คณะกรรมกรรมการจัดการประชุมว่าด้วยหลักปรัชญาของจูซีและการเสวนาระหว่างอารยธรรมโลก
สถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน (CASS) ร่วมกับสหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ และรัฐบาลประชาชนมณฑลฝูเจี้ยน จัดการประชุมว่าด้วยหลักปรัชญาของจูซีและการเสวนาระหว่างอารยธรรมโลก (The Conference on Zhu Xi's Philosophy and Dialogue of Global Civilization) เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ณ เมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน ภายใต้หัวข้อ "สืบสานคุณค่าร่วมสมัยของวัฒนธรรมจูซี ส่งเสริมการเรียนรู้และการเติบโตร่วมกันของอารยธรรมโลก" โดยมีผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการเกือบ 200 คน จาก 51 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วม
ซิโมนา-มิเรลา มิคูเลสคู ประธานการประชุมสมัยสามัญขององค์การยูเนสโก ครั้งที่ 42 ได้ส่งสารผ่านวิดีโอ ระบุว่า จูซีเขียนไว้ในคัมภีร์จตุรปกรณ์ (The Four Books ) ว่า "การรักษาสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น" ถ้อยคำของจูซีเตือนใจเราว่า การอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นแล้วคงอยู่ตลอดไป แต่ต้องอาศัยการทบทวนและการสื่อสารเพื่อฟื้นฟูหรือสร้างใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะในโลกยุคปัจจุบัน ภูมิปัญญาแห่งความสมดุลของท่านกลับลึกซึ้งยิ่งกว่าเคย
หลิน ซ่างหลี่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน ชี้ให้เห็นว่า อุดมการณ์ทางการเมืองที่จูซีนำเสนอไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการออกแบบเชิงสถาบันเท่านั้น แต่เป็นระบบธรรมาภิบาลทางสังคมที่มีระเบียบทางศีลธรรมเป็นศูนย์กลาง ในสังคมจีนร่วมสมัย การปรับปรุงธรรมาภิบาลให้ทันสมัยนั้นมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความรับผิดชอบต่อจริยธรรมทางสังคม ประโยชน์ส่วนรวม และหลักการสากล ซึ่งแนวคิดของจูซีถือเป็นทรัพยากรทางปัญญาที่สำคัญสำหรับสนับสนุนและชี้นำกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่นี้
การแสดงทางวัฒนธรรม "Moon over Wuyi" ซึ่งจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ในยามเย็นของวันที่ 18 ตุลาคม สร้างความประทับใจให้แก่แขกทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก วิลเลียม เอ็น. บราวน์ นักวิชาการชาวอเมริกัน กล่าวว่า การแสดงนี้ "เหนือจินตนาการ" โดยการใช้ศิลปะตีความแนวคิดทางปรัชญา พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของหนานผิงในการอนุรักษ์และสร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรม
ในระหว่างการเยือนหนานผิงเพื่อเข้าร่วมการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นักวิชาการทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติต่างยกย่องความทุ่มเทพยายามในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมจูซีของหนานผิง ศาสตราจารย์คิม ซี จอง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัม ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า การบูรณะ Hanquan Jing She ซึ่งเป็นสถานที่ที่จูซีเคยใช้ชีวิตและสอนหนังสือ และเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่วัฒนธรรมสาธารณะของเมืองหนานผิงนั้น เป็น "ตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของการฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรม" ด้านบาลี ราม ดีพัก จากอินเดีย เผยความตั้งใจที่จะแปลงานของจูซีเป็นภาษาท้องถิ่นและแนะนำผลงานเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักในประเทศบ้านเกิดของเขา "เพื่อให้ชาวอินเดียจำนวนมากขึ้นได้เข้าใจหลักปรัชญาของวัฒนธรรมจูซี"
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การสืบทอดและการสร้างสรรค์วัฒนธรรมจูซีของเมืองหนานผิงสะท้อนความสำเร็จของการปฏิบัติในระดับท้องถิ่น และนำเสนอประสบการณ์จริงเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรมที่แตกต่างกัน วัฒนธรรมจูซีไม่ได้เป็นเพียงของจีนเท่านั้น แต่หากยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมการเสวนาระหว่างอารยธรรมทั่วโลกอีกด้วย
ที่มา: คณะกรรมการจัดการประชุมว่าด้วยหลักปรัชญาของจูซีและการเสวนาระหว่างอารยธรรมโลก