“จิงโจ้” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กระโดดถอยหลังไม่ได้ สัญลักษณ์ของชาวออสซี่ที่มูลค่ามหาศาลกว่าความน่ารัก

ข่าวบันเทิง Monday February 8, 2010 10:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--ทีวีบูรพา หากถามหาว่าเจ้าสัตว์น้อยน่ารักที่ชอบกระโดดเพราะไปได้เร็วและไกลกว่าการเดิน แน่นอนทุก คนรู้ว่าคือ “จิงโจ้” และหากถามต่อว่า “เราจะไปหาเจ้าจิงโจ้นี้แบบตัวเป็น ๆ ได้ที่ไหน? “ คำตอบคือ “ประเทศออสเตรเลีย”แต่ใครจะทราบบ้างว่าเจ้าจิงโจ้นี้นอกจากน่าตาจะน่ารักน่าเอ็นดูชวนให้เราหัวเราะ ขบขันในหลาย ๆ อริยาบถนั้น แท้จริงซ่อนความน่ารู้มากมายทำไมจิงโจ้จึง เป็นทั้ง ตราสัญลักลักษณ์ของ ชาวออสซ่ี ประเทศออสเตรเลีย และเป็นสัตว์เศรษฐกิจสร้างมูลค่ามหาศาลทีเดียว “จิงโจ้” โดดเด่นยังไงบ้างหนอ ?? เจ้าจิงโจ้ สัตว์น้อยน่ารักเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกระเป๋าหน้าท้องที่ใหญ่ที่สุดในโลก ( พันธุ์ที่ ใหญ่ที่สุดคือ Red Kangaroo สูงกว่า 2 เมตร หนักเกือบ 100 กิโล ) การเดินของจิงโจ้ถือเป็นเรื่องที่ลำบาก แต่การกระโดดกลับเป็นการเคลื่อนที่โดยปกติและธรรมดาสุด ๆ จิงโจ้เดินถอยหลังไม่ได้และมันยังกระโดด ได้สูง ถึง 3 เมตร เร็วและไกลเฉลี่ยประมาณ 20 — 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีหางที่ยาวและแข็งแรงมีวิธี ป้องกันตัวโดยการเตะต่อย “แล้วทำไมจิงโจ้ถึงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย?” “จิงโจ้” เป็นสัตว์พื้นถิ่นของประเทศออสเตรเลีย อาศัยอยู่มาก่อนที่จะค้นพบทวีปนี้เสียอีก มันจะ กระจัดกระจายอยู่ในแทบทุกพื้นที่ของประเทศตั้งแต่ป่าฝนที่มีอากาศหนาวเย็นไปจนถึงทุ่งหญ้าแบบทะเลทรายและในพื้นที่เขตร้อน ตามตำนานเล่าต่อกันมาว่า กัปตันเจมส์ คุก ได้เดินทางมาสำรวจยุโรปและพบ เจ้าสัตว์นี้กระโดดย๋องแย๋งอยู่จึงถาม Guugu Yimidhirr ชาวพื้นเมือง( Aborrigine ) ว่าคืออะไร แต่ด้วยไม่ เข้าใจภาษาอังกฤษก็ตอบไปว่า “ gunggurru” ซึ่งแปลว่า ฉันไม่เข้าใจคุณกัปตันคุกก็เข้าใจว่าเจ้าตัวนี้มีชื่อ ว่าเช่นนั้นจิงโจ้จึงถูกเรียกว่า “ Kangaroo” แต่นั้นมา จริง ๆ แล้วจิงโจ้ในออสเตรเลียมีประมาณ 60 สายพันธุ์ รวมแล้วราว ๆ เกือบร้อยล้านตัว ซึ่งเป็นที่ มาว่าทำไมถึงหาดูจิงโจ้ในออสเตรเลียได้ง่ายดาย ทำให้กลายเป็นตราสัญลักษณ์ของออสเตรเลียที่เป็น ที่รู้จักทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นตราประจำตระกูล บนหน้าธนบัตร แม้แต่สายการบินอันโด่งดัง Qantas จึงไม่ แปลกที่แทบจะทุกอย่างในออสเตรเลียจะมีจิงโจ้ร่วมอยู่เสมอ นอกจากภาพความน่ารักที่มีลูกน้อยอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของแม่แล้ว โดยแท้จริง“จิงโจ้”จัด ได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สามารถสร้างมูลค่าได้มหาศาลตั้งแต่การรับประทานเนื้อไปกระทั่งการแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ “อาชีพนักล่าจิงโจ”้เป็นอีกอาชีพหนึ่งของชาวออสเตรเลีย แต่!! ไม่ใช่ใครก็เป็นได้ต้องเป็นผู้ที่ผ่าน การทดสอบต่าง ๆ ทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการล่ามากว่า 30 อย่าง อาทิ กฎหมายข้อบังคับในการล่า โรค ที่อาจเกิดจากจิงโจ้ แม้กระทั่งความสะอาดของรถที่ใช้ใน การล่า เป็นต้น และต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาต จากรัฐบาลเท่านั้น เพราะการล่าจิงโจ้จะถูกกำหนดเป็นจำนวนโควต้าพื้นฐานจากจำนวนประชากรจิงโจ้ ทั้งหมดที่สำรวจเป็นประจำทุกปี เพื่อรักษาสมดุลของจำนวนจิงโจ้ในธรรมชาติไว้ ซึ่งโดยเฉลี่ยนแล้วในแต่ ละปีจะมีการล่าจิงโจ้เพื่อการค้าประมาณ 10 -15 % สำหรับคนที่เลือกกินเนื้อจิงโจ้นั้น แม้แต่พ่อครัวก็บอกว่าจัดเป็นเนื้อชั้นเลิศในบรรดาเนื้อสัตว์ป่าทั้ง หมด นอกจากเรื่องของรสชาติแล้วเนื้อจิงโจ้ยังมีความบางเป็นพิเศษ มีไขมันอิ่มตัวในปริมาณที่น้อยมาก คือน้อยกว่า 2% จึงเหมาะกับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพหรือผู้ที่ควบคุมน้ำหนักและอุดมไปด้วยโปรตีน สังกะสีและ เหล็ก นอกจากนี้ หนังและขนของจิงโจ้ยังถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย แถมยังมี คุณสมบัติเฉพาะที่สร้างความโดดเด่นและเพิ่มมูลค่ามากอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงทนทานน้ำ หนักเบาซึ่งถือเป็นที่สุดของหนังที่ดี ดังนั้นหนังจิงโจ้จึงถูกนำไปผลิต เป็นรองเท้าใส่สบาย ๆ ทั่วไป หรือผลิต เป็นรองเท้าคอมแบตสำหรับทหารและผู้ชื่นชอบการเดินป่า ไม่เว้นแม้แต่กระเป๋า ถุงมือ อุปกรณ์กีฬา แต่ที่ นิยมทำมากที่สุด คือ รองท้าเตะฟุตบอล จะเห็นได้ว่า “จิงโจ้” สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับออสเตรเลียได้เป็นจำนวนมาก แต่่ไม่ว่าจิงโจ้ใน ออสเตรเลียจะมีมากมายแค่ไหนก็ตามรัฐบาลออสเตรเลียยังได้ออกมาตราการหรือกฎหมายควบคุม เพื่อ ความเป็นระเบียบและอนุรักษณ์ให้ “จิงโจ้” ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของชาวออสซี่ ประเทศออสเตรเลีย ไปอีก นานหรือตลอดไป ติดตามชมเรื่องราวทุกซอกทุกมุมของ “จิงโจ้” ได้ในรายการ “กบนอกกะลา” ที่จะเผยแพร่ ทุกเรื่องราวแบบช็อตต่อช็อตเร็ว ๆ นี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด อารญา สุขหอม ( อุ๋ย ) โทร. 02-9575793 ต่อ 234 araya_ouy@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ