กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานระหว่างวันที่ 19-28 เมษายน 2553 มีพื้นที่ประสบวาตภัยรวม 21 จังหวัด 71 อำเภอ 177 ตำบล 780 หมู่บ้าน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบวาตภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นและเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนแล้ว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 19-28 เมษายน 2553 สภาพอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และเกิดพายุฤดูร้อน ทำให้บ้านเรือนราษฎรและสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายจากลมพายุใน
21 จังหวัด รวม 71อำเภอ 177 ตำบล 780 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 11,632 ครัวเรือน จังหวัดอุดรธานี ใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนายูง อำเภอเพ็ญ อำเภอน้ำโสม อำเภอหนองหาน อำเภอกุดจับ อำเภอพิบูลย์รักษ์ และอำเภอบ้านผือ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 679 ครัวเรือน
จังหวัดขอนแก่น ใน 6 อำเภอ ได้แก่อำเภอหนองนาคำ อำเภอเปือยน้อย อำเภอหนองเรือ อำเภอชุมแพ อำเภอสีชมพู และอำเภอโคกโพธิ์ไชยราษฎรได้รับความเดือดร้อน 400 ครัวเรือน จังหวัดเชียงใหม่ ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ริม อำเภอสะเมิง อำเภอดอยหล่อ อำเภอแม่แตง และอำเภออมก๋อย ผู้บาดเจ็บ 3 คน ผู้เสียชีวิต 2 คน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 211 ครัวเรือน จังหวัดพิษณุโลก ใน 3 อำเภอ ได้แก่
อำเภอเมืองพิษณุโลก อำเภอบางระกำ และอำเภอนครไทย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 200 ครัวเรือน จังหวัดกำแพงเพชร ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอบังสามัคคี อำเภอไทรงาม และอำเภอคลองขลุง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 262 ครัวเรือน จังหวัดนครสวรรค์ ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอตากฟ้า อำเภอลาดยาว และอำเภอเก้าเลี้ยว ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 195 ครัวเรือน จังหวัดอุตรดิตถ์ ในอำเภอฟากท่า ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 52 ครัวเรือน จังหวัดศรีสะเกษ ในพื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 47 ครัวเรือน จังหวัดสุรินทร์ ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนนารายณ์ และอำเภอเมืองสุรินทร์ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 100 ครัวเรือน จังหวัดหนองบัวลำภู ในอำเภอศรีบุญเรือง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 25 ครัวเรือน จังหวัดมหาสารคาม
ในอำเภอนาเชือก ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 82 ครัวเรือน จังหวัดฉะเชิงเทรา ในอำเภอท่าตะเกียบ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 82 ครัวเรือน จังหวัดปราจีนบุรี ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีมหาโพธิและอำเภอเมืองปราจีนบุรี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 65 ครัวเรือน
จังหวัดเชียงราย ในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอขันตาล อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงชัย อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอเวียงแก่น อำเภอพาน และอำเภอเมืองเชียงราย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6,328 ครัวเรือน จังหวัดพิจิตร ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดงเจริญ อำเภอตะพานหิน อำเภอทับคล้อ และอำเภอวังทรายพูน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 300 หลังคาเรือน จังหวัดจันทบุรีใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมะขาม และอำภอท่าใหม่ ราษฎรได้รับความเสียหาย 300 ครัวเรือน จังหวัดแพร่ ในอำเภอวังชิ้น ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 12 ครัวเรือน จังหวัดน่าน ในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 12 ครัวเรือน จังหวัดพะเยา ใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอจุน อำเภอปง อำเภอแม่ใจ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอภูกามยาว อำเภอเชียงคำ และอำเภอเชียงมวน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 910 ครัวเรือน จังหวัดลำปาง ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเถิน อำเภอเมืองปาน อำเภอแม่ทะ อำเภอเสริมงาม และ
อำเภอแจ้ห่ม ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,403 ครัวเรือน จังหวัดสตูล ในอำเภอท่าแพ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 265 ครัวเรือน ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบวาตภัยได้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนและหากประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วาตภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมปภ.