ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. โออิชิ กรุ๊ป” ที่ “A-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 19, 2014 09:12 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่เป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศไทยและการมีตราสัญลักษณ์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดี การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการสนับสนุนที่บริษัทได้รับจากบริษัทแม่คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทั้งในด้านคณะผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ เครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง และความร่วมมือด้านการผลิตด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ความต้องการบริโภคเครื่องดื่มชาเขียวที่ลดลง และภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะทางการแข่งขันและประโยชน์ที่ได้รับจากการผสานพลังทางธุรกิจกับบริษัทไทยเบฟเวอเรจต่อไป อีกทั้งยังคาดหวังให้บริษัทมีผลการดำเนินงานและมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินที่ดีขึ้น การขยายธุรกิจหรือแผนซื้อกิจการใดใด ควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อรักษาโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งเอาไว้

บริษัทโออิชิ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ ธุรกิจเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์และธุรกิจอาหาร สินค้าของบริษัทเน้นเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นและมีตราสัญลักษณ์ “โออิชิ” (Oishi) เป็นตราสินค้าหลัก สินค้าประเภทเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของบริษัทครอบคลุมชาเขียวญี่ปุ่น ชาผสมสมุนไพร และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 บริษัทมีโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 3 แห่งซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 464 ล้านลิตรต่อปี สำหรับธุรกิจอาหารนั้น บริษัทดำเนินธุรกิจเครือข่ายภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น จำหน่ายอาหารแช่แข็งและแช่เย็น และให้บริการจัดส่งอาหาร บริษัทมีเครือข่ายภัตตาคารรวม 206 สาขา ณ เดือนกันยายน 2557 ครัวกลางแห่งใหม่ของบริษัทซึ่งอยู่ในจังหวัดชลบุรีเปิดดำเนินการในเดือนมกราคม 2557 ทดแทนครัวเก่าในจังหวัดปทุมธานี

สถานะทางธุรกิจของบริษัทได้รับแรงหนุนจากการมีฐานะเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชาเขียวชั้นนำในประเทศไทย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 44% ของตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในประเทศ การบริโภคชาเขียวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ 3 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผู้ผลิตชาเขียวทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเชิงรุก อย่างไรก็ตาม คาดว่าการบริโภคจะลดลงในปี 2557 เนื่องจากผู้ผลิตลดกิจกรรมส่งเสริมการขายลงในปีนี้ แนวโน้มการเติบโตของตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในอนาคตไม่น่าจะสูงเหมือนในอดีตที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจอาหารนั้น เมื่อพิจารณาถึงตราสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักและเครือข่ายภัตตาคารของบริษัทที่มีขนาดปานกลางแล้วคาดว่าบริษัทมีโอกาสเติบโตที่ดีในธุรกิจดังกล่าวในอนาคต กลยุทธ์หลักของบริษัทคือขยายจำนวนสาขาทั่วเมืองใหญ่ในประเทศไทยอย่างน้อย 40 สาขาต่อปี รวมทั้งเปิดสาขาในประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในอาหารประเภทใหม่ ๆ

ณ เดือนสิงหาคม 2557 บริษัทไทยเบฟเวอเรจถือหุ้นในสัดส่วน 79.7% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท การเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นนำของไทยทำให้บริษัทได้รับการสนับสนุนและประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านจากการผสานพลังทางธุรกิจ ได้แก่ การแต่งตั้งคณะผู้บริหารเข้ามาดูแล การให้บริการกระจายสินค้า และความร่วมมือด้านการผลิต เครือข่ายการจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ของบริษัทไทยเบฟเวอเรจช่วยให้สินค้าของบริษัทกระจายตัวครอบคลุมตลาดและเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศและมีโอกาสเติบโตในตลาดส่งออกด้วย บริษัทยังมีความร่วมมือกับบริษัทไทยเบฟเวอเรจในด้านการผลิตโดยการใช้โรงงานและเครื่องมือร่วมกันในการผลิตซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถจัดซื้อวัตถุดิบร่วมกับบริษัทไทยเบฟเวอเรจซึ่งช่วยทำให้บริษัทมีอำนาจต่อรองกับคู่ค้ามากขึ้นด้วย

ในปี 2556 ยอดขายของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 12,208 ล้านบาท และเติบโตอีก 2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 โดยการเติบโตเกิดจากธุรกิจอาหารเป็นหลัก ยอดขายจากธุรกิจอาหารเติบโต 12% ในปี 2556 และเติบโต 8% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ซึ่งมาจากการขยายจำนวนสาขาร้านอาหาร ในทางกลับกัน ยอดขายจากธุรกิจเครื่องดื่มลดลง 1% ในปี 2556 และหดตัว 4.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 การลดลงของรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มเกิดจากการบริโภคที่หดตัวและการส่งเสริมการขายที่ลดลง ในอดีตธุรกิจเครื่องดื่มเคยสร้างรายได้ให้แก่บริษัทโดยมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของรายได้รวม แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 กลับลดลงเหลือ 46% ของรายได้รวมของบริษัท ตลาดชาพร้อมดื่มในปี 2557 ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ลดลง มูลค่าตลาดชาพร้อมดื่มในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ลดลงไป 4.4% โดยเปรียบเทียบกับการเติบโตในอัตราเลข 2 หลักในช่วงปี 2554-2556 การแข่งขันในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีความรุนแรงเนื่องจากมีผู้แข่งขันจำนวนมากและมีสินค้าทดแทนได้ง่าย ทำให้กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการขายเป็นสิ่งสำคัญในการกระตุ้นความต้องการอยู่เสมอ

อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขาย) ของบริษัทลดลงจาก 10.4% ในปี 2556 มาอยู่ที่ 9.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 อันเป็นผลจากธุรกิจอาหารเป็นสำคัญ โดยอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อยอดขาย (EBITDA Margin) จากธุรกิจอาหารลดลงจาก 9.7% ในปี 2556 มาอยู่ที่ 8% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ซึ่งเป็นผลจากค่าแรงที่สูงขึ้นและการหดตัวลงของยอดขายจากสาขาเดิม สำหรับ EBITDA Margin ในธุรกิจเครื่องดื่มปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 12% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 จากระดับ 5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนที่ประหยัดได้จากการผลิตที่มีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีการบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อ (Cold Aseptic Filling -- CAF) อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 30% ของรายได้รวม สภาพคล่องของบริษัทอ่อนตัวลงแต่ยังอยู่ในระดับที่รับได้ โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงจาก 61.3% ในปี 2556 มาอยู่ที่ 45.4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง)

ในช่วงปี 2557-2560 สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโต 4%-7% ต่อปี โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการขยายสาขาร้านอาหาร ธุรกิจชาพร้อมดื่มคาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความนิยมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทริสเรทติ้งคาดหวังให้บริษัทมีอัตราส่วนกำไรสูงกว่า 10% จากอุปสงค์ที่มีต่อธุรกิจอาหารที่มีเสถียรภาพและการมีต้นทุนที่ได้เปรียบในธุรกิจเครื่องดื่ม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทน่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงเพื่อสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งในตราสัญลักษณ์ ในช่วงปี 2557-2560 คาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 1,200-1,700 ล้านบาทต่อปี

ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจากระดับ 2,063 ล้านบาทในปี 2556 มาอยู่ที่ 3,003 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2557 เนื่องจากบริษัททำการขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มและสร้างครัวกลางแห่งใหม่ ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นจาก 37.7% ในปี 2556 เป็น 47.2% ณ เดือนกันยายน 2557 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะใช้ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในช่วงปี 2557-2560 ประมาณ 4,500 ล้านบาทเพื่อใช้ขยายสาขาร้านอาหารและบำรุงรักษาสายการผลิตเครื่องดื่ม คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนในช่วงระยะปานกลางจะอยู่ในระดับไม่เกิน 50% ทั้งนี้ สมมติฐานพื้นฐานนี้ไม่ได้รวมการลงทุนใหม่หรือเงินลงทุนสำหรับการซื้อกิจการขนาดใหญ่

บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
OISHI168A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2557  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ