ปารีส--19 เม.ย.--ซินหัว-พีอาร์นิวส์ไวร์/เอเชียเน็ท
รี้ด ไมเด็ม (Reed MIDEM) บริษัทออแกไนเซอร์จัดงานนิทรรศการนานาชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประกาศเปิดตัว AMAZIA วันนี้ AMAZIA เป็นนิทรรศการและการประชุมแบบบีทูบีระดับแพน-เอเชียครั้งที่ 1 โดยมุ่งเน้นด้านการสร้างสรรค์และเผยแพร่คอนเทนท์ด้านความบันเทิงนานาชาติทุกรูปแบบของการนำเสนอ AMAZIA จะจัดขึ้นที่ฮ่องกงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551
"AMAZIA จะเป็นงานนิทรรศการและการประชุมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนำเสนอแพลทฟอร์มที่หลากหลายและยังเป็นตลาดที่มีคอนเทนท์เป้นตัวขับเคลื่อนในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเชื่อมโยงนักธุรกิจชาวเอเชียและมืออาชีพระดับนานาชาติจากอุตสาหกรรมบันเทิงทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันในสถานที่และเวลาเดียวกัน" พอล ซิลค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รี้ด ไมเด็ม กล่าว "AMAZIA จะผสมผสานปัจจัยที่ดีที่สุดของ MIPTV ที่ประสบความสำเร็จของเราร่วมกับตลาดโทรทัศน์และธุรกิจ MILIA MIPCOM และ MIDEM รวมทั้งอุตสาหกรรมคอนเทนท์บันเทิงอื่นๆ เช่น เกม"
"การตัดสินใจของเราที่จะนำส่วนประกอบที่น่าตื่นเต้นที่สุดของอุตสาหกรรมคอนเทนท์บันเทิงมารวมกัน พร้อมกับผู้เผยแพร่คอนเทนท์ที่แตกต่างกันในงานเดียวกันนั้น สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย ที่ซึ่งมีพื้นที่ในการนำเสนอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง AMAZIA จะนำเสนอพื้นที่เหล่านี้ในลักษณะวัน-สต๊อป-ช็อป ที่รวบรวมคอนเทนท์จากผู้ให้บริการในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พอล ซิลค์ กล่าว
อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อในเอเชียคาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 10 ต่อปีไปจนถึงพ.ศ. 2553 ซึ่งนับเป็นอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในโลก และถือเป็นการเติบโต 2 เท่าของสหรัฐอเมริกา ตลาดบันเทิงและสื่อในเอเชียคาดว่า จะมีมูลค่า 4.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในพ.ศ. 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับปีนี้ที่ระดับ 3.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อจีนโตขึ้นร้อยละ 18 ต่อปี และคาดว่าในปีพ.ศ. 2552 ธุรกิจบันเทิงจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 1.215 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียยังเปิดรับนวัตกรรมและปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นภูมิภาคที่มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือในรูปแบบเทคโนโลยี G3 คิดเป็นสัดส่วน 50% ของโลกในขณะนี้รวมถึงปี 2553 นอกจากนี้ ภูมิภาคเอเชียยังเป็นตลาดที่มีสัดส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์มากกว่า 50% ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่คึกคักได้เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจบันเทิงมาโดยตลอด โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมเพลง อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผลประกอบการลดลงในระหว่างปี 2544-2546 ส่งผลให้อุตสาหกรรมเพลงในภูมิภาคเอเชียในปี 2548 เป็นต้นมา ขยายตัวขึ้นกว่า 7% ต่อปี เนื่องจากการผลิตคอนเทนท์เพลงบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากขึ้นได้ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงเพลงต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด
นิทรรศการ AMAZIA จะมีบทบาทในการดึงดูดบรรดาผู้ผลิตคอนเทนท์ในเอเชียและทั่วโลกให้เข้าร่วมในงานนี้ รวมถึงบรรดาเจ้าของลิขสิทธิ์และบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ รวมไปถึงบริษัทจัดจำหน่าย การออกอากาศ บันทึกเทป ค่ายเพลงและบริษัทจัดจำหน่าย ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดคอนเสิร์ต ผู้ให้บริการคอนเทนท์เพลงบนมือถือ แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ ตลอดจนบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ผู้จัดหาคอนเทนท์ด้วยระบบดิจิตอล ผู้ใช้เทคโนโลยี บริษัทที่ให้การรับรองและดำเนินการด้านการตลาด บริษัทโฆษณา และลูกค้าที่กำลังมองหาช่องทางประชาสัมพันธ์สินค้าของตนผ่านคอนเทนท์เพื่อความบันเทิง ทั้งนี้ ผู้จัดคาดว่าในปีแรกจะมีบริษัทต่างๆจากประเทศในทวีปเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมในนิทรรศการครั้งนี้มากถึง 70% ขณะที่มีประเทศจากทวีปอื่นๆในสัดส่วน 30%
สื่อมวลชนติดต่อ:
มิเชล วิลเลี่ยมส์
ผู้อำนวยการด้านสื่อมวลชนและประชาสัมพันธ์ของรี้ด ไมเด็ม
โทร: +33-1-41-90-49-33
อีเมล์: mike.williams@reedmidem.com
โทรศัพท์มือถือ: +33-6-24-19-36-57
แหล่งข่าว รี้ด ไมเด็ม
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--