ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ธ. ธนชาต” ที่ “AA-” หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ “A” แนวโน้ม “Stable

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 16, 2017 18:00 —ทริส เรตติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “A” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความเข้มแข็งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคาร อีกทั้งยังสะท้อนการสนับสนุนทางด้านการบริหารและด้านเทคนิคจากพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศแคนาดา คือ Bank of Nova Scotia (BNS) ซึ่งถือหุ้น 49% ในธนาคารธนชาตโดยผ่าน Scotia Netherlands Holdings B.V. ด้วย

ในการวิเคราะห์สถานะทางธุรกิจของธนาคารธนชาตพิจารณาถึงสถานะการเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดกลาง ที่มีบริษัทย่อยที่สำคัญประกอบด้วยธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบริหารกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยค่า และธุรกิจประกันภัย ขนาดสินทรัพย์รวมของธนาคารธนชาตอยู่ที่ระดับ 9.6 แสนล้านบาท ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งจัดอยู่ในอันดับที่ 6 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย ส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อและเงินฝากของธนาคารอยู่ที่ระดับ 5.9% และ 5.7% ตามลำดับ ธนาคารธนชาตมีความแข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของทริสเรทติ้ง ณ วันสิ้นปี 2559 ธนาคารธนชาติและบริษัทย่อยมีส่วนแบ่งการตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์รวมอยู่ที่ระดับ 21% ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

ความสามารถในการหาแหล่งรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมีความหลากหลายอยู่ในระดับที่เทียบเคียงได้กับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 สัดส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อรายได้รวมอยู่ที่ระดับมากกว่า 66% เทียบกับค่าเฉลี่ยธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 62% ธุรกิจให้สินเชื่อมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อยโดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ณ วันสิ้นครึ่งแรกของปี 2560 ธนาคารมีสัดส่วนของสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ระดับประมาณ 68% สัดส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ประมาณ 20% และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประมาณ 11% สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีสัดส่วน 51% และ 14% ของสินเชื่อรวมตามลำดับ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิรวมรายได้สุทธิจากธุรกิจประกันภัยอยู่ที่ระดับ 18.9% ของรายได้รวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 21% ซึ่งรายได้ของธนาคารธนชาตรวมรายได้จากบริษัทย่อยและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต

ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนตามหลัก Basel-III ของธนาคารธนชาตจะอยู่ในระดับ 19%-20% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าซึ่งเพียงพอต่อการขยายธุรกิจในระยะปานกลาง สัดส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Core Equity Tier-1) ต่อเงินกองทุนรวมอยู่ที่ระดับ 70.3% ณ วันสิ้นงวดครึ่งแรกของปี 2560 และคาดว่าธนาคารจะคงสัดส่วนเงินปันผลที่ระดับเดิม ความสามารถในการทำกำไรเทียบเคียงได้กับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.33% ในปี 2559 เทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 1.32% ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้นทุนเครดิตที่ลดลง รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมาจากรายได้ธุรกิจที่มุ่งเน้นค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างมีความหลากหลายซึ่งประกอบด้วยธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบริหารกองทุน และธุรกิจประกัน

สถานะด้านความเสี่ยงของธนาคารธนชาตสะท้อนถึงความต่อเนื่องในการปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงเห็นได้จากแนวโน้มที่ดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์และการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนเครดิตของธนาคารลดลงจากระดับ 1.5% ในปี 2556 สู่ระดับ 0.9% ในปี 2559 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยต้นทุนเครดิตของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.4% ในปี 2559 อัตราส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารธนชาตลดลงอย่างมากจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และการตัดหนี้สูญรวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหา โดยอัตราส่วนลดลงจากระดับ 4.3% สู่ระดับ 2.3% ในช่วงระหว่างปี 2557 และครึ่งแรกของปี 2560 สัดส่วนสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษต่อสินเชื่อรวมก็ลดลงเช่นกันอยู่ที่ระดับ 4.0% จากระดับ 4.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน การตั้งสำรองหนี้สูญอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งขึ้นซึ่งสะท้อนจากสำรองส่วนเกินของธนาคารที่ระดับ 195% ณ ครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

แหล่งเงินทุนของธนาคารธนชาตอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามสถานะของธนาคารขนาดกลาง เงินฝากของธนาคารมีสัดส่วน 71.7% ของเงินทุนรวมส่วนของผู้ถือหุ้น ณ ครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่ 74% อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาเงินฝากประจำที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงอาจสะท้อนถึงฐานเงินฝากที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย บัญชีเดินสะพัดและเงินฝากออมทรัพย์ (Current Account-Savings Account – CASA) ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงฐานเงินทุนที่มีเสถียรภาพและต้นทุนต่ำ มีสัดส่วน 43.5% ของเงินฝากรวมตั๋วแลกเงิน อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 61% อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ระดับ 104% ณ ครึ่งแรกของปี 2560 ซึ่งเทียบเคียงได้กับค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ระดับ 99%

สถานะสภาพคล่องของธนาคารธนชาตเทียบเคียงได้กับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทย อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์รวมและเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินอยู่ที่ระดับ 25.2% และ 36.4% ตามลำดับ ณ ครึ่งแรกของปี 2560 เทียบเคียงได้กับธนาคารพาณิชย์ไทย กว่าหนึ่งในสี่ของสินทรัพย์สภาพคล่องเป็นเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และตราสารหนี้ภาคเอกชน

อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ Basel III

อันดับเครดิต “A” สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารธนชาตสะท้อนความเสี่ยงจากการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่จ่ายหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารหนี้ดังกล่าวนี้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2

หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK24DA) มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และสามารถแปลงสภาพได้ นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถไถ่ถอนตราสารหนี้คืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ทั้งนี้ ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ส่วนต้นทุนของตราสารหนี้ดังกล่าวนั้นสามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และหน่วยงานกำกับดูแลจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK25NA) มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และไม่สามารถแปลงสภาพได้ นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถไถ่ถอนตราสารหนี้คืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. โดยผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ ต้นทุนของตราสารดังกล่าวสามารถตัดเป็นหนี้สูญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแล้วเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และหน่วยงานกำกับดูแลจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคาร ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารธนชาตจะสามารถดำรงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักไว้ได้ สถานะเครดิตของธนาคารอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากคุณภาพสินทรัพย์เสื่อมถอยลงหรือความสามารถในการทำกำไรของธนาคารธนชาตอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ สถานะเครดิตอาจปรับขึ้นได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของธนาคารธนชาตในการยกระดับสถานะทางธุรกิจจากการขยายขนาดของฐานลูกค้า การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางเครดิต และการเพิ่มความสามารถด้านแหล่งเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK)
อันดับเครดิตองค์กร AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TBANK24DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 13,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
TBANK25NA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ