ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. โออิชิ กรุ๊ป” ที่ “A-/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 1, 2015 09:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่เป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศไทย การมีตราสัญลักษณ์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดี ตลอดจนสภาพคล่องทางการเงินที่ดีของบริษัท การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการสนับสนุนที่บริษัทได้รับจากบริษัทแม่คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ตลอดจนการชะลอตัวของการบริโภค และภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะทางการแข่งขันและสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงมีความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจต่อไป

การปรับเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิตของบริษัทจะเกิดจากการที่บริษัทได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจที่มากขึ้น และ/หรือมีผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ความเสี่ยงจากการถูกปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทจะเกิดจากการที่บริษัทเปลี่ยนไปใช้นโยบายการก่อหนี้เชิงรุกหรือหากการทำกำไรของบริษัทลดลงเป็นระยะเวลาที่ต่อเนื่อง

บริษัทโออิชิ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ ธุรกิจเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์และธุรกิจอาหาร โดยมีตราสัญลักษณ์ “โออิชิ” (Oishi) เป็นตราสินค้าหลักของบริษัทซึ่งเน้นความเป็นญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 โรงงานผลิตเครื่องดื่มของบริษัท 3 แห่งมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 480 ล้านลิตรต่อปีซึ่งใช้ผลิตชาเขียวโออิชิซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท นอกจากนี้ ยังใช้ผลิตสินค้าตามสัญญารับจ้างผลิตให้แก่กลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจด้วย สำหรับธุรกิจอาหารนั้น บริษัทดำเนินธุรกิจเครือภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเองจำนวน 6 ตราสินค้า อีกทั้งยังจำหน่ายอาหารแช่แข็งและแช่เย็นและให้บริการจัดส่งอาหารอีกด้วย ณ เดือนมิถุนายน 2558 บริษัทมีเครือภัตตาคารรวม 225 สาขา โดยร้านชาบูชิ (Shabushi) ซึ่งเป็นภัตตาคารชาบู ชาบู หม้อไฟแบบญี่ปุ่นและซูชิข้าวปั้นญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์นั้นมีจำนวนสาขาประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนสาขาทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทยังมีร้านอาหารในเครือที่สำคัญอื่น ๆ ด้วย เช่น โออิชิ ราเมน (Oishi Ramen) โออิชิ บุฟเฟ่ต์ (Oishi Buffet) และคาคาชิ (Kakashi) ซึ่งเป็นร้านข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่น โดยบริษัทมีครัวกลาง 1 แห่งในจังหวัดชลบุรี

ณ เดือนสิงหาคม 2558 บริษัทไทยเบฟเวอเรจถือหุ้นในสัดส่วน 79.7% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท การเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นนำของไทยทำให้บริษัทได้รับการสนับสนุนและได้ประโยชน์หลายด้านจากการผสานพลังทางธุรกิจ ได้แก่ การแต่งตั้งคณะผู้บริหารเข้ามาดูแลกิจการ การให้บริการกระจายสินค้า และความร่วมมือด้านการผลิต เครือข่ายการจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ของบริษัทไทยเบฟเวอเรจช่วยให้สินค้าของบริษัทกระจายตัวครอบคลุมตลาดต่าง ๆ และเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตในตลาดส่งออกด้วย บริษัทยังมีความร่วมมือกับบริษัทไทยเบฟเวอเรจในด้านการผลิตโดยการใช้โรงงานและเครื่องจักรร่วมกันซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถจัดซื้อวัตถุดิบร่วมกับบริษัทไทยเบฟเวอเรจซึ่งช่วยทำให้บริษัทมีอำนาจต่อรองกับคู่ค้ามากขึ้นอีกด้วย

สถานะทางธุรกิจของบริษัทได้รับแรงหนุนจากการมีฐานะเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชาเขียวชั้นนำในประเทศไทย โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 44% ของตลาดชาเขียวพร้อมดื่มภายในประเทศ สำหรับธุรกิจอาหารนั้นมีแนวโน้มในการเติบโตที่ดีโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากตราสัญลักษณ์ "โออิชิ" และโอกาสในการขยายตลาดที่มีอยู่ บริษัทวางแผนขยายสาขาทั่วเมืองใหญ่อย่างน้อย 40 สาขาต่อปี เศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศในปี 2557-2558 และทำให้การบริโภคชาเขียวชะลอตัวลงในปี 2557 อีกทั้งส่งผลทำให้ยอดขายสาขาเดิมของเครือภัตตาคารร้านอาหาร (Same Store Sales) หดตัวลงต่อเนื่อง 2 ปี อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้รวมเติบโตขึ้น 1.6% ในปี 2557 เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตที่ระดับ 8.6% สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 โดยเป็นผลจากการออกสินค้าเครื่องดื่มชนิดใหม่ รวมทั้งจากการเพิ่มการผลิตในกลุ่มสินค้าที่บริษัทรับจ้างผลิต (Original Equipment Manufacturer -- OEM) และจากการขยายสาขาร้านอาหาร นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคม 2557 บริษัทยังได้เปิดร้านชาบูชิสาขาแรกในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า และเพิ่มขึ้นเป็น 3 สาขา ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558

บริษัทมีรายได้รวม 12,405 ล้านในปี 2557 และ 6,580 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 ยอดขายจากธุรกิจอาหารสร้างรายได้ในสัดส่วน 51% ของรายได้รวม ในขณะที่ธุรกิจเครื่องดื่มมีสัดส่วน 49% ยอดขายจากธุรกิจอาหารเติบโต 10.5% ในปี 2557 และเติบโต 5.5% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 ในขณะที่ยอดขายจากธุรกิจเครื่องดื่มลดลง 6.9% ในปี 2557 และปรับดีขึ้น 12% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558

อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขาย) ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 12.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 เปรียบเทียบกับอัตรากำไรโดยเฉลี่ยที่ 10.5% ในช่วงปี 2556 และ 2557 โดยเป็นผลจากกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาด การออกสินค้าใหม่ในธุรกิจเครื่องดื่ม และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนที่ประหยัดได้จากการผลิตที่มีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีการบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อ (Cold Aseptic Filling -- CAF) โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2556 เป็น 15% ในปี 2557 และ 16.7% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรในธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งทำให้อัตรากำไรลดลงจาก 10% ในปี 2556 มาอยู่ที่ 8% ในปี 2557 และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 29%-30% ของรายได้รวมเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในตลาดชาพร้อมดื่ม บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจาก 1,265 ล้านบาทในปี 2556 มาอยู่ที่ประมาณ 1,400 ล้านบาทในปี 2557 และ 808 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 สภาพคล่องของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ 50.4% และอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายที่ระดับ 10.8 เท่าสำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558

ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโต 5%-8% ต่อปีโดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการขยายสาขาร้านอาหารและอุปสงค์การบริโภคชาพร้อมดื่มที่ฟื้นตัว อัตราส่วนกำไรของบริษัทคาดว่าจะสูงกว่า 11.5% จากอุปสงค์ที่มีต่อธุรกิจอาหารที่มีเสถียรภาพและความได้เปรียบในด้านต้นทุนการผลิตในธุรกิจเครื่องดื่ม อีกทั้งยังคาดว่าจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 1,500-2,000 ล้านบาทต่อปี

ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจากระดับ 2,063 ล้านบาทในปี 2556 มาอยู่ที่ 3,089 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2558 เนื่องจากบริษัททำการขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มและสร้างครัวกลางแห่งใหม่ ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นจาก 37.7% ในปี 2556 เป็น 45.3% ณ เดือนมิถุนายน 2558 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะใช้ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในช่วงปี 2559-2561 ประมาณ 3,500 ล้านบาทเพื่อใช้ขยายสาขาร้านอาหารและเพิ่มสายการผลิตเครื่องดื่ม CAF โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะอยู่ในระดับไม่เกิน 50% และค่อย ๆ ลดลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า

บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
OISHI168A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ