“สุริวิภา” ล้วงลึกยิ่งกว่าลึก ชีวิตที่เลวกว่าหมา!!ของ หมอนิด-กิจจา ทวีกุลกิจ

ข่าวทั่วไป Monday June 25, 2007 08:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--เจเอสแอล
จากการกล้าหาญทำนายอนาคตของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร อย่างตรงไปตรงมา ทำให้ หมอนิด-กิจจา ทวีกุลกิจ เป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงขึ้นมาไม่น้อย โดยเฉพาะตอนนี้หลายคนกำลังรอคอยว่า คำพยากรณ์ถึงอนาคตการเมืองและนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเขาจะแม่นยำหรือไม่ “สุริวิภา”จึงขอย้อนเจาะลึกเรื่องราวชีวิตจากเด็กขายไอติม จบป.5 ผู้มาเป็นหมอดูที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
หมอนิด — กิจจา ทวีกุลกิจ ขณะนี้อายุ 58 ดูหมอมาได้ 21 ปี เมื่อก่อนเปิดบ้านตี 5 เพียงแค่ 15 นาทีบัตรคิวเต็มหมด แล้วต้องดูถึง 3-4 ทุ่ม ตอนนี้สุขภาพเริ่มไม่ค่อยดี ดูได้แค่ 15 คนต่อวัน ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึงสี่โมงเย็น เขาเริ่มเล่าชีวิตของเขาว่า “สมัยเด็กฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก พ่อผมขายรองเท้า ผมเริ่มทำงานตั้งแต่ ป.3 เสาร์-อาทิตย์รับไอติมมาขาย ปิดเทอมก็ขายลูกเหม็น ด้วยความที่อยากมีเงิน เลยออกจากโรงเรียนไปทำงานกับพี่ชายที่รับจ้างเอารองเท้าใส่กล่อง ได้ 80 บาทต่อเดือน เวลากินข้าวผมกลัวไม่อิ่ม ก็ซื้อราดหน้ามากินกับข้าว ทุกวันนี้ก็ยังทำอย่างนั้น สักพักไปช่วยพี่สาวที่ขายเครื่องสังฆภัณฑ์ แบกของจนกระดูกหลังทรุดถึงวันนี้ อีก 3-4 ปี เถ้าแก่อู๋มาจ้างให้เก็บค่าเช่าแผงและดูแลกล้วยไม้ จนผสมพันธุ์กล้วยไม้เป็น เถ้าแก่เชื่อใจมาก เพราะเวลาแกโดนจับเล่นไผ่ ก็จะผมเปลี่ยนตัวผมไปติดคุกแทน วันต่อมาค่อยไปประกันตัว เถ้าแก่เป็นคนช่วยออกค่าสินสอดแต่งงานให้”
“ชีวิตตอนนั้น ผมยอมรับว่าเลวครับ ทำงานได้เงินมา ผมเอาไปเที่ยว ไปเล่นการพนัน เอาไปช่วยเพื่อนจนหมด แม่ต้องเตือนสติ ถ้าเลิกเล่นส่วนที่เสียจะได้เก็บไว้ แต่ถ้าไม่เลิกเล่น ที่ได้มาก็จะเสียหมด จากนั้นก็เลิกเลย มารับจ้างส่งกระดุม จนได้ลู่ทางทำเอง แต่ตอนนั้นยังไม่มีรถ ต้องแบกลังขึ้นรถทัวร์ ไปตระเวนทั่วประเทศ 73 จังหวัดสมัยนั้นยกเว้นแม่ฮ่องสอน ตอนหลังพ่อตาให้รถเก่ามาใช้ ทุกอย่างทำท่าจะดีขึ้น ขายดีมีบ้านมีรถ แต่เพื่อนมาชวนลงทุนซื้อขายพืชผลล่วงหน้า เราไม่มีความรู้เรื่องนี้ เลยขาดทุนจนหมดตัว เสียทั้งบ้าน รถ ทุกอย่าง
ตอนนั้นเครียดมาก โทรไปหลานที่ผมเคยช่วยให้ทอง 10-20 บาทเขาไปโชว์หน้าร้าน พอเขาได้ยินเสียงเป็นผมก็ตัดบทถ้าจะมาถามเรื่องเงินไม่ต้องพูดถึงนะ ผมน้ำตาตกเลย นั่งร้องไห้กัน 2 คนกับภรรยา จะไปยืมเงินพี่เขย เขาก็ให้ผมไปตั้งแชร์ คิดดูตอนนั้น เงินจะกินยังไม่มี ใครจะเชื่อถือ ชีวิตตกต่ำมากที่สุด แม้แต่เงิน 5 บาทจะให้ลูกไปโรงเรียนผมก็ยังไม่มี
ที่แย่ที่สุดคือ หนี้ที่มี เป็นของพี่ชาย เขาสั่งรองเท้ามาส่งบ้านผม ให้ผมตีเช็คไปก่อน แต่เขาไม่เอาเงินมาให้ เจ้าของรองเท้าก็ให้นักเลงมาข่มขู่ทวงหนี้ที่บ้าน ผมไม่มีจริงๆ ขอร้องอย่าจับให้ลูกเมียเห็น แต่เขาอยากประจานผม วันรุ่งขึ้นผมเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวมาให้จับแล้ว บอกเขาถ้าคุณจะจับผมคุณต้องจับวันนี้ เพราะถ้าผมกลับไป แล้วคุณไปจับผมที่บ้าน อย่างมากคดีเช็คผมก็ติดคุกหนึ่งปี แต่ถ้าออกมาเมื่อไหร่ผมยิงคุณแน่ เขาเห็นผมเอาจริงก็ยอมให้ผมผ่อนให้ เขาคิดว่าพี่น้องผมมี ถ้าผมโดนจับพี่น้องผมต้องเขามาช่วย เขาไม่รู้หรอกว่า แค่เงิน 5,000 บาท เขายังไม่ช่วยเลย แต่ก็ยังมีพี่ชายผมคนหนึ่งที่ช่วยเหลือผม ให้ความคิด ให้ทางออก แก่ผม ด้วยการบอกให้ผมไปฆ่าตัวตายซะ!!!”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง หมอนิดยังต้องพบกับภาระอันหนักหน่วง “ในช่วงนั้นคุณพ่อผมป่วยเส้นเลือดในสมองแตก สะใภ้ 3 คนต้องผลัดกันเฝ้า แต่เขามาจ้างเมียผมวันละ 200 แต่เงินค่ายาไม่ให้ไว้เลย กลายเป็นว่ารับจ้างเฝ้าพ่อเพื่อเอาเงินนั้นมาเป็นค่ายา พ่อป่วยอยู่ 5-6 เดือน ผมก็รับกลับมาดูแลที่บ้าน นานๆพี่น้องมาเยี่ยมบ้างเอาของกินมาฝาก ต่อมาพี่ชายมารับไปอยู่บ้านที่ราชบุรี อีก 2-3 เดือนต่อมาพ่อก็เสีย ตามธรรมเนียมจีนลูกๆ ทุกคนต้องช่วยกันซื้อโลง แม่ยายให้เงินผมไป 500 บาท ผมก็แบ่งช่วยไป 300 ในงานศพที่วัดลาดพร้าว ผมเหมือนหมาตัวหนึ่ง ที่ต้องคอยหลบซ่อนอยู่หลังเสาสู้หน้าใครไม่ได้”
แต่ชีวิตใช่ว่าจะตกต่ำอยู่เช่นนั้น ยังพอมีหนทางสว่างให้ชีวิตเสมอ “ผมเครียดมากๆ ไปนั่งในโบสถ์จ้องหน้าพระพุทธรูป ยังไงๆ ท่านก็ยังยิ้มให้ผม ให้กำลังใจผม แล้วผมก็เป็นหนี้บุญคุณหมาขี้เรื้อน ต่อให้มันอิดโรยหิวโซ ไม่มีใครยินดียินร้ายกับมัน ซ้ำยังขับไล่ไสส่ง แต่มันก็ไม่ยักตาย มีชีวิตอยู่ได้ แล้วผมเป็นคนแท้ๆ จะยอมแพ้หมาขี้เรื้อนได้อย่างไร ผมถือคติว่า ถ้าทำดีกว่าหมาไม่ได้ อย่าทำเลว กว่าหมา”
หมอนิดจึงปลุกปลอบให้กำลังใจแก่ตัวเอง ด้วยการเข้าก๊วนตกปลาเครียดคลายกับเพื่อนๆ จนกลายเป็นแชมป์ บ่อปลาหลายแห่งห้ามหมอนิดเข้า จนกระทั่ง วันหนึ่งสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกับเขา แล้วเขาจะพลิกฟื้นชีวิตกลับขึ้นมาจนกลายเป็นคนมีชื่อเสียงได้อย่างไร
ติดตามชมได้ใน “สุริวิภา” พุธที่ 27 มิถุนายนนี้ เวลาดีสี่ทุ่ม โมเดิร์นไนท์ทีวี
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ต้องการข้อมูลเพิ่มติดต่อ วิรดา อนุเทียนชัย (วิ) 0 — 1804 - 5493
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ