กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
สภากทม. ลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมทางเดินริมคลองแสนแสบ ช่วงระหว่างวัดศรีบุญเรืองถึงตลาดมีนบุรี พบดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงแรก 60% อีก 3 ช่วงอยู่ระหว่างดำเนินการ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มช่องทางการสัญจรของจักรยานเรียบคลองแสนแสบ พร้อมทั้งเป็นการปรับภูมิทัศน์ริมคลองแสนแสบ เพื่อพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครต่อไป
นายประสิทธิ์ มะหะหมัด สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสะพานสูง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการจราจร ขนส่งและการระบายน้ำ ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมทางเดินริมคลองแสนแสบ ช่วงต่อขยายวัดศรีบุญเรืองถึงเขตมีนบุรี โดยมีผู้แทนจากสำนักการระบายน้ำ และสำนักการจราจรและขนส่ง ร่วมให้ข้อมูล
สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมทางเดินเรียบคลองแสนแสบ จากบริเวณวัดศรีบุญเรืองถึงเขตมีนบุรี ความยาวทั้งหมด 14.10 กม. แบ่งโครงการเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 วัดศรีบุญเรืองถึงสุเหร่าอัสลาม ความยาว 6.0 กม. ดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 60% ในส่วนของช่วงที่ 2 สุเหร่าอัสลามถึงวงแหวนตะวันออก 0.4 กม. ช่วงที่ 3 ซอยเสรีไทยถึงซอยรามคำแหง 147 ความยาว 1.30 กม. และช่วงที่ 4 ถนนร่มเกล้าถึงบริเวณคลองสองต้นนุ่น ความยาว 1.60 กม. ทั้งหมดอยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาเรื่องผู้รับเหมาและจัดสรรเรื่องงบประมาณ ซึ่งในโครงการทั้งหมดประกอบด้วยการสร้าง เขื่อน ค.ส.ล. พร้อมทางเดินกว้างประมาณ 2.55 เมตร การก่อสร้างสะพานทางเดินเหล็กข้ามคลอง และการก่อสร้างบันไดขึ้น-ลง ค.ส.ล. เสาไฟฟ้าส่องทางเดิน ความสูงประมาณ 3 เมตร และการขุดลอกคลอง ซึ่งมีความกว้างประมาณ 25-30 เมตร
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. ริมคลองแสนแสบนี้ เป็นการป้องกันดินริมชายฝั่งพังทลาย และเป็นการรองรับส่วนต่อขยายการเดินเรือในคลองแสนแสบ ช่วงระหว่างวัดศรีบุญเรืองถึงตลาดมีนบุรี อีกทั้งเป็นการเพิ่มการสัญจรทางใช้รถจักรยาน และเป็นการปรับภูมิทัศน์บริเวณริมคลองแสนแสบให้สวยงาม เพื่อพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครต่อไป
ทั้งนี้บริเวณทางเดินริมคลองแสนแสนจะใช้เป็นเส้นทางการเดินและการสัญจรของรถจักรยานเท่านั้น เพื่อเป็นการเพิ่มการเดินทางและการสัญจรให้กับประชาชน แต่ไม่ให้ประชาชนใช้เป็นทางสัญจรของมอเตอร์ไซด์เป็นอันขาด เนื่องจากอาจทำให้เขื่อน ค.ส.ล. และทางเดินเกิดความชำรุดเสียหาย รวมทั้งอาจทำให้ประชาชนที่ใช้เส้นทาง เกิดอันตรายจากอุบัติเหตุได้ ซึ่งสำนักการจราจรและขนส่ง จะจัดหาวิธีการและมาตรการลงโทษเพื่อไม่ให้ประชาชนนำมอเตอร์ไซด์มาสัญจรบริเวณนี้อีกด้วย