ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และแนวโน้ม “บ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์” ที่ “A+/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 5, 2015 18:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทย ตลอดจนความสามารถในการบริหารสินค้าคงคลัง และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในการบริหารศูนย์รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ค้าปลีกสมัยใหม่ที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านต่อไปได้ และบริษัทจะยังคงอัตราการก่อหนี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในขณะที่มีการขยายสาขา

ทั้งนี้ อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทประสบความสำเร็จในการลงทุนในร้านค้ารูปแบบใหม่หรือขยายตลาดใหม่ ในทางตรงข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากการแข่งขันในธุรกิจนี้รุนแรงเพิ่มขึ้นหรือภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลลบต่อรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเป็นระยะเวลานาน

บริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 ผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (30.2%) และ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (19.9%) ปัจจุบันบริษัทบริษัทมีร้านค้า 2 รูปแบบคือ “โฮมโปร” ซึ่งเป็นร้านค้ารูปแบบเดิมของบริษัทที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการเกี่ยวกับบ้านแบบครบวงจร โดยมีพื้นที่ขายประมาณ 3,000-10,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ต่อสาขา และ “เมกาโฮม” ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่เน้นตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนเจ้าของโครงการ ร้านค้ารายย่อย และผู้บริโภค โดยแต่ละสาขาของเมกาโฮมจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและสินค้าที่ใช้ในบ้านซึ่งมีพื้นที่ขายประมาณ 12,000-20,000 ตร.ม. ต่อสาขา ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเปิดสาขาใหม่ 9-12 สาขาต่อปีในปี 2555-2557 เทียบกับ 4 สาขาต่อปีโดยเฉลี่ยในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมานิยมซื้อสินค้าในศูนย์ค้าปลีกสมัยใหม่เป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายสาขาของบริษัท

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 83 สาขา ประกอบด้วยร้านค้าโฮมโปร21 สาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 55 สาขาในต่างจังหวัด 1 สาขาในประเทศมาเลเซีย และร้านค้าภายใต้รูปแบบเมกาโฮม 6 สาขา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทเปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 7 แห่ง ประกอบด้วยร้านค้าโฮมโปร 5 สาขาและร้านค้าเมกาโฮม 2 สาขา การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทสามารถสร้างฐานธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ

ยอดขายของบริษัทในปี 2557 เท่ากับ 47,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยเป็นผลมาจากการเปิดสาขาใหม่หลายแห่งและยอดขายจากสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น 5% อย่างไรก็ตาม ยอดขายของบริษัทเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 บริษัทมียอดขายเท่ากับ 25,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากยอดขายสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ทั้งนี้ยอดขายของเมกาโฮมและสาขาที่ประเทศมาเลเซียมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นคิดเป็นประมาณ 8% ของยอดขายรวมของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ในขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมลดลง 2.7% ในไตรมาสแรกของปี 2558 และ 0.3% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 ยอดขายของสาขาเดิมที่ลดลงมีสาเหตุเนื่องมาจากรายได้ภาคการเกษตรที่ลดลงในต่างจังหวัด และได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา นอกจากนี้รายได้ของสาขาเดิมที่ลดลงยังมีสาเหตุมาจากการเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย

อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทลดลงจาก 14.9% ในปี 2556 เป็น 14.8% ในปี 2557 และ 14.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 การลดลงของอัตรากำไรเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนของรายได้ของบริษัทและการเพิ่มขึ้นของยอดขายที่มาจากร้านค้าเมกาโฮมซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าร้านค้ารูปแบบเดิมของโฮมโปร นอกจากนี้ การมีสัดส่วนสินค้าภายใต้ตราสินค้าของตนเองที่น้อยลงและการมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซียยังมีส่วนทำให้อัตรากำไรของบริษัทลดลงด้วย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทขยายสาขาจำนวนมากในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ บริษัทลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาทในปี 2556 และ 7,000 ล้านบาทในปี 2557 เทียบกับเงินลงทุนประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงก่อนหน้า การลงทุนจำนวนมากส่งผลให้เงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 9,787 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 เป็น 14,527 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 49.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 จากระดับ 34%-40% ในช่วงระหว่างปี 2552-2555

แม้ภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น แต่สภาพคล่องของบริษัทยังอยู่ในเกณฑ์ดีเนื่องจากการบริหารสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทมีอัตราการหมุนเวียนของกระแสเงินสด (cash conversion) ติดลบ 18 วัน บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงาน (FFO) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 4,884 ล้านบาทในปี 2556 เป็น 5,623 ล้านบาทในปี 2557 และเป็น 2,941 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 37.2% ในปี 2557 และ 37.6% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทยังคงแข็งแกร่งที่ระดับมากกว่า 10 เท่าในปี 2557 และครึ่งแรกของปี 2558

บริษัทมีแผนการขยายสาขา 8 แห่งภายในปี 2558 ด้วยงบลงทุนประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะจัดหาเงินลงทุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและการกู้ยืม แม้บริษัทจะลงทุนจำนวนมากเพื่อขยายสาขาตามแผน แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาโครงสร้างเงินทุนให้เหมาะสมที่ระดับต่ำกว่า 50% และอัตราเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 6,000-7,000 ล้านบาทต่อปีในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO)
อันดับเครดิตองค์กร: A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
HMPRO169A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A+
HMPRO179A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ