AI ขับเคลื่อนการค้าและนวัตกรรม กระชับสัมพันธ์จีน-อาเซียนแน่นแฟ้น

ข่าวต่างประเทศ Wednesday June 4, 2025 12:49 —Asianet Press Release

AI ขับเคลื่อนการค้าและนวัตกรรม กระชับสัมพันธ์จีน-อาเซียนแน่นแฟ้น

กรมประชาสัมพันธ์เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง

ที่ด่านมิตรภาพในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง รถบรรทุกจากเวียดนามที่ติดตั้งอุปกรณ์ AI ซึ่งให้ข้อมูลนำทางและคำแนะนำด้านความปลอดภัยแบบเรียลไทม์นั้น ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศจีนอย่างคล่องแคล่ว

ขณะเดียวกัน ห่างออกไปหลายกิโลเมตร ณ นิคมอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซอันคึกคักแห่งหนึ่ง เหล่าไลฟ์สตรีมเมอร์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังพูดคุยกับผู้ชมอย่างกระตือรือร้น พร้อมสร้างข้อมูลคำพูดจำนวนมหาศาลสำหรับคลังข้อมูลภาษาอาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) เพื่อใช้ปรับปรุงโมเดลการแปลด้วย AI

ในขณะที่จีนและอาเซียนยังคงกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น วิวัฒนาการอันก้าวกระโดดของ AI ได้เปิดประตูสู่การประยุกต์ใช้ใหม่ ๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจและปรับโฉมอุตสาหกรรมทั่วทั้งภูมิภาคให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ยกระดับการค้าข้ามพรมแดน

ด่านมิตรภาพแห่งนี้เป็นด่านบกที่ใหญ่ที่สุดของจีนที่เชื่อมต่อกับอาเซียน โดยได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้พลิกโฉมการดำเนินงานด้านพิธีการศุลกากรและกิจกรรมอื่น ๆ ของด่านนี้

ที่ศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่งในเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียงกว่างซีนั้น เครือข่ายกล้อง AI ที่ติดตั้งอยู่บนผนังจะสแกนสินค้าทุกชิ้นที่วางอยู่บนพื้นที่เก็บสินค้าอย่างละเอียด เพื่อสอดส่องความผิดปกติและแจ้งเตือนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์

การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้แรงงานคนลงได้อย่างมาก ทำให้งานมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"เมื่อก่อนนั้น จุดตรวจแต่ละแห่งต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำ" เหลียง เป่าหมิง (Liang Baoming) หัวหน้าโครงการด่านอัจฉริยะที่ด่านมิตรภาพกล่าว "แต่ตอนนี้ ด้วยอุปกรณ์อันทรงพลังเหล่านี้ พนักงานแค่คนเดียวก็สามารถดูแลงานที่เมื่อก่อนต้องใช้คนทั้งกะได้แล้ว"

ทั่วทั้งภูมิภาคนี้ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้กำลังเข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์อย่างแท้จริง

ที่ศูนย์บัญชาการของบริษัท กว่างซี เป่ยโถว ไอที อินโนเวชัน เทคโนโลยี อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป จำกัด (Guangxi Beitou IT Innovation Technology Investment Group CO., Ltd.) ในศูนย์กลางการค้าขนาดใหญ่ในนครหนานหนิง เมืองเอกของกว่างซีนั้น แพลตฟอร์มบริหารความเสี่ยงที่ทันสมัยกำลังติดตามการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ระหว่างเจ้าหน้าที่สนับสนุนกับกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่ขนส่งสินค้าระหว่างจีนกับเวียดนาม

"แพลตฟอร์มที่เสริมศักยภาพด้วย AI ของเราจะวิเคราะห์สีหน้าคนขับ เพื่อตรวจจับสัญญาณความเหนื่อยล้า และส่งการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยแบบเรียลไทม์" หลี่ เหิง (Li Heng) รองหัวหน้าสถาบันเทคโนโลยีของบริษัทแห่งนี้ กล่าว "นับตั้งแต่ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ระบบนี้ได้ให้บริการที่จำเป็นแก่รถบรรทุกกว่า 5,000 คัน และคนขับ 10,000 คนบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นการนำทางด้วยดาวเทียม คำแนะนำในการขับขี่อย่างปลอดภัย และการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน"

นวัตกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม ในการนำ AI เข้ามาปรับใช้ในโครงสร้างการค้าของกว่างซี โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์และเพิ่มการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน

นับจนถึงปัจจุบัน เป่ยโถวก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งปรับให้เหมาะกับตลาดอาเซียนโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาคนี้ในด้านการขนส่งแบบบูรณาการ การบริหารจัดการน้ำ การเงินภาคอุตสาหกรรม และภาคส่วนเกิดใหม่อื่น ๆ

ในบรรดาโซลูชันล้ำสมัยเหล่านี้ ผลิตภัณฑ์อย่างโดรนตรวจสอบทางอากาศและภาคพื้นดิน รวมถึงแพลตฟอร์มใบรับรองดิจิทัล ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของภูมิภาคนี้ ที่กำลังมองหาระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและบริการข้ามพรมแดนที่ปลอดภัยกว่าเดิม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ในปีนี้ โมเดล AI แปลภาษาของประเทศในแถบอาเซียน ที่พัฒนาโดยบริษัท กว่างซี ดาริง เทคโนโลยี จำกัด (Guangxi Daring Technology Co., Ltd.) พร้อมที่จะช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีภาษาที่ทันสมัยได้กว้างขวางขึ้น สำหรับภาษาที่อาจไม่ได้รับการนำเสนออย่างเพียงพอในภูมิภาคนี้

"ระบบนี้แตกต่างจากโมเดลทั่วไป ตรงที่ถูกปรับแต่งมาสำหรับภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษาเวียดนาม ทำให้แปลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยใช้ทรัพยากรประมวลผลน้อยลง" เหวิน เจียไค่ (Wen Jiakai) ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฯ กล่าว "และการที่เรามุ่งเน้นไปที่ภาษาอาเซียนนั้น ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะมีความแม่นยำสูงและสอดคล้องทางภาษา"

ขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ในภูมิภาค

กรมประชาสัมพันธ์เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา จีนได้เน้นย้ำคำมั่นที่จะสร้างอนาคตแห่งความร่วมมือกับประเทศในกลุ่มอาเซียนในด้าน AI โดยมีโครงการและรูปแบบการใช้งานจำนวนมากที่คืบหน้าจนมีการนำไปปรับใช้จริงอย่างรวดเร็ว

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ กว่างซีและลาวได้จัดพิธีลงนามที่เวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว เพื่อจัดตั้ง ศูนย์ความร่วมมือด้านนวัตกรรม AI จีน-ลาว อย่างเป็นทางการ

ที่น่าสนใจคือ โครงการริเริ่มบุกเบิกนี้ถือเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมที่มุ่งเน้น AI แห่งแรกที่จีนกับประเทศในกลุ่มอาเซียนได้สร้างขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเสริมสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีของลาวอย่างเป็นระบบ เพื่อให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เติบโตได้ดีในยุคดิจิทัล

ปัจจุบัน กว่างซีและลาวได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงมากกว่า 10 ฉบับ โดยมุ่งหวังที่จะยกระดับความร่วมมือในการพัฒนา AI และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามพรมแดน

ในเดือนเมษายน เป่ยโถวได้ผนึกกำลังกับบริษัท เอ็มวาย อีจี เซอร์วิสเซส จำกัด (MY E.G. Services Berhad หรือ MYEG) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการดิจิทัลชั้นนำของมาเลเซีย เพื่อพัฒนา ศูนย์นวัตกรรม AI จีน-มาเลเซีย โดยเจาะลึกในด้านต่าง ๆ เช่น บล็อกเชนและวิทยาการหุ่นยนต์

ไล่ ซุยผิง (Lai Shuiping) ประธานบริษัทเป่ยโถว เน้นย้ำถึงศักยภาพอันมหาศาลแต่ยังไม่ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศในกลุ่มอาเซียนในด้าน AI

คุณไล่เปิดเผยว่า โครงการแรกภายใต้การริเริ่มนี้จะนำระบบการรับรองเอกลักษณ์ดิจิทัลร่วมกันมาใช้ทั้งในจีนและมาเลเซีย โดยกว่างซีจะทำหน้าที่เป็นภูมิภาคนำร่องเบื้องต้น

เมื่อนำระบบนี้มาใช้แล้ว ประชาชนชาวมาเลเซียจะสามารถใช้ "MyDigital ID" เพื่อเข้าถึงบริการทางการเงินและแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่น ขณะเดียวกันก็ช่วยให้พลเมืองจีนเดินทางในมาเลเซียได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน ซึ่งจะปูทางให้ทำธุรกรรมทางธุรกิจและติดต่อส่วนตัวได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

เดือนมีนาคมที่ผ่านมายังถือเป็นการเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมประมวลผล AI อัจฉริยะ อู๋เซียง คลาวด์ วัลลีย์ (Wuxiang Cloud Valley) อย่างเป็นทางการในหนานหนิง ซึ่งเป็นความพยายามของภูมิภาคนี้ที่จะพัฒนา AI อย่างรอบด้าน ทั้งในด้านพลังการประมวลผล AI แพลตฟอร์มบริการ นวัตกรรมอัลกอริทึม ตลอดจนความปลอดภัยของคลาวด์และข้อมูล

นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อลงทุนในการสร้างคลัสเตอร์การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (R&D) โมเดล AI ที่ปรับแต่งได้

นอกจากนี้ โครงการนี้คาดว่าจะช่วยสร้างบริการให้เช่าพลังการประมวลผล AI ที่ออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมในกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะเข้ามาส่งเสริมการไหลเวียนและการใช้ทรัพยากร AI หลัก ๆ ร่วมกันในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นพลังการประมวลผล เทคโนโลยี และบุคลากร

ตง เหวยจุน (Dong Weijun) หัวหน้านิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังพยายามเร่งรัดการนำโมเดล AI ขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นอาเซียนไปใช้ในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น เกษตรกรรม เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น และเครื่องสำอาง เพื่อสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่มีชีวิตชีวา

"โครงการนี้จะช่วยบ่มเพาะระบบนิเวศอุตสาหกรรม AI ที่แข็งแกร่ง เพื่อผลักดันกว่างซีให้เป็นศูนย์กลางใหม่ของนวัตกรรม AI ที่ปรับให้เข้ากับตลาดอาเซียน" เขากล่าว

กว่างซี ศูนย์กลาง AI สำหรับอาเซียน

กว่างซีหวังที่จะเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับภูมิภาค โดยได้ริเริ่มพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมข้ามพรมแดน โดยอาศัยการวิจัยและพัฒนาชั้นนำระดับโลกจากเมืองใหญ่ ๆ อย่าง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น จากนั้นจึงนำความก้าวหน้าเหล่านี้มาปรับใช้ในท้องถิ่นก่อนที่จะนำไปปฏิบัติทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน

หนานหนิงยังได้เริ่มก่อสร้างศูนย์ความร่วมมือด้านนวัตกรรม AI จีน-อาเซียนด้วย โดยใช้พลังของ AI เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมต่าง ๆ

องค์กรชั้นนำหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศได้หลั่งไหลเข้ามายังเมืองนี้ และจัดตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคเพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือ โดยมีการสร้างความร่วมมือและกิจการร่วมค้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสาขาที่มีแววสดใส เช่น การฝึกอบรมโมเดล การทำคำอธิบายประกอบข้อมูล และการประยุกต์ใช้ AI ในแวดวงการศึกษาและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ส่วนที่ไซต์ก่อสร้างศูนย์นวัตกรรม AI ในเมืองอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศหนานหนิง ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้ ก็คึกคักไปด้วยกิจกรรม มีทั้งเครนเหนือศีรษะและรถวิศวกรรมที่ทำงานกันอย่างไม่หยุดหย่อน

โครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 70 ตารางกิโลเมตร ถือเป็นก้าวสำคัญในความร่วมมือทางอุตสาหกรรมระหว่างจีน-สิงคโปร์ โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 เสาหลักสำคัญของความร่วมมือในระดับทวิภาคี ได้แก่ AI การประยุกต์ใช้พลังงานใหม่ และเทคโนโลยีสุขภาพใหม่

เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่นี้ หนานหนิงจึงได้เปิดตัวมาตรการชุดแรก ที่มุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการให้มีคุณภาพสูง ตามเอกสารทางการที่ระบุไว้

มาตรการชุดนี้ประกอบด้วย 22 โครงการริเริ่มที่ครอบคลุม 7 ด้านหลัก รวมถึงการส่งเสริมคลัสเตอร์อุตสาหกรรม สนับสนุนธรรมาภิบาลข้อมูลแบบเปิด การพัฒนาโมเดล และกระชับความร่วมมือกับประเทศในกลุ่มอาเซียน

เจ้าหน้าที่จากกรมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของกว่างซีเปิดเผยว่า ภูมิภาคนี้ได้วางวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ ในการสร้างเครือข่ายนิคมอุตสาหกรรม AI และคลัสเตอร์การผลิตที่ทันสมัย โดยมีเป้าหมายผลักดันให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI สร้างมูลค่าผลผลิตได้เกิน 1 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2570 ซึ่งจะทำให้กว่างซีผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลาง AI ชั้นนำสำหรับภูมิภาคอาเซียน

ที่มา: กรมประชาสัมพันธ์เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ