ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น” ที่ “BBB+” และ “BBB” พร้อมคงแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 26, 2014 09:32 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB” โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบน ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า และรายได้ที่เติบโตอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากระดับอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ลดลง ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูงด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันและฐานะการเงินเอาไว้ได้ในระยะปานกลาง โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 15% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนยังคาดว่าจะอยู่ในช่วง 50%-60% ทั้งนี้ การลดลงของความสามารถในการทำกำไรหรือการเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนซึ่งเกินกว่าระดับ 60% จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออันดับเครดิตของบริษัท

บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งในปี 2532 โดยหลังจากที่กลุ่มตระกูลชินวัตรซื้อกิจการของบริษัทในปี 2538 บริษัทก็เริ่มดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าโดยทำการพัฒนา “อาคารชินวัตร 3” เป็นโครงการแรก ในปี 2546 บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจโดยเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีเดียวกัน โดย ณ เดือนพฤษภาคม 2557 บริษัทยังคงมีกลุ่มตระกูลชินวัตรเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 60.1% ของหุ้นทั้งหมด บริษัทนำเสนอสินค้าที่อยู่อาศัยที่หลากหลายซึ่งประกอบไปด้วย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม

โครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทเน้นลูกค้าที่มีรายได้ในระดับปานกลางถึงสูง ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยต่อหลังอยู่ที่ 6.8 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 29 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายประมาณ 24,500 ล้านบาท และมียอดขายรอการส่งมอบประมาณ 11,600 ล้านบาท โดยจะทยอยส่งมอบให้แก่ลูกค้าในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ถึงปี 2559 รายได้จากบ้านเดี่ยวยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 65% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้จากคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์รวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ส่วนรายได้จากค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 10% ของรายได้รวม

ในปี 2556 ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน เป็น 13,532 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เท่ากับ 3,463 ล้านบาท ลดลงถึง 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายที่ลดลงเนื่องจากผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองซึ่งเริ่มต้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปี 2557 อีกทั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 บริษัทเปิดโครงการบ้านเดี่ยวใหม่เพียง 2 โครงการ เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2556 ที่บริษัทเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ โดยเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ส่งผลให้ยอดขายคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 คิดเป็น 17% ของยอดขายทั้งหมด เทียบกับ 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ทริสเรทติ้งคาดว่ายอดขายของบริษัทจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 8,000-11,000 ล้านบาทต่อปีได้ในช่วงปี 2557-2559 รายได้รวมของบริษัทในปี 2556 อยู่ที่ 10,031 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จาก 8,358 ล้านบาทในปี 2555 ทั้งนี้ รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็น 9,201 ล้านบาทในปี 2556 จาก 7,555 ล้านบาทในปี 2555 ในขณะที่รายได้จากค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 รายได้รวมของบริษัทลดลงเล็กน้อยเป็น 4,309 ล้านบาท จาก 4,428 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2556 โดยรายได้จากบ้านเดี่ยวยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในการเติบโต ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 11,000-14,000 ล้านบาทในช่วงปี 2557-2559 เนื่องมาจากสัดส่วนรายได้จากคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้น ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 36%-37% ของรายได้ในช่วงปี 2555 จนถึงครึ่งแรกของปี 2557 อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรจากการดำเนินงานซึ่งวัดจากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ลดลงเป็น 14% ในช่วงปี 2556 ถึงครึ่งแรกของปี 2557 จาก 16.92% ในปี 2555 และ 20.92% ในปี 2554 เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ความไม่สอดคล้องกันระหว่างค่าใช้จ่ายทางการตลาดและการรับรู้รายได้ของคอนโดมิเนียมทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทไม่ควรต่ำกว่าระดับ 15% ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเนื่องจากบริษัทมีแผนจะส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการ ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 58.4% จากระดับ 55.5% ณ สิ้นปี 2556 เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นเมื่อบวกกับอัตราการทำกำไรที่ลดลง ส่งผลทำให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทลดลงจากระดับ 10% หรือสูงกว่า เหลือประมาณ 7%-8% ในช่วงปี 2556 ถึงครึ่งแรกของปี 2557 อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนนี้จะปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 10%-12% ได้เมื่อบริษัทรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ได้ส่งมอบในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ถึงปี 2559 จากการที่บริษัทใช้วงเงินกู้ยืมจากธนาคารในการลงทุนซื้อที่ดินและค่าก่อสร้างโครงการ กระแสเงินสดรับของบริษัทจากการโอนบ้านและคอนโดมิเนียมจึงคาดว่าจะสอดคล้องกับกำหนดการชำระหนี้ของบริษัท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในอีก 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 10,625 ล้านบาท โดยประมาณ 80% เป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และอีก 20% ที่เหลือเป็นหุ้นกู้ โดยบริษัทมีแผนจะชำระคืนหุ้นกู้ด้วยเงินสดจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่และชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารด้วยกระแสเงินสดที่จะได้รับจากการโอนโครงการที่ยังไม่ได้ส่งมอบ นอกจากนี้ บริษัทยังมีวงเงินที่ไม่ได้เบิกใช้จากสถาบันการเงินอีกจำนวน 4,419 ล้านบาทด้วย

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
SC156A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB
SC160A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ