ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” ที่ “BBB+” และเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “Negative” จาก “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 14, 2015 13:30 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” ด้วย โดยแนวโน้มที่ปรับใหม่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในขณะที่บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทก็ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันที่อ่อนแอลงเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนของบริษัท ตลอดจนอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ และประสบการณ์ที่ยาวนานในธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรระดับราคาปานกลางถึงต่ำ นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูง ตลอดจนความกังวลในภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัว และระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายได้ของบริษัทยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2,500-3,000 ล้านบาทในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ในช่วงที่เพิ่มสูงขึ้น หากผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอีกก็อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตลงได้ในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้า แนวโน้มอันดับเครดิตอาจกลับมาเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นและอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนไม่เพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบัน

บริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก่อตั้งในปี 2531 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 นายทวีศักดิ์ วัชรรัคคาวงศ์และนายไชยยันต์ ชาครกุลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วนรวมกัน 63% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 บริษัทเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ โดยราคาสินค้าของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ที่ 2-5 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการบ้านจัดสรรยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 80%-95% ของรายได้รวมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทเริ่มขยายธุรกิจไปสู่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงปลายปี 2554 โดยคอนโดมิเนียมของบริษัทมีราคาขายเฉลี่ยที่ 1.9 ล้านบาทต่อยูนิต นอกจากนี้ บริษัทยังขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างจังหวัดในช่วงปลายปี 2555 โดยโครงการในต่างจังหวัดส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก

ณ เดือนมิถุนายน 2558 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยเหลือขายจำนวน 41 โครงการ โดย 80% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และที่เหลืออยู่ในต่างจังหวัด โครงการทั้งหมดของบริษัทมีมูลค่าเหลือขายประมาณ 15,000 ล้านบาท (รวมทั้งที่ก่อสร้างแล้วและยังไม่ได้ก่อสร้าง) โดย 60% ของมูลค่าเหลือขายทั้งหมดอยู่ในโครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และที่เหลืออยู่ในต่างจังหวัด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นยอดขายที่รอรับรู้รายได้จากโครงการบ้านจัดสรรซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ในช่วงที่เหลือของปี 2558

รายได้ของบริษัทต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2,500-3,000 ล้านบาทในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 2,300 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2556-2557 รายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 อยู่ที่ 798 ล้านบาท ลดลง 39% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้จากทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมลดลง 15% และ 89% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ ในขณะที่รายได้จากทั้งโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลและโครงการในต่างจังหวัดก็ลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 เช่นกัน

อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทลดลงเหลือ 21% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 จาก 24%-25% ในช่วงปี 2556-2557 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ทั้งนี้ คาดว่าในช่วง 3 ปีข้างหน้า อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 20% เมื่อพิจารณาถึงการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องในการขยายธุรกิจ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเท่ากับ 35% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นจากการขยายโครงการของบริษัท ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีข้างหน้าระหว่างการขยายธุรกิจ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอาจเพิ่มขึ้นอีก

ภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นและผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างคงที่ทำให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทลดลงเหลือ 11% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 จาก 21% ในปี 2557 และ 28% ในปี 2556 ทั้งนี้ อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายก็ลดลงเหลือ 6-7 เท่าในช่วงปี 2557 ถึงช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 จาก 15 เท่าในปี 2556 และ 8 เท่าในปี 2555 สภาพคล่องของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยบริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 808 ล้านบาท ในขณะที่ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 บริษัทมีเงินสดในมือรวมกับวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ซึ่งไม่มีเงื่อนไขในการเบิกจำนวนประมาณ 2,100 ล้านบาท

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ