กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--พับบลิค ฮิต
เสื้อผ้า แฟชั่นไอเท็มเด็ดๆ เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่ในความสนใจของบรรดาสาวๆ ผู้รักการแต่งตัว และอยากจะให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน การติดตามเทรนด์ การอัพเดทแฟชั่นใหม่ๆ จากทั่วโลกยิ่งทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นอย่างมาก ดังนั้นแบรนด์เสื้อผ้า และเครื่องประดับ Workshop (เวิร์คช็อป) จึงชวนสาวๆ รุ่นใหม่ มาค้นหาสไตล์ที่เหมาะสม เพื่อมิกซ์ แอนด์ แมทช์ และแต่งตัวให้ดูดีโดยไม่ทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง ในงาน “See Through Your Style” ณ Main Hall ชั้น M แผนกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
Workshop แบรนด์เสื้อผ้า และ เครื่องประดับแบบ ready to wear มีสินค้าให้เลือกสวยได้แบบคอมพลีทลุค ตั้งแต่เสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ต่างๆ ทั้งกระเป๋า รองเท้า หมวก ผ้าพันคอ เครื่องประดับ ต่างสไตล์ เหมาะสำหรับหลายโอกาส โดยแบ่งออกเป็น 5 คอนเซ็ปต์ 5 สไตล์ ด้วยกัน คือ Casual, Working, Vintage, Denim และ The Blog (Party look) ซึ่งเข้ากับสไตล์ของการตกแต่งร้านที่มีหลากหลายอารมณ์ เพราะต้องการให้ลูกค้ารู้สึกสนุกกับการสร้างคาแร็กเตอร์ของตัวเอง
ธนพร ธนากิจอำนวย แบรนด์แมเนเจอร์ Workshop กล่าวว่า Workshop เป็นแบรนด์สำหรับผู้หญิงที่รักการแต่งตัวและมีความเป็นตัวของตัวเอง โดยให้สาวๆ เหล่านี้เลือกเสื้อผ้ามา “มิกซ์ แอนด์ แมทช์” ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองที่สุด เหมาะสำหรับคนที่อยากจะสวยแบบไม่ซ้ำใคร และไม่ตกเทรนด์แฟชั่น สำหรับงาน See Through Your Style ที่จัดขึ้นในวันนี้ ก็เพื่อช่วยสาวๆ ค้นหาสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง และนำไปใช้ได้ในหลายๆโอกาส
“การแต่งกายที่ดูดี ไม่ใช่แค่ตามแฟชั่นแล้วก็จบ แต่ต้องดูสิ่งที่เหมาะกับคาแร็กเตอร์ของเรา และแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะด้วย ทาง Workshop ตั้งใจจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อแนะนำเทรนด์สปริง ซัมแมอร์ปี 2011 พร้อมแนะนำการมิกซ์แอนด์แมทช์ เพื่อปรับให้เข้ากับชีวิตประจำวันให้ง่าย และให้สาวๆได้สนุกสนานกับการแต่งตัวได้มากขึ้น โดยจะมีแขกรับเชิญที่มีความรู้เรื่องแฟชั่นมาร่วมพูดคุย และให้คำแนะนำเรื่องสไตล์การแต่งตัวในโอกาสต่างๆ คิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ ทั้งวัยรุ่น และวัยทำงานค่ะ” ธนพร กล่าว
เพื่อให้เห็นภาพของการมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ชัดเจนขึ้น จึงมีมินิแฟชั่นโชว์ทั้ง 5 สไตล์จาก Workshop มาให้ชมเป็นตัวอย่าง ในคอนเซ็ปต์ See Through Your Style นอกจากนี้ ได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญสุดชิค CJ แพตตี้ - อนัญญา อภิสิทธิ์ยะกุล จากช่อง Chic Channel มาร่วมพูดคุยกับสไตล์ลิสต์ของ Workshop ศิโรจน์ ไชยสาม ถึงเรื่องการ มิกซ์ แอนด์ แมทช์ และการแต่งกายในโอกาสต่างๆ ให้เข้ากับฤดูกาลที่จะมาถึงนี้
“ในการแต่งกายทุกลุคนั้น เราสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้เสมอ ถ้าวันไหนเราออกไปทำงานที่เป็นทางการมากขึ้น แล้วตอนเย็นต้องปาร์ตี้ต่อกับเพื่อน ก็อาจเปลี่ยนรองเท้าที่แมทช์กันหรือแอคเซสเซอรี่ต่างๆ ให้เป็นเวิร์คกิ้ง สไตล์ของเราได้ แพตชอบสไตล์แบบนี้มากเลย เพราะบางวันเราไปทำงาน อาจต้องเข้าไปพบผู้ใหญ่ การแต่งตัวจึงต้องเรียบหน่อยแต่จะแมทช์อะไรที่เป็นตัวของเราใส่เข้าไป เรียกว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนลุคได้ตลอดเวลา สำหรับแคชชวลสไตล์ในแบบของแพต คือเป็นอะไรที่ใส่ง่ายๆ สบายๆ แต่ต้องมีอะไรนิดนึงที่ดูตั้งใจแต่งมาให้เป็นเทรนด์ด้วย ถ้าจะไปปาร์ตี้ก็เพิ่มอะไรที่มีลูกเล่น หรือเป็นประกายๆสปาร์คลิ่ง เข้าไปหน่อยก็ดูเปรี้ยวได้แล้ว
สำหรับเทรนด์ซัมเมอร์ปี 2011 นี้ แพตมองว่า การมิกซ์แอนด์แมทช์ เป็นสิ่งที่จับต้องได้ อย่างของที่มีอยู่ในตู้เรานำมาปรับใช้ได้หมด แต่ต้องดูให้เข้ากับเทรนด์ที่มาด้วย” CJ สาวแนะทริคการแต่งตัวแบบสุดคุ้ม
ทางด้าน ศิโรจน์ ไชยสาม สไตลิสต์มืออาชีพ ขยายความถึงแนวคิดแฟชั่นทั้ง 5 คอนเซ็ปท์ 5 สไตล์ ของ Workshop ให้เข้าใจง่ายขึ้น ว่า แคชชวล (casual)เป็นลุคที่ใส่ง่ายสบายๆ เช่น เสื้อยืดที่มีดีเทล กับกางเกงยีนส์, เวิร์คกิ้ง จะเป็นแบบ เซมิ-เวิร์คกิ้ง (Semi-Working) คือคนที่เพิ่งเรียนจบและเพิ่งเริ่มทำงาน อยากดูเรียบร้อยแต่ไม่สูงอายุเกินไป ก็นำความเป็นแคชชวลมาปรับใช้ได้ , วินเทจ (vintage) เป็นเทรนด์ที่คนนำเสื้อเก่ามาปรับใช้ใหม่ ยังคงมาแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง, เดนิม (Denim) สำหรับผู้หญิงที่มีความแคชชวล และไม่ชอบสไตล์หวานมาก แนะนำให้ใส่กางเกงยีนส์ โดยเลือกจากรูปทรง แล้วเปลี่ยนเฉพาะท่อนบนก็ได้ และ เดอะ บล็อก (The Blog) ซึ่งเป็นศัพท์ที่ใช้ในอินเตอร์เน็ต หมายความว่า เสื้อผ้าในเซ็ตนี้มีการอัพเดทตลอดเวลา เป็นเฟชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแคทวอล์ก แต่นำมาปรับเพื่อให้ใช้งานได้จริง และเหมากับประเทศไทยมากขึ้น
“การมิกซ์แอนด์แมทช์ในสไตล์ ของ Workshop จะเน้นทุกอย่างทั้งเสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับ ถ้าผู้หญิงคนนึงจะแต่งตัว จะต้องไม่ใช่สวยแค่ชุด แต่ต้องมีแอคเซสเซอรี่ที่เข้ากับสไตล์ แต่ว่าต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้สนุกมากขึ้น วิธีที่ฉลาดในการแต่งตัว และเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์เลย ก็คือ การเลือกและปรับใช้บางชิ้น ให้เข้ากับกับสิ่งงที่เรามี ทำให้ดูเป็นสไตล์เราและยังประหยัดอีกด้วย”
“เครื่องประดับของ Workshop ที่ขายดีมาก คือ ผ้าพันคอ เพราะผ้าพันคอแค่ผืนเดียวสามารถเปลี่ยนผู้หญิงได้หลายลุคมาก เช่น ถ้าทำงาน ก็ใช้พัน หรือคลุมไหล่เวลาอยู่ในห้องแอร์ เวลาไปข้างนอก แค่ใส่เสื้อกล้าม แล้วใส่ผ้าพันคอ ก็จะกลายเป็นเหมือนแอคเซสเซอรี่ชิ้นหนึ่ง และยังช่วยหลบแดดได้ การจับคู่ถือเป็นสิ่งสำคัญ”
สำหรับ สปริง-ซัมเมอร์ปี 2011 นี้ Workshop ก็มี คีย์ ไอเท็ม ได้แก่ ไอเท็มลายริ้วสีสันสดใส, ลายดอกไม้แนววินเทจ, ไอเท็มแบบร็อคๆ สีดำ, ไอเท็มสีพื้นที่ฉูดฉาดได้ใจในสไตล์โมเดอร์นิสท์ โซลิด และ เดนิมแพทเทิร์นแปลกตา เน้นที่รายละเอียด ซึ่งทั้งหมด สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้ ตามสไตล์ของแต่ละคน
ศิโรจน์ เสริมอีกว่า หัวใจหลักในการเลือกเสื้อผ้ามามิกซ์แอนด์แมทช์ให้ใส่แล้วดูดีคือ ต้องดูวัตถุประสงค์ หรือโอกาสในการแต่งตัว แพราะจะทำให้เลือกเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ได้เหมาะสมมากขึ้น เช่น ถ้าใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น แล้วใส่รองเท้าแตะ ก็คงเหมาะกับการไปเดินจตุจักร แต่ถ้าจะไปเดินสยาม ก็ลองเลือกใส่รองเท้าส้นสูงให้เป็นดูเป็นแฟชั่นมากขึ้น หรืออาจเพิ่มผ้าพันคอบางเบา ถือกระเป๋าเก๋ๆ ก็สามารถไปเดินช้อปปิ้งในห้างได้โดยไม่ขัดเขิน”
“นอกจากจะดูในเรื่องของเทรนด์และสไตล์ของเราแล้ว การเลือกเสื้อผ้า ควรดูที่เนื้อผ้าด้วย เนื่องจากประเทศไทยอากาศร้อน ก็ควรเลือกเนื้อผ้าที่เป็นคอตต้อน ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ส่วนเรื่องโทนสีก็เป็นสิ่งสำคัญ แค่เปลี่ยนสีท่อนบน หรือเปลี่ยนสีท่อนล่างแค่ชิ้นเดียวก็ทำให้ลุคดูเปลี่ยนไปได้เหมือนกัน อย่างซัมเมอร์นี้ ควรมีเสื้อผ้าสีสดๆ ติดไว้ในตู้เสื้อผ้าสักสี ไม่ได้กำหนดว่าเป็นสีอะไร เพราะทุกสีสวยหมด ขึ้นอยู่กับผู้ใส่ว่าจะมิกซ์อะไรให้เข้ากับอะไร ความจริงแฟชั่นไม่มีถูกหรือผิด อยากให้ทุกคนสนุกกับมัน พอสนุกแล้วก็จะเกิดความมั่นใจ และออกมาจากบุคลิกเราจริงๆ” เอ ศิโรจน์ ทิ้งท้ายด้วยข้อควรรู้เกี่ยวกับแฟชั่นที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
เมื่อรู้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการแต่งตัวให้สนุกและเหมาะกับตัวเอง จากคำแนะนำของสไตลิสต์มืออาชีพกันแล้ว ก็เชิญสำหรับสาวๆ ที่ต้องการมาค้นหาคาแร็กเตอร์ และมิกซ์แอนด์แมทช์ในสไตล์ตนเอง มาสนุกกันให้เต็มที่ ณ ช็อป Workshop ชั้น 3 สาขาสยามเซ็นเตอร์, เซ็นทรัลชิดลม, สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, แฟชั่น ไอส์แลนด์, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และ เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit