นายหน้าอสังหาฯ ตื่นตัวรับนโยบายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปปง.จับมือ IMF ดึงสมาคมนายหน้าฯ ต้านผู้ก่อการร้ายแฝงตัว

ข่าวทั่วไป Thursday July 8, 2010 08:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ปปง. ร่วมกับ กองทุนเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund :IMF) และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ จัดสัมมนาให้ความรู้แก่กลุ่มนายหน้าอสังริมทรัพย์ เกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายในปัจจุบัน มิสเตอร์ทอม แฮนเซน ที่ปรึกษาด้านวิชาการสำนักกฎหมายกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานนี้ว่า เพื่อต้องการให้ความรู้แก่กลุ่มนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับการฟอกเงินในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ ปปง. และ IMF ได้มีแนวคิดที่ว่า จะทำอย่างไรให้ทุกคนเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับการก่อการร้ายดังกล่าว ดังนั้น จึงควรที่จะมีการจัด work shop สัมมนาให้ความรู้และความเข้าใจรวมไปถึงการเฝ้าระวังบุคคลที่น่าสงสัยให้กับกลุ่มนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากอาชีพนายหน้ามีความเสี่ยงต่อการที่จะเป็นเครื่องมือของผู้ก่อการร้ายค่อนข้างมาก โดยที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายมักมีวิธีฟอกเงินในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแปรเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบของการลงทุน หรือในการแปรเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินต่าง ๆ ทำให้มีการตรวจสอบได้ยากมากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ดีหากทางหน่วยงานราชการ ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน เพื่อคอยเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังให้อีกด้านหนึ่ง เพราะตัวนายหน้าเองนั้นมีความใกล้ชิดสนิทกับตัวลูกค้า หากมีสิ่งผิดปกติไม่ชอบมาพากลก็สามารถให้ข้อมูลกับทางด้านปปง. เพื่อจะได้ดำเนินการห าทางจับกุมผู้ก่อการร้ายต่อไป ทางด้านนายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้เข้าร่วมสัมมนาเกี่ยวกับการทุจริตการฟอกเงิน ทำให้ทราบว่า ระดับความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการฟอกเงินของประเทศไทยนั้นยังอยู่ในระดับที่ต่ำ จึงเป็นหน้าที่ที่เราทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้ความน่าเชื่อถือในประเทศเพิ่มมากขึ้น และในการสัมมนาครั้งนี้ทำให้กลุ่มนายหน้าได้มีความรู้ ความเข้าใจ เพื่อที่จะระมัดระวัง ในการตกเป็นเครื่องมือของผู้ก่อการร้าย ที่มักมีวิธีต่าง ๆ ในการฟอกเงิน โดยเฉพาะในรูปแบบของการเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับอสังหาฯ โดยลงทุนผ่านนายหน้า การสัมมนาในครั้งนี้ ทำให้กลุ่มนายหน้าตื่นตัวและระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย อีกทั้งยังคอยเป็นหูเป็นตาให้กับทางการอีกด้านหนึ่งด้วย สำหรับแบบแผนต่อไปที่ทางสมาคมฯคิดไว้นั้น จะทำอย่างไรเพื่อที่จะสามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ของ ปปง.และ IMF ทางสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์คิดว่า จะต้องให้ความรู้เกี่ยวกับการทุจริตการฟอกเงินให้กับผู้ที่ประกอบอาชีพนายหน้าอสังหาฯ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกของสมาคมจะต้องจัดให้มีการประชุมสัมมนาให้ความรู้เพิ่มเติม อัพเดทข่าวสารข้อมูล กับทางปปง. เพื่อรับทราบวิธีในการฟอกเงินในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อที่ทางสมาชิกจะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารต่อไป อีกทั้งสมาชิกยังสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างสมาชิกด้วยกันเองเกี่ยวกับบุคคลที่เข้ามาติดต่อซื้อขายและเข้าข่ายน่าสงสัย และเร่งผลักดันให้ภาครัฐออกพระราชบัญญัติเกี่ยวกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อที่จะควบคุมการทำงานของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างทั่วถึง ปัจจุบันประเทศไทยนั้น อยู่ในกลุ่มเครือข่ายเป็นประเทศที่จะต้องเฝ้าระวัง เกี่ยวกับการก่อการร้ายการฟอกเงินในอันดับต้น ๆ และเมื่อพิจารณากรณีเกี่ยวกับการฟอกเงินที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พบจุดอ่อนคือ กรอบการปฏิบัติทางกฏหมาย และการปฏิบัติของหน่วยงาน สถาบันต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายยังมีอยู่มาก ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอย่างจริงจังมากขึ้น ประเทศไทยยังจัดได้ว่า เป็นประเทศที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับ IMF อยู่ในระดับ 31% ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ประเทศไทยของเราขาดความน่าเชื่อถือ หากทางกลุ่มนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ให้ความร่วมมือแก่หน่วยงานราชการ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทั้งภาครัฐและเอกชนจะร่วมมือที่จะเฝ้าระวัง ทำให้การฟอกเงินของผู้ก่อการร้ายเป็นไปได้ยากมากขึ้น ในขณะเดียวกันทางหน่วยงานราชการ จะต้องให้การสนับสนุนเกี่ยวกับการจัด work shop ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการก่อการร้ายในหลากหลายรูปแบบ เพื่อที่จะเสริมสร้างศักยภาพให้กับนายหน้าอสังหาฯ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่ว่าจะทำอย่างไร ให้การก่อการร้ายในรูปแบบนี้ค่อย ๆให้หายไปหรือทำให้ยากมากขึ้น หากทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือ เป็นไปได้ที่ว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเพิ่มความน่าเชื่อถือจาก 31 % เป็น 70 % และสามารถออกจากประเทศที่ควรเฝ้าระวังได้ในไม่นานนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จำนวน 200 ราย เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมการประกอบวิสาหกิจประเภทที่เกี่ยวกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งสนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิก แก้ไขอุปสรรค์ข้อขัดข้องต่าง ๆ รวมทั้งเจรจาทำความตกลงกับบุคคลภายนอก เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการประกอบวิสาหกิจของสมาชิก สอดส่องและติดตามความเคลื่อนไหวของการตลาดการค้าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่ออำนวยประโยชน์ แก่การประกอบธุรกิจการค้าอุตสาหกรรมการเงินหรือเศรษฐกิจ และให้ความอนุเคราะห์แก่สมาชิกในด้านสวัสดิการเท่าที่ไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณกานติญา , คุณสุภาพร สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โทร. 02-679-3255 Email: reba@reba.or.th www.reba.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ