คณะกรรมการที่ปรึกษา FDA สนับสนุนออกใบอนุญาตวัคซีนรวมตัวใหม่สำหรับกุมารแพทย์

ข่าวต่างประเทศ Friday January 26, 2007 11:26 —Asianet Press Release

พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์--26 ม.ค.--เบเธสดา, แมรีแลนด์
หากได้รับการอนุมัติ วัคซีนเพนทาเซลจะเป็นวัคซีนรวมสำหรับกุมารแพทย์ตัวแรกในสหรัฐฯที่ช่วยสร้างภูมิป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ (Haemophilus influenzae type b (Hib))
บริษัทซาโนฟี ปาสเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนในเครือของซาโนฟี-เอเวนติส กรุ๊ป (NYSE: SNY; EURONEX : SAN) มีความยินดีที่สมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้มีมติเกือบเป็นเอกฉันท์ในวันนี้ว่า วัคซีนรวมเพนทาวาเลนท์ของบริษัทที่ใช้สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลของกุมารแพทย์ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ วัคซีนเพนทาเซล (DtaP-IPV-Hib) (1) ช่วยป้องกันการเกิดโรคคอตีบ โรคบาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ (Haemophilus influenzae type b)
จากข้อมูลด้านการคุ้มกันในวัยรุ่นและวัยเด็ก (Recommended Childhood and Adolescent Immunization Schedule) โดยคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านปฏิบัติการภูมิคุ้มกัน (ACIP) แห่งศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) พบว่า การให้วัคซีนในเด็กจนอายุถึง 18 ปีต้องให้วัคซีนถึง 18 ครั้ง แต่การใช้วัคซีนเพนซาเทลจะช่วยลดจำนวนการให้วัคซีนลงเหลือ 7 ครั้ง
การยอมรับวัคซีนเพนทาเซลตามกฏเกณฑ์ตั้งอยู่บนผลการศึกษาทางการแพทย์จากการทดลองเด็กกว่า 5,000 คนในสหรัฐฯและแคนาดา (2) วัคซีนเพนทาเซลได้รับใบอนุญาตสำหรับกุมารแพทย์ใช้ใน 9 ประเทศ ซึ่งรวมถึงแคนาดา โดยประเทศเหล่านี้ได้นำวัคซีนดังกล่าวไปใช้อย่างกว้างขวางในทารกและเด็กตั้งแต่ปี 2541 เพื่อป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โอลิโอ และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ โดยมีการนำวัคซีนเพนทาเซลไปใช้ในแคนาดาแล้วกว่า 12.5 ล้านโดส
วัคซีนเพนทาเซลเป็นวัคซีนรวม DTap-based ตัวแรกที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในเด็กในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผู้ที่ใช้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอและโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ ขณะที่ตัวยาซึ่งใช้ป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรนในวัคซีนเพนทาเซลอยู่บนพื้นฐานข้อมูลใน DAPTACEL (Diptheria and Tetanus Toxoids and Acellular Pertussis Vaccine Adsorbed) (วัคซีน DTaP) ซึ่งซาโนฟี ปาสเตอร์นำมาใช้ในสหรัฐฯเมื่อปี 2544 ส่วนในการทดลองทางการแพทย์นั้น วัคซีนเพนทาเซลถูกกำกับให้ใช้ 4 โดส คือในเด็กที่มีอายุ 2, 4, 6 และ 15-18 เดือน ควบคู่กับการใช้วัคซีนในเด็กที่ได้รับคำแนะนำ
ศูนย์ปฏิบัติการในเมืองสวิฟท์วอเตอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ของซาโนฟี ปาสเตอร์ ได้รับการยอมรับให้จัดหาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคในเด็ก โดยในปี 2530 บริษัทได้ออกใบอนุญาตวัคซีนรวมป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ และในปี 2539 ซาโนฟี ปาสเตอร์ เป็นบริษัทแรกที่ให้ใบอนุญาตวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรนแบบอะเซลลูลาร์ ที่ใช้ในเด็ก คือ Tripedia (Diptheria and Tetaus Toxoids and Acelluar Pertussis Vaccine Adsorbed) ในปี 2548 ซาโนฟี ปาสเตอร์ ยังคงดำเนินการนวัตกรรมเหมือนกับที่เคยเป็นมา ด้วยการแนะนำวัคซีน Menactra วัคซีน Meningococcal (Group A, C, Y และ W-135) วัคซีน Polysaccharide Diphtheria Toxoid Conjugate เพื่อป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองในเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 11-55 ปี และวัคซีน ADACEL (Tetanus Toxoid, Reduced Diphtheria Toxoid and Acellular Pertussis Vaccine Adsorbed) ในโดสที่ช่วยป้องกันโรคบาดทะยัก โรคคอตีบ และไอกรนทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่อายุระหว่าง 11-64 ปี
เกี่ยวกับโรคคอตีบ
โรคคอตีบเป็นโรคที่มีสาเหตุจากแบคทีเรีย Corynebacterium diphtheriae ซึ่งมักมีผลต่อต่อมทอนซิล ลำคอ จมูกและ/หรือผิวหนัง สามารถติดต่อผ่านจากคนสู่คนได้ทางน้ำลาย โดยมักเกิดจากการหายใจเอาแบคทีเรียคอตีบเข้าไปหลังจากที่ผู้ที่ติดเชื้อไอหรือจาม แม้ว่าโรคคอตีบจะไม่ค่อยพบในสหรัฐอเมริกา แบคทีเรียคอตีบ ซี (C diphtheriae) ยังคงมีการแพร่ระบาดในบางพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรคคอตีบมาก่อน นอกจากนี้โรคคอตีบสามารถพบได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก
เกี่ยวกับโรคบาดทะยัก
โรคบาดทะยักเป็นโรคที่มีอาการรุนแรง และพบว่ามีการเสียชีวิตบ่อยครั้ง มีสาเหตุจากสารพิษที่แบคทีเรีย Clostridium tetani ผลิตขึ้นมา ซึ่งแบคทีเรียนี้พบได้ในสิ่งแวดล้อม โรคบาดทะยักไม่ติดต่อจากคนสู่คน แต่โรคบาดทะยักเข้าสู่ร่างกายจากบาดแผลเปิด รวมทั้งแผลถลอก ขูดขีด และแผลทะลุ สารพิษจากแบคทีเรียก่อให้เกิดอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ซึ่งมีอาการเป็นตะคริวบริเวณกล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับกระดูก การเป็นตะคริวของกล้ามเนื้อมักเริ่มจากบริเวณขากรรไกรและคอ รวมทั้งอาจลุกลามไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ นำไปสู่อาการอัมพาตทั่วไปได้
เกี่ยวกับโรคไอกรน
โรคไอกรนเป็นโรคติดต่อรุนแรงเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ มีสาเหตุจากแบคทีเรีย (Bordetella pertussis) พบได้ในปาก จมูก และลำคอของผู้ที่ติดเชื้อ โรคไอกรนแพร่ระบาดเบื้อต้นได้ด้วยการสัมผัสโดยตรงกับคนที่ติดเชื้อบริเวณจมูกหรือลำคอ โรคไอกรนธรรมดาและรุนแรง ตามคำนิยามขององค์การอนามัยโลก ประกอบด้วยอาการไออย่างน้อยเป็นเวลา 21 วัน (อาการไอจนเกร็งหรือเฉียบพลัน) ร่วมด้วยอาการอาเจียนหลังไอ และการยืนยันทางห้องทดลอง แม้ว่าจะมีการใช้วัคซีนแพร่หลาย ยังคงมีรายงานการระบาดของโรคในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่มีความเสียงคือเด็กเกิดใหม่และเด็กเล็ก ซึ่งยังไม่มีวัคซีนสมบูรณ์แบบป้องกันโรคนี้ ซึ่งมีแนวโน้มอาจเป็นโรคไอกรนขั้นรุนแรง และมีความเป็นไปได้ที่จะเสียชีวิตหรือมีโรคแทรกซ้อน ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตจากโรคไอกรน 80% เกิดขึ้นในเด็กทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน (3)
เกี่ยวกับโรคโปลิโอ
โปลิโอไมเอลิทิส (โปลิโอ) เป็นโรคที่มีการติดเชื้อสูง เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่งที่บุกรุกเข้าสู่ระบบประสาท และอาจเป็นเหตุให้เกิดอัมพาตขั้นรุนแรง โดยไวรัสชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางปากและอวัยวะต่างๆในลำไส้ อาการเบื้องต้นจะมีไข้ขึ้น อ่อนเพลีย ปวดหัว อาเจียน คอแข็ง และเจ็บที่บริเวณแขนขา การติดเชื้อ 1 ใน 200 ครั้งอาจทำให้เป็นอัมพาตชนิดที่ไม่สามารถรักษาได้ (โดยปรกติเกิดขึ้นที่ขา) ในบรรดาผู้ที่เป็นโรคอัมพาตนั้น 5-10% จะเสียชีวิตเมื่อกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจเริ่มไม่ทำงาน โปลิโอส่วนใหญ่มีผลกระทบกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี การเกิดโรคโปลิโอเคยถูกขจัดให้หมดไปในสหรัฐฯเมื่อปี 2522 และในฝั่งตะวันตกในปี 2534 อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกกำลังพยายามขจัดการแพร่ระบาดและทำลายโรคนี้ให้หมดไป
เกี่ยวกับโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ
Haemophilus influenzae type b หรือ ฮิบ เกิดจากแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายทางจมูกหรือหลอดลม และสามารถแพร่กระจายจนเป็นเหตุให้เกิดเยื่อ meninges อักเสบ (การอักเสบที่ครอบคลุมถึงสมองและไขสันหลัง) การติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดบวม และการติดเชื้อที่ลิ้นปิดกล่องเสียง และการติดเชื้ออื่นๆที่รุนแรง โรคฮิบอาจทำให้เกิดภาวะอารมณ์เซื่องซึมในเด็กและอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิต แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบยังแพร่กระจายอยู่ในสหรัฐฯในทุกวันนี้ (4) การฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ ซึ่งอาจทำให้เยื่อ meninges อักเสบเนื่องจากแบคทีเรียในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ก่อนที่จะได้รับวัคซีน
เกี่ยวกับซาโนฟี-เอเวนติส
ซาโนฟี-เอเวนติส เป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเวชภัณฑ์ระดับโลก ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรวิจัยและพัฒนาระดับโลก บริษัทกำลังพัฒนาเป็นผู้นำในการรักษา 7 สาขาหลัก ได้แก่ หลอดเลือดหัวใจ การแข็งตัวของเลือด เนื้องอก โรคที่เกี่ยวกับเมตาบอลิก ระบบประสาทกลาง ยาและวัคซีนภายใน ซาโนฟี-เอเวนติส จดทะเบียนในตลาดหุ้นฝรั่งเศส (EURONEXT:SAN) และนิวยอร์ก (NYSE:SNY)
ซาโนฟี ปาสเตอร์ ซึ่งทำธุรกิจวัคซีนของ ซาโนฟี-เอเวนติส กรุ๊ป ขายวัคซีนได้มากกว่า 1 พันล้านโดสในปี 2549 ช่วยป้องกันโรคให้ประชาชนมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก บริษัทเสนอวัคซีนในหลากหลายสาขามากที่สุด และเสนอการป้องกันโรคจากแบคทีเรียและไวรัสกว่า 20 ชนิด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมที่ www.sanofipasteur.com
ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า (forward looking statements)
การแผยแพร่ข่าวชิ้นนี้ประกอบด้วยข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งนิยามโดยพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องความมั่นคงส่วนบุคคลปี 2538 ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นข้อความที่ไม่ใช้ความจริงทางประวัติศาสตร์ ข้อความดังกล่าวรวมทั้งโครงการทางการเงินและการประมาณการ รวมทั้งการบริโภคที่อยู่ใต้พื้นฐานของพวกเขา ข้อความที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน วัตถุประสงค์ และการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต การดำเนินการ ผลิตภัณฑ์และบริการ และข้อความที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในอนาคต ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ามักจะปรากฏคำว่า "คาดหวัง" "คาดหมาย" "เชื่อ" "เจตนา" "ประมาณ" "วางแผน" และ คำที่มีความหมายคล้ายกัน แม้ว่าฝ่ายบริหารของซาโนฟี-เอเวนติสเชื่อว่าการคาดการณ์สะท้อนถึงข้อความคาดการณ์หน้าเป็นสิ่งที่มีเหตุผล แต่นักลงทุนพึงระมัดระวังต่อข้อมูลและข้อความเหล่านี้ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้ รวมทั้งที่พิจารณาหรือระบุในเอกสารที่ซาโนฟี-เอเวนติส ยื่นต่อ SEC และ AMF ภายใต้หัวข้อ "ปัจจัยเสี่ยง" และ "ข้อพึงระวังเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า" ในรายงานประจำปีของซาโนฟี-เอเวนติสบนแบบฟอร์ม 20-F สำหรับปีซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ซาโนฟี-เอเวนติสไม่จำเป็นต้องปรับปรุงหรือทบทวนข้อมูลหรือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า
(1) The true name for Pentacel(R) vaccine is: Diphtheria and Tetanus Toxoids and Acellular Pertussis Adsorbed, Inactivated Poliovirus and Haemophilus b Conjugate (Tetanus Toxoid Conjugate) Vaccine Combined
(2) Herz A, Black S, Shinefield H, Noriega F, Greenberg, D. Safety of DTaP-IPV//PRP-T (PENTACEL) administered at 2, 4, 6, and 15 to 18 months of age. Annual meeting of the Pediatric Academic Societies 2005
(3) Vitek CR, Pascual FR, Baugham, AL, Murphy TV. Increase in deaths from pertussis from young infants in the United States in the 1990s. Pediar Infect Dis J. 2003:22:628:634.6
(4) Donnelly, M.J, Herold, B.C., Jenkins, S.G., Daum, R.S. Obstacles to the elimination of Haemophilus influenzae type b disease: Three illustrative cases. Pediatrics. Vol. 112, No. 6, December 2003, pp. 1465-1466
ที่มา: ซาโนฟี ปาสเตอร์
ติดต่อ: บริษัท ซาโนฟี ปาสเตอร์
ปาสกาล บาโรลลิเย่ร์
สื่อมวลชนต่างประเทศ
+33-(0)4-37-37-51-41
pascal.barollier@sanofipasteur.com หรือ
เลน ลาเวนดา
สื่อมวลชนสหรัฐ
+1-570-839-4446
len.lavenda@sanofipasteur.com
เว็บไซต์: HTTP://WWW.SANOFIPASTEUR.COM
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ