับคนดูว่า ขอให้ทุกคนมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง เกิดเป็นคนมันก็ประเสริฐพอแล้ว อยากจะเป็นโน้น อยากจะเป็นนั่น อยากจะเป็นนี่ แต่สุดท้ายมันไม่ประเสริฐเท่ากับตัวเราหรอกครับ จะดีหรือไม่ดี มันขึ้นอยู่กับตัวเรา ทำตัวให้ดีที่สุด ฉะนั้นแล้วคำตอบเรื่องนี้ไปดูเถอะครับ เทวดาท่าจะเท่ง ชอบมาก เนี้ยะผมเล่นผมไม่เอาค่าตัวสักบาทเลยนะ สาธุ..เอา(หัวเราะ)
Q. พี่เท่งช่วยอธิบาย คาแรคเตอร์ที่เล่นในเทวดาท่าจะเท่ง
T.เป็นคนในโรงลิเกชื่อกล้วย เป็นคนง่ายๆเรียบๆ คอยซื้อข้าว ซื้อของ ให้กับคนอื่นๆในโรงลิเก แต่แล้วก็มีคนคนหนึ่งที่พยายามหาโน้นหานี่มาช่วยชดเชยที่ตัวเองมองไม่เห็นไม่ใช่หน้ามืดนะ(หัวเราะ) หมายถึงเทวดงเทวดา และการขอบางอย่างจากเทวดาเนี่ย ซึ่งก็คือพรวิเศษ แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่ขอ สิ่งที่ได้จากเทวดาจะนำมาซึ่งความสุขสมหวังซะทีเดียว อันนี้ต้องไปดูในหนัง การขอพรนำเขาไปเจอกับเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่ในชีวิตจริงเขาไม่ได้มีโอกาสได้เจอหรือ
Q.เล่นหนังเรื่องนี้หนักใจไหม
T.ก็ไม่หนักใจ มันแปลกดีๆ มันมีอะไรในแง่มุมของความตลก มันมีอะไรให้เราได้เล่นเยอะ มันมีอะไรให้เราเล่นหลายจุด เหมือนกะเรื่องนี่เรา.....แต่บะตัวมันจะมีคาแรกเตอร์ต่างกัน....
Q.การทำงานในหนังเรื่องนี้ต้องร่วมงานกับโก๊ะตี๋ เป็นครั้งแรกด้วยใช่ไหม เป็นอย่างไรบ้าง
T.ช่ายๆๆๆ ในแง่ของหนังนะเป็นเรื่องแรก มันก็น่าสนุกดี เอาโก๊ะมาเป็นเทวดา เราก็มองโก๊ะเป็นน่ารักๆๆๆ เอามาเป็นเทวดา มันก็ชัดเจน ในเรื่องก็ถ้าให้เชื่อมันก็คงไม่เชื่ออยู่แล้วแหละ ว่าเทวดาอะไรรูปร่างอย่างนี้ ก็จะมองว่าเป็นเด็กวัดรึเปล่า เพราะในเรื่องตัวกล้วยที่เราเล่น ไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้ใส่เสื้อยืดเก่าๆกางเกงขาสั้นขาดลากรองเท้าแตะจะมาเป็นเทวดา แถมเรียกเราว่าไอ้หนูอีก ก็มีโก๊ะมาช่วยสร้างสีสัน เวลาทำงานไม่มีปัญหาเลย ราบรื่น และรวดเร็วมากๆ อาจจะเพราะเราเป็นตลกเหมือนกัน และเป็นลิเกมาก่อนเหมือนๆกัน อีกอย่างเหมือนผู้กำกับก็จะรู้กัน เข้าฉากกะโก๊ตี๋ แอ็คติ่งของเรา2คน เขาปล่อยเลย เออ เปิดโอกาสให้เราเล่น ได้เต็มที่ หน้ากอง ผู้กำกับโอเคไหม หรืออยากได้อะไรเพิ่ม เท่ง โก๊ะเติมตรงนี้อีกหน่อย หรือพอลงโลเคชั่นได้เห็นโน้นเห็นนี้ ได้หยิบมาเล่นเพิ่มได้ เราทั้งสองก็เติมไป แล้วก็ขึ้นอยู่กับผู้กำกับให้เขาเลือกว่าจะเอาไม่เอา
Q.กับตั๊ก บงกชนี่ถือว่าเป็นการร่วมงานกันเป็นครั้งแรกเหมือนกัน เป็นอย่างไรบ้าง
T. เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้ร่วมงานกะตั๊ก จากภาพที่เราได้เห็น ที่คนดูได้เห็นตั๊กเนี่ย เป็นนางเอกที่ค่อนข้างเซ็กซี่มากๆเป็นนางเอกที่มีฉากเลิฟซีน แต่มาเรื่องนี้ ไม่มีเลยภาพตรงนั้นไม่มีเลย น้องเค้าเล่นได้ดีมาก ในแง่ของมุกตลก และก็มีบางฉากบางซีนที่เราได้มองเห็นตัวตนของตั๊ก ของฝีมือในความเป็นนักแสดง นี่คือนักแสดงอาชีพอย่างแท้จริง แล้วในหนังเรื่องนี้ตั๊กจะมาเล่นหลายคาแรกเตอร์มากเพราะชีวิตของฟ้าในเรื่องเนี่ยะเป็นดาราหนัง คือเจอคนเยอะแยะมาก เจอหลายคาแรกเตอร์มาก โดยเฉพาะกะเราต้องเจอตลอดเลย เขาไปอยู่ไหนเราก็ตามไป เจอเขา ในหลากหลายสถานการณ์ อย่างในภาพยนตร์เรื่องนี้ มันจะมีอยู่ฉากหนึ่งที่ตั๊กเค้าเล่นได้ดีมากๆ คือฉากผีเข้า เราไปยืนดูเค้าแสดง ตั้กต้องเล่นเป็นถึง3 ตัวในเวลาเดียวกัน คือเล่นเป็นผีผู้ชาย เล่นเป็นผู้หญิงที่เป็นแฟนของผีผู้ชาย ที่เข้าสิงตั๊ก และตัวฟ้าที่ถูกผีเข้า นี่คือนักแสดง แล้วมันไม่ธรรมดาตรงที่มันท้าทายนักแสดง น้องเขาก็เขินนะ เล่นไปเขินไป คนก็อยู่เยอะ พอผีผู้ชายเข้าไปสิงในร่างตั๊ก ก็พยายามจะลวนลาม ตั๊ก ผีมันจับโน้นจับนี่ ซึ่งตั๊กเค้าก็แบบ ซึ่งตั๊กเค้าก็เล่นเองเลย สักพักผีผู้หญิงก็เข้าไปสิงก็เข้าไปตบตีกันในร่างตั๊ก แค่ฉากนี้ฉากเดียวมันบ่งบอกชัดเจนแล้วว่าน้องเค้าเป็นนักแสดง....เออดี น่ารักดี.... ทุกคนดูตั๊กเล่น จนเพลินไปเลย จนตั๊กต้องสั่งคัทเอง คือไม่ใช่ว่าเล่นไม่ได้ คือเขาไม่ได้มองภาพว่าเป็นนางเอกเล่นไม่ได้ คือเล่นเรื่องนี้ตั๊กไม่ห่วงสวยมันก็โอเคเลย อยากให้ตั๊กมาถ่ายบ่อยๆ
Q.ไม่รู้ว่าติดอกติดใจการกำกับมาจากเท่งโหน่งคนมาหาเฮียรึเปล่า พอลงมาทำเทวดาท่าจะเท่ง ทราบมาว่าบางครั้งติดลม เกิดมุก เกิดไอเดีย ช่วยเติมความคิดให้กับการทำงานในแต่ละฉาก แต่ละคิว ถึงขนาดที่ว่าบางครั้งหมดคิวพี่เท่งแล้ว แต่ยังไม่กลับจากเที่ยงคืน เป็นตี1 ตี 2 ถ่ายเพิ่มซะงั้น ทั้งๆที่วันรุ่งขึ้นมี่คิวอัดรายการ ละครต่อด้วยซำ แล้วไม่ได้ครั้งเดียวด้วย ตลอดการถ่ายทำหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว แม้จะมีคิว
T.คือเรื่องเทวดาท่าจะเท่งเนี้ยะ มันเป็นผลงานหนังที่ต่อจากเรื่อง เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย ที่ผมกับโหน่งกำกับคู่กัน ที่นี้ไม่ว่าจะเป็นพี่อังเคิล พี่วิโรจน์ก็บอกว่า เท่งมันติดๆความเป็นผู้กำกับมารึเปล่า ซึ่งความจริงแล้วไม่ ซึ่งความจริงแล้วเราเข้าใจดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะกะเกณฑ์ไม่ได้ เลิกเที่ยงคืนมันต้องจบ ไม่ใช่ บางทีการทำงานมันต้องต่อยอด ฉะนั้นแล้วพอถึงกองถ่าย ทุกคนจะบอก เฮ้ย..ต้องจบเที่ยงคืนนะ แล้วเท่งไปพักผ่อน เฮ้ยต้องปิดเวลานี้นะ เท่งต้องกลับไปอัดรายการ ซึ่งผมมาทำหนังแล้วผมบอกไม่ เอาให้ดี เอาให้เสร็จ เสร็จแล้วก็ถามว่าเอาอีกมั้ย ซึ่งบางทีผมดูแล้วเฮ้ยถ่ายอีกหน่อยเหอะ เก็บไว้ไม่เสียหลายหรอก โอเคพรุ่งนี้เราอาจจะต้องมีงาน มีรายการที่ต้องทำ แต่คือวันนี้เราทำให้ดีที่สุด ฉะนั้นแล้วผมคิดว่า ในเมื่อมันลงไปในแผ่นฟิล์มแล้ว ไปฉายให้คนดูแล้ว เราไปนั่งดูแล้ว ถ้ามันไม่ดี เราไม่สามารถเก็บเอามาแก้ได้ ฉะนั้นแล้ว แต่ละคัต แต่ละช็อต แต่ละซีน แต่ละฉากจะคุยกะพี่อังเคิล กะพี่วิโรจน์ว่า พี่มันต้องเน้นหน่อย พี่ไม่ต้องกลัว วางคิวผมไว้เที่ยงคืน จะหลุดตี1 ตี2 ตี3 ไม่เป็นไรๆๆๆๆ ๆ จริง(หัวเราะ) นะครับผม นี่คือความตั้งใจของเราทั้งหมดครับผม ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นเด็กยกไฟ ไม่ว่าจะเป็นแม่คงแม่ครัว ทุกอย่างเราทำงานให้เต็มใจสุดๆ เราทุ่มกำลังกาย ทุ่มกำลังใจ ทำผลงานให้ดีที่สุด นี่คือหนังไทยบ้านเรา มีความเป็นไปได้ว่าหนังไทยบ้านเราจะไปฉายออกนอก แล้วมันทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ฉะนั้นแล้วท่านควรจะอุดหนุนคนไทยนะครับ อย่าซื้อเทปผีซีดีปลอม เทปผีมันก็ไม่ดีอยู่แล้วนะครับผม ไปดูโรงภาพยนตร์ เสียง แสง สี ทุกอย่างกระหึ่มหมด ฝากด้วยนะครับผม ขอบคุณครับ
Q. พี่อังเคิลและพี่วิโรจน์ เล่าให้ฟังว่า ต่อให้คิวพี่เท่งฮอต หรือแน่นเอี๊ยดขนาดไหนจะต้องเทปกี่รายการมีโน่นมีนี่ แต่พอถึงเวลาแอ็คชั่น ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนถูกเตรียมพร้อมตั้งแต่ออกมาจากบ้านเลย แถมพกไอเดีย หรือข้อเสนอมาด้วย เท่ง เถิดเทิงเวลาทำงานมีวิธีหรือหลักในการทำงานอย่างไร
T.เวลาเรารับงานอะไรก็ช่าง ไม่ว่าจะเป็นหนัง อัดรายกงรายการทีวีอะไรก็ช่างเหอะ ในเมื่อเราอัดรายการทีวี ในเมื่อเราขึ้นเวทีแล้วเนี่ยะ เราก็ต้องลืมสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เราเครียดทุกอย่างทั้งหมด ขึ้นเวทีแล้วเราต้องสร้างโลโก้ให้สมกับเป็นเท่ง เถิดเทิง อย่างเวลาเรามาถ่ายภาพยนตร์ก็ช่าง แอ็คชั่นแล้วเนี่ยะ ความเป็นเท่ง เถิดเทิงจะไม่มีในตัวแล้ว เราจะสวมวิญญาณตัวละครตัวนั้น ตัวละครตัวนั้น มีคาแรกเตอร์อย่างไร มีอุปนิสัยใจคออย่างไร เราก็พยายามทำตามคาแรกเตอร์ตัวละครตัวนั้น โดยไม่เอาตัวเรามาข้องเกี่ยวใดๆเลย ในเมื่อเราทำงานแล้ว เราก็ต้องทุ่มกาย ทุ่มใจ ทั้งความรู้สึก ความรู้สึกว่าตัวละครตัวนั้น เป็นอย่างไร มีความคิดอย่างไร ความแตกต่างเป็นอย่างไร คาแรกเตอร์ที่ผู้กำกับวางไว้เป็นอย่างไร เราก็พยายามทำตามผู้กำกับ อันไหนที่มันตะขิดตะขวงใจอะไรอย่างเนี้ยะ พี่ถ่ายใหม่เถอะ เอาให้ดี เอาให้ดีที่สุด เอาไปเลือก เก็บไว้ พูดคำเดียวก็ช่าง แต่พูดสัก 2 3 ครั้ง แล้วเอาไปเก็บ เอาไปใช้ แต่สิ่งที่ดีๆ นี่คือความตั้งใจของพวกเรานะครับผม
Q. ปกติเล่นหนัง 1เรื่องมีตัวละครตัวเดียว แต่สำหรับเรื่องนี้มีหลากหลายคาแรคเตอร์ บางฉากไม่ได้เล่นเป็นตัวเดียว หนักใจไหม มันมีความยากง่ายท้าทายอย่างไร
T.ถ้าถามว่าหนักใจมั้ยเรื่องนี้ มันก็... มันหลายคาแรกเตอร์ หลายตัวจัดเลยอะไรอย่างเนี้ยะ แต่ถ้าเรามีมุมมองว่า มันคือความท้าทายทั้งสมาธิและการแสดงของเราด้วย อย่างมาเล่น มาแสดงเป็นตัวกล้วย ตัวประกอบเด็กประจำวิกลิเก ที่ชีวิตไม่สมหวังหรือเป็นตัวมหาเศรษฐี เป็นตัวร้ายตัวไม่ดี ฯลฯ ตัวนี้ๆๆ และอีกอย่างคือ เค้าจ้างเรามาแล้วนะครับ เค้าไม่ได้วานเรานะ เราต้องทำให้เค้าดีที่สุด ฉะนั้นแล้วเราต้องทำตัวนี้ๆๆ ที่เค้าวางตัว คาแรกเตอร์แต่ละตัวๆ ให้ดีที่สุด ถึงบอกแล้วว่าถ้าไม่ดีก็ถ่ายใหม่ ถ้าไม่ดีก็เอาให้ดีที่สุด แต่ก็คือถือว่าผมชอบ ผมชอบ มันหลากหลายๆ ๆตัวมากเลย รวมไปถึงการแต่งตัวเนี้ยะ คือมีทั้งเอลวิส แต่งตัวเป็นตำรวจ แต่งตัวเป็นหมอผี เป็นโน่น เป็นนี่ มันหลากหลายมาก ทางตลกเค้าเรียกว่าเรามีอะไรให้เล่นเยอะ มีทางให้เล่นเยอะ ไม่ใช่เล่นอยู่คาแรกเตอร์เดียวแล้วก็เล่นทั้งเรื่องอะไรอย่างเนี้ยะ นี่ก็คือ มันคือ เอ่อ..บทบาทใหม่ที่เราได้รับ ก็ถือว่า โอเค เพอร์เฟ็กท์มาก
Q. อย่างในเรื่อง มีการคิดมุก แนะนำมุก อย่างหลายๆฉากพี่เท่งมีการเป็นเทรนเนอร์ในการยิงมุกให้กับนักแสดงที่ร่วมงานกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นตั๊กเอง น่าจะเล่นแบบนี้ ยิงมุกแบบนี้หรือเล่นจังหวะนี้ รวมไปถึงตัวละครพี่อังเคิล พี่บุญถิ่น หรือตัวอื่นๆด้วย
T.คือการทำงานของพวกเรานะครับ ผมชอบอย่างนึงคืออย่างผมก็เคยทำงานกับพี่วิโรจน์ ทองชิว แล้วก็มาร่วมงานกับพี่อังเคิลครั้งแรก กับตั๊กครั้งแรก พอเราร่วมงานกันแล้วผมชอบมาก คือ เราร่วมงานกันแล้วเราต้องช่วยกัน บางฉากบางมุก ผมก็ เฮ้ย .บอกพี่อังเคิล บอกพี่วิโรจน์ บอกกับน้องตั๊ก เฮ้ย..อย่างนี้ดีมั้ย แล้วทุกคนแฮปปี้หมด เอ้ย สนุกสนาน เอ้ย ดีๆๆ เฮ้ยพี่อังเคิลเล่นเป็นตำรวจ เอ้ยพี่อย่างนี้สิ คือเราพยายามช่วยกันคิดช่วยกันทำ ช่วยกันเติมให้หนังเราดูสนุก ว่าเฮ้ยเราดูหนัง เท่งต้องขำ ซึ่งบางฉากบางซีน เราไม่จำเป็นต้องขำหรอก เราก็กระจายความขำให้คนอื่นมั่ง มีหลากหลายอะไรอย่างเนี้ยะ รู้สึกว่า เอ้อ...สนุกสนานดี ชอบๆ
Q. พูดถึงโปรดิวเซอร์อย่างพี่อังเคิล และพี่วิโรจน์ผู้กำกับ
T.สนุกดี ทำงานในหนังเรื่องนี้มีหลายๆอย่างที่เป็นครั้งแรกของเรา กับผู้ร่วมงานด้วยหลายๆคนเลยอย่างตั๊ก อย่างโก๊ะตี๋ อย่างพี่อังเคิลครั้งแรก กะพี่วิโรจน์ ทองซิว เคยร่วมงานกันมาก่อน กะพี่อังเคิลไม่เคยร่วมงานมาก่อนมันเป็นอะไรครั้งแรก ครั้งแรกก็ประทับใจมันเหมือนกะการ มองตาครั้งแรกปิ๊งกันเลย พี่อังเคิลนี่หว่า เห็นฝีมือ เห็นการทำงาน เห็นการแต่งตัวปั๊ปเหมือนเด็กช่างไฟ เหมือนเด็กยกน้ำ เหมือนคนมาดูกองถ่าย วิ่งฝุ่นคุ้งเชียว เห็นนั่งๆอยู่หน้ามอนิเตอร์สักพักว่านอนอยู่หน้ากล้องจับโน้นจับนี่ที ทำงานเร็วมาก จริงๆอารมณ์พี่อังเคิงเค้าก็ตลกอยู่แล้วทำหนังตลกอย่างพวกซึม,ปลื้ม,ฉลุยมาก่อน มาเจอกับพี่วิโรจน์ ทำแอบคนข้างบ้านเหมือนสองขั้วมาเจอกัน แล้วทำเรื่องนี้สบายๆใจ ทำงานเร็ว แต่ไม่ใช่ลวกๆนะ เร็วแต่มีคุณภาพนะ
Q.เรื่องที่แล้ว เท่งโหน่งคนมาหาเฮีย อาจสบายหน่อยสวมเสื้อผ้าชุดเดียวแทบทั้งเรื่อง แต่เทวดาท่าจะเท่งกลับกัน เพราะมีหลายคาแรคเตอร์มาก และต้องมีการแปลงร่าง เปลี่ยนโฉมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วย โดยเฉพาะคาแรคเตอร์เท่งแต่งแก่เห็นบอกว่าเข็ดเลย เป็นวิบากฮาที่คนดูฮา แต่สำหรับคนเล่น เห็ฯบอกว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเดียวเรื่องหน้าไม่เอาแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง
T. จริงๆเท่งแต่งแก่ เป็น 1 ในคาแรคเตอร์ในเรื่องชอบมากนะ แต่มันเป็นเมคอัพเอฟเฟคต์ทั้งตัว อย่างเป็นคนแก่เนี่ยะ พอถ่ายจบก็จะบอกตัวเองเลยว่าจะไม่มานั่งแต่งอย่างนี้อีกแล้วทรมานมาก ต้องมีหล่อหน้าก่อน แล้วถึงวันถ่ายก็ต้องมาแต่งอีก3 ชั่วโมงกว่ากว่าจะแกะออกก็ประมาณ 2 ชั่วโมง แบบไม่ไหว อีก2 วันถึงล้างกาวออกหมด ทรมานจริงๆ ยอมรับว่าไม่ไหวจริงๆนะ.... แต่พอรับงานมาแล้ว เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พอแอ็คชั่นเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่ทุกอย่างมันก็ไปได้ดีที่สุด พอเสร็จปั๊บผมก็ประกาศตัวเลยว่าไม่เอาแล้วนะไอ้เนี่ยะ พอแล้วนะไม่เอาแล้ว อย่าว่าแต่แต่งแก่เลย เอ็ฟเฟกต์อะไรไม่เอาทุกอย่าง อายุมากแล้วพอไปกระโดดโลดเต้นมากบางที อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ เราเลี่ยงได้เราก็ควรจะเลี่ยง เราไม่ได้มองแต่ตัวเองอะ เรามองถึงครอบครัวด้วย เราเป็นอะไรสักคนเนี่ยะมันไม่ใช่เราคนเดียวแล้วด้วย ใครอยากเห็นเท่งแต่งแก่เป็นเท่งทึงอายุ 90 ก็ไปดูกัน
ดูหนัง ดูละครแล้วย้อนมาดูตัวจริงกับประสบการณ์ในชีวิตจริงของ เท่ง เถิดเทิง
Q.ในเรื่องต้องปลื้มซุปเปอร์สตาร์ดาราดัง ในชีวิตจริงเคยไหมมีดาราที่เราแอบปลื้มหลงใหลชื่นชอบ ซึ่งพี่เท่งเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นด้วยนะ ความรู้สึกที่มีต่อเขา
T.คือบางฉากนะ บางฉากเราก็จะนึกถึงอารมณ์ ความเป็นจริงของเรา เหมือนในเรื่องเนี้ยะเรามีแอบรักแอบชอบปลื้มกับซูเปอร์สตาร์เมืองไทย ก็คือคุณฟ้า ซึ่งแสดงโดยคุณตั๊กอะไรอย่างนี้ ฉากนี้อารมณ์นี้เราเอาความรู้สึกจริงๆของเรามา ช่วงชีวิตหนึ่งเราเคยชอบอรพรรณ พานทองมากเลย น่ารักมากๆ เค้าเล่นหนังอะไรน่ารักมากๆ เรามีความรู้สึกว่าถ้าได้เจอสักครั้งหนึ่งถือเป็นบุญตา ถ้าได้พูดสักครั้งนึงเนี่ยะถือว่าเป็นลมปากแห่งมงคลชีวิตเลย มันมีความรู้สึกอย่างเนี่ยะ ฉะนั้นแล้วเวลาเราเข้าฉากตรงเราก็เอาความรู้สึกตรงนี้ข้ามา เข้ามาว่า อยากเจอคุณอรพรรณหรืออยากเจอคุณฟ้า ดาราซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย และเมื่อเจอตัวจริงแล้ว มันกลับพูดอะไรไม่ออก ซึ่งมันตรงกับคาแรกเตอร์ ตรงกัน พูดอะไรไม่ออกแล้วก็ อ้ำอึ้งๆ พูดอะไรไม่ออก เพียงแค่ได้ขอลายเซ็นต์มาเราก็ชื่นใจ แล้วได้รุปภาพมา มันเป็นอะไรที่ประทับใจ ซึ่งคนอย่างเราการได้ลายเซ็นจากนางฟ้าจากซุปเปอร์สตาร์หญิงของเมืองไทย มันสุดยอดมาก แล้วมันเกิดก่อความรักขึ้นมา แล้วเรื่องทุกเรื่องมันจะผูกต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันคือจะทั้งแฮปปี้และไม่แฮปปี้ มันเพราะอะไร ต้องไปดูกัน
Q.แล้วในชีวิตจริงเคยมีโอกาสใกล้ชิดหรือเคยเจอกับคุณอรพรรณไหม
T.คือความจริงแล้ว ผมเคยเจอคุณนิด อรพรรณ พานทองมั้ย ผมยังไม่เคยเจอเลยนะ ยังไม่เคยเจอเลยนะ เอ่อ ดูหนังตั้งแต่เค้า เยังเป็นวัยรุ่น คือตอนนี้เค้าก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ยังน่ารักอยู่นะครับ นั่นคือความชื่นชอบ นั่นคือเสน่ห์ เสน่ห์ของภาพยนตร์ นางเอกต้องน่ารักใสๆ และนี้เราก็เป็นคนดู มันเหมือนกับชีวิตจริงที่ถ่ายเทวดาท่าจะเท่งเนี่ยะ ที่เป็นลิเกแต่แอบชอบนางเอกคนหนึ่ง มันรู้สึกว่าเอ่อ..คาแรกเตอร์ตรงนี้ ความรูสึกตรงเนี่ยะเราสามารถดึงเอามาใส่ความรู้สึกจริงๆจังได้
Q.ถ้าเจอคุณ อรพรรณ อยากจะบอกอะไรกับเค้า
T.ถ้าเจอคุณอรพรรณ พานทอง อยากจะบอกอะไร บอกว่า คุณอรพรรณน่ารัก สวย รวย มีชาติ มีตระกูล คือ ..เป็นไปได้ก็ เอ่อ...ขอตังค์เค้ามั่ง เอ่อ..ขอไม่ได้ละมั้ง(หัวเราะ)ก็ๆๆมันป็นความชื่นชอบในใจนะครับผม ชื่นชอบในใจ เมื่อก่อนที่เราชื่นชอบดาราคนหนึ่งนะฮะ ก็เป็นดาราวัยรุ่นที่น่ารักมากนะครับ ชอบๆ
Q.ในภาพยนตร์พี่เท่งได้เจอกับ โก๊ะตี๋ เทวดาอารมณ์ดีประจำศาลที่มาพร้อมกับพรวิเศษ ในชีวิตจริง เชื่อเรื่องการขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อะไรตรงนี้บ้างไหม
T.โดยเฉพาะส่วนตัวแล้ว มีความเชื่อเรื่องนี้อยู่ค่อนข้างเยอะมาก เพราะชีวิตตัวเองเกิดมามีวิถีชีวิตตัวเองอยู่ในโรงลิเกก็จะกราบไหว้ครูบาอาจารย์ เจอสิ่งเร้นลับมากมายเกี่ยวกับการบน ทุกวันนี้ ขอโทษ เวลาจะไปฉี่ เป็นกองขยะก็ช่าง เราก็ต้องยกมือไหว้ เป็นปกติมากเลย ขออภัยเจ้าที่เจ้าทาง เวลาเข้าป่าเข้าเขาก็จะยกมือ เจ้าทุ่งเจ้าท่าเจ้าป่าเจ้าเขา ไปบ้านใครก็ช่างก็ยกมือไหว้ศาลพระภูมิ บางทีเวลาดำเนินชีวิตมาแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ก็นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนบานศาลกล่าว ชีวิตเคยบนบานศาลกล่าว เคยๆเหมือนกันและเวลาไปทำมาแล้วไปบนบานถึงแม้มันไม่ประสบความสำเร็จไม่เหมือนคำที่บนบาน แต่อย่งน้อยมันก็รู้สึกสบายใจ
Q.ชีวิตส่วนตัวเท่ง เถิดเทิงเคยบนบานอะไรบ้างมั้ย
T.ส่วนตัวเคยบนบานมั้ย..เคยครับ..เคย ตอนที่ยังไม่มีชื่อเสียง ขับรถไปที่อุบลแล้วก็ขับผ่าน ขับรถมาเรื่อยๆๆๆแล้วก็อะไรมันอยู่กลางทุ่งนา ก็นึกมาเรื่อยๆแล้วก็ขับมาเรื่อยๆ มันประมาณ 2 กิโลได้ มันก็รู้สึก เอ๊ะ.. เราต้องกลับไปดูว่ามันคืออะไร เราก็เลยวกรถกลับมาก่อนแล้วก็เดินไปที่กลางทุ่ง เป็นศาลของนักร้องอีสานนั่นคือ ฮันนี่ ศรีอีสาน เป็นศาลเจ้าแม่ฮั่นนี่ ขนลุกมาก กราบ แล้วก็พูดว่า ..ลูกก็คือศิลปินคนหนึ่งเหมือนกัน เดินสายอาชีพเดียวกับแม่ฮั่นนี่ เรียกเค้าแม่ฮันนี่ ทำไม่วิถีชีวิตลูกถึงไม่ประสบความสำเร็จเลยทั้งที่ทำดีตลอด ไหนๆก็ดำเนินชีวิตอย่างนี้แล้วก็ขอ ประสบความสำเร็จได้มั้ย เออ.. แต่วันนั้นกลับมาก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็เป็นการบนเอาไว้ว่าถ้ามีชื่อเสียง ..เอาหมอรำไปแก้บน นี่ 10ปีละ ..ยังไม่ไปแก้บน แต่ยังมีจิตสำนึกอยู่ว่า หากคิววันไหนว่างๆจะแก้บน นี่คือเรื่องจริงที่ไปเจอ ขับรถผ่านไปแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร อีกเรื่องนึงก็คือ เราไปชี้ศาลเก่าๆ เราแค่ไปชี้แล้วเอาหนังสติ๊กไปยิง เฮ้ย..อย่าไปยิงตรงนี่นะไม่ดี คืนนั้นเล่นลิเกไม่ได้เลยปวดตามากๆปวดแบบทุรนทุรายเลย ปวดแบบเอาหัวชนฝา แต่ก็มีสติบอกแม่ว่า แม่..ไปโรงพยาบาลไปตรวจเถอะไม่รู้เป็นไรไปเอ็กซเรย์ ความคิดอย่างนั้นนะแต่ แม่พี่ป้าน้าอาเอารถออก ไม่ได้ไปหาหมอไปหาพระ เป็นความเชื่อไปหาพระ แล้วพระก็บอก โดนของ สุดท้ายก็เลยเอาไก่ เอาเหล้ามาถวายศาล แล้วมันก็หายๆปลิดทิ้งเลย ตัวเราก็สงสัย ทำไมเป็นอย่างนี้ รุ่งเช้าก็เลยไปถามผู้ใหญ่บ้าน นี่คือศาลอะไร เป็นศาลครูใหญ่ถูกยิงถูกตรงเบ้าตาเสียชีวิต แล้วก็ปวดตามาก นี่เป็นเรื่องจริงที่เรา ทั้งชีวิตบอกตรงๆว่าจะเชื่อเรื่องนี้ ไม่ใช่งมงาย ..เชื่อ เราเจอมาจริงๆแล้ว
Q.สุดท้ายวันนี้ถ้าขอพรได้ พี่เท่งอยากจะขอพรอะไร
T.วันนี้ถ้าผมขอพรได้ ผมพูดจริงๆเลยนะครับผม ผมไม่ใช่ว่าจะมาเชียร์เฉพาะหนังเรื่องนี้ หนังไทยทุกเรื่องมีคุณภาพ และทุกคนทำงานกันด้วยใจจริง ทำงานกันด้วยหยาดเหงื่อและแรงงาน ทำงานกันด้วยจิตใจทุ่มเท แต่มันมีเทปผีและซีดีปลอม ทุกอย่างซึ่งมันมากกัดกร่อนความรู้สึกของคนทำงานจริงๆ คนลงทุนพอลงทุนไปแล้วเค้าก็ต้องหากำไร มันเป็นการค้าขายโดยตลาด แต่คนที่ไม่ได้ลงทุน คนที่นั่งเฉยๆ คอยปั้บแผ่นขาย คอยเอาความคิดของคนอื่นมาหากิน คือผมว่าไม่น่าที่จะเกิดมาเป็นคน ไม่น่าที่จะทำอย่างนี้นะฮะ คือผมไม่ได้ว่านะครับ แต่ความรู้สึกทุกวันนี้ เป็นความรู้สึกที่ว่ามันๆแย่ไปหมดแล้ว ฉะนั้นแล้วผมเพียงแค่วิงวอนว่า จะปราบหรือว่าจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็มันก็ทำไม่ได้หรอก เพราะว่าบ้านเมืองเรามันเป็นอย่างนี้ ฉะนั้นแล้วสิ่งที่ทำได้ก็คือผู้บริโภค ก็คือแฟนๆ คือที่ชื่นชอบผม แฟนๆที่ชื่นชอบดารานักแสดงทั่วไป เวลาเค้ามีผลงานอะไรดีๆมาเสนอท่าน เศษสตังค์ของท่านไม่มากหรอก ไปซื้อของจริงนะ ไปดูของจริง ถ้าเป็นไปได้นะฮะอยากให้ไปดูในโรงภาพยนตร์ว่าเค้าให้อะไรกับท่านบ้าง ทั้ง แสง สี เสียง คุณภาพทุกอย่างมันเพอร์เฟ็กท์หมด ผมก็เคยนำแผ่นผีมาดูที่บ้าน มันเสียอารมณ์ ผมว่าทุกท่านเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ พอดูเสร็จปั๊บ หนึ่งภาพไม่ชัด เสียงไม่ได้ เวลาดูมีเงาคนเดินผ่านอะไรอย่างเนี่ยะ แล้วท่านจะไปซื้อทำไมครับ ชื่อมันก็อัปมงคลอยู่แล้ว แผ่นผี ฉะนั้นแล้วผมกราบละครับนะ เราไม่ทลาย เราไม่ถล่มทลายใครหรอกครับ ท่านครับ ไปดูกันเถอะครับ แล้วคนที่ทำงานตรงเนี้ยะ เค้าจะได้มีกำลังใจสู้ต่อไป ถึงแม้ลงทุนมันจะขาดทุนอะไรก็ช่าง สิ่งที่ได้รับคือสิ่งดีๆจากแฟนๆที่มาดู มาชมผลงานของเค้า ฝากด้วยนะครับผม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ