ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน "บ. ทรู คอร์ปอเรชั่น" ที่ "BBB+" และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีการค้ำประกันบางส่วนวงเงินไม่เกิน 7,480 ล้านบาท ที่ "A-" แนวโน้ม "Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 12, 2015 09:55 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีการค้ำประกันบางส่วนวงเงิน 7,480 ล้านบาท ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยหุ้นกู้ชุดใหม่ดังกล่าวค้ำประกันโดยธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะค้ำประกันการจ่ายเงินในสัดส่วน 45% ของมูลค่าหุ้นกู้ หรือในวงเงินไม่เกิน 3,366 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปชำระคืนหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤศจิกายน 2558 นี้

อันดับเครดิตของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมที่มีความแข็งแกร่งทางการตลาดในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) และธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งความคาดหวังว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจะยังคงให้การสนับสนุนแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลัก รวมถึงเงินลงทุนในระดับสูงสำหรับธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโทรศัพท์เคลื่อนที่

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษาความแข็งแกร่งของสถานะทางการตลาดในกลุ่มธุรกิจหลักเอาไว้ได้ ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทอาจปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้ฐานะการเงินของบริษัทอ่อนแอลง ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทตกต่ำลงซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนปรับเพิ่มสูงเกินกว่า 65% ในระยะเวลาที่ต่อเนื่อง

บริษัทก่อตั้งในปี 2533 และมีธุรกิจหลัก 3 กลุ่มซึ่งประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจทรูออนไลน์ (TrueOnline) ซึ่งให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศ และโทรศัพท์พื้นฐานในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล กลุ่มธุรกิจทรูโมบาย (True Mobile) ซึ่งให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และกลุ่มธุรกิจทรูวิชั่นส์ (TrueVisions) ซึ่งให้บริการช่องโทรทัศน์ดิจิตอลและโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก บริษัทมีรายได้ในครึ่งแรกของปี 2558 อยู่ที่ 5.7 หมื่นล้านบาท โดยธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้บริษัทในสัดส่วน 24% 68% และ 8% ตามลำดับ ในขณะที่สัดส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 55% 39% และ 6% ตามลำดับ

บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมที่มีเทคโนโลยีโครงข่ายสื่อสารที่หลากหลาย โดยกลุ่มธุรกิจทรูออนไลน์มีสัดส่วนทางการตลาดจากรายได้การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศประมาณ 41% บริษัทยังเป็นผู้นำในการให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกด้วยรายการหลากหลายจากทั้งในและต่างประเทศ โดย ณ เดือนมิถุนายน 2558 กลุ่มธุรกิจทรูวิชั่นส์มีลูกค้าที่เป็นสมาชิกรวมประมาณ 2.7 ล้านราย อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลำดับที่ 3 ของประเทศด้วย ส่วนกลุ่มทรูโมบายมีสัดส่วนรายได้ทางการตลาดจากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ประมาณ 19% ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังสะท้อนถึงการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายถือหุ้นของบริษัท 51% ตามด้วย China Mobile International Holdings Ltd. (China Mobile) ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทอยู่ที่ 18% โดย China Mobile เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดในโลก

บริษัทมีรายได้ 10.92 หมื่นล้านบาทในปี 2557 และ 5.71 หมื่นล้านบาทในครึ่งแรกของปี 2558 ซึ่งหากไม่รวมรายได้จากการที่บริษัทส่งมอบเสาโทรคมนาคมให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล (DIF) มูลค่า 6 พันล้านบาทในปี 2557 และ 3 พันล้านบาทในครึ่งแรกของปี 2558 ตามลำดับแล้ว รายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 7.3% ในปี 2557 และ 9.5% ในครึ่งแรกของปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทดีขึ้นจากต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ (Regulatory Cost) ที่ลดลง และการสิ้นสุดการบันทึกค่าเสื่อมราคาของอุปกรณ์?โครงข่าย 2G โดยอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นจาก 16.7% ในปี 2556 มาอยู่ที่ 24.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558

ในช่วงปี 2557-2560 ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1.15 หมื่นล้านบาทถึง 1.29 แสนล้านบาทต่อปี หรือเติบโตประมาณ ปีละ 2%-5% โดยรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานและบริการด้านข้อมูลในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก อัตราส่วนกำไรของบริษัทน่าจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการประมูลคลื่นความถี่ 1800 และ 900 เมกะเฮิร์ทซ์ในช่วงปลายปี 2558 ซึ่งจะทำให้ความได้เปรียบของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4G LTE (Long Term Evolution) ลดลง ทั้งนี้ บริษัทน่าจะสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ประมาณ 1.9-2.5 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2558-2561

การขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทในช่วงปลายปี 2557 ช่วยสนับสนุนฐานะทางการเงินของบริษัทเป็นอย่างมากทั้งในแง่ของโครงสร้างเงินทุนและความยืดหยุ่นทางการเงิน โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 94% ก่อนการเพิ่มทุนมาอยู่ที่ระดับ 55% หลังการเพิ่มทุน หากไม่รวมการประมูลคลื่นความถี่ 1800 และ 900 เมกะเฮิร์ทซ์แล้ว บริษัทมีแผนลงทุนซึ่งรวมถึงค่าใบอนุญาต 3G คลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ทซ์ประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาทในปี 2558 และมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาทโดยเฉลี่ยต่อปีในช่วงปี 2559-2561 ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีความจำเป็นต้องลงทุนขยายโครงข่าย 4G และโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง หากบริษัทชนะการประมูลคลื่นความถี่ 1800 หรือ 900 เมกะเฮิร์ทซ์ ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนก็จะสูงขึ้นมากในปี 2559 โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าของใบอนุญาตที่ประมูลได้ บริษัทต้องมีการก่อหนี้เพิ่มเพื่อสนับสนุนการลงทุนและจะส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นจาก 55% ณ เดือนมิถุนายน 2558 ไปอยู่ที่ประมาณ 60%

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TRUE15NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
TRUE15NB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB+
TRUE16OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB+
TRUE174A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB+
TRUE177A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 11,213 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 BBB+
TRUE183A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีการค้ำประกันบางส่วนในวงเงินไม่เกิน 7,480 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2565 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ