เวียนนา--10 ม.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์ — เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
- การใช้ไขมันของคนไข้ที่เต็มไปด้วยสเต็มเซลล์เป็นการเสริมหน้าอกอย่างยั่งยืน
เมื่อไม่นานมานี้สื่อมวลชนต่างประโคมข่าวอย่างเอิกเกริกว่า บริษัทสัญชาติฝรั่งเศสแห่งหนึ่งจำหน่ายซิลิโคนเสริมหน้าอกที่ไม่ได้มาตรฐานมานานหลายปี ซึ่งซิลิโคนดังกล่าวเกิดการรั่วบ่อยและมีโอกาสก่อให้เกิดมะเร็ง ส่งผลให้สตรีกว่า 100,000 คนทั่วโลกต้องเลือกว่าจะผ่าเอาซิลิโคนออกเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หรือจะเก็บ “ระเบิดเวลา” ไว้กับตัวเองต่อไป อย่างไรก็ดี การเสริมหน้าอกด้วยสเต็มเซลล์เป็นทางเลือกใหม่ที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน
“การใช้เนื้อเยื่อไขมันของคนไข้เองมีความทนทานมากกว่าซิลิโคน ไม่ก่อให้เกิดแผลเป็น ทั้งยังเป็นการเสริมหน้าอกและเสริมสร้างเต้านมอย่างเป็นธรรมชาติหลังผ่าตัดเอาซิลิโคนหรือเนื้องอกออก” DDr. Karl-Georg Heinrich ผู้เชี่ยวชาญด้านสเต็มเซลล์บำบัดเพื่อความงามและการฟื้นฟูในกรุงเวียนนา กล่าว นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา Clinic DDr. Heinrich(R) ของเขาได้ทำให้ความหวังของคนไข้ทั่วโลกเป็นความจริง นั่นคือการมีทรวงอกอวบอิ่มโดยไม่ต้องใส่ซิลิโคนและไม่มีแผลเป็น
ซิลิโคนเสริมหน้าอกของบริษัทฝรั่งเศสที่มีปัญหาก็ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE เช่นเดียวกับซิลิโคนของอีกหลายบริษัท และยังไม่มีการเปิดเผยว่ามีซิลิโคนอื่นใดอีกที่มีปัญหา นอกจากนั้นแล้ว แม้แต่ซิลิโคนที่ดีที่สุดก็เป็นการเสริมหน้าอกแค่เพียงชั่วครั้งชั่วคราว โดยศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดใส่ซิลิโคนแนะนำให้คนไข้ทุกคนเปลี่ยนซิลิโคนทุกๆ 10 ปี
อย่างไรก็ดี การใช้สเต็มเซลล์เป็นการเสริมหน้าอกอย่างยั่งยืน โดยแพทย์จะค่อยๆสอดท่อขนาดเล็กมากเข้าไปดูดไขมันของคนไข้ซึ่งเต็มไปด้วยสเต็มเซลล์ จากนั้นจึงนำไปฉีดใส่หน้าอกของคนไข้ด้วยเข็มที่คมมาก ตรงจุดที่มีการให้ยาชาเพียงจุดเดียวเท่านั้น
นอกจากการเสริมหน้าอกและยกกระชับผิวหน้าด้วยสเต็มเซลล์แล้ว Clinic DDr. Heinrich(R) ยังนำไขมันที่เต็มไปด้วยสเต็มเซลล์ไปใช้กระชับส่วนต่างๆของร่างกาย (บั้นท้าย สะโพก ต้นขา น่อง) รวมถึงการลดริ้วรอยและการฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://ddrheinrich.com/stem-cell-breast-augmentation
ติดต่อ:
Clinic DDr. Heinrich(R)
Herfried Wagner
อีเมล: info@ddrheinrich.com
เว็บไซต์: http://ddrheinrich.com/
โทร: +43-(0)1-532-18 01
แหล่งข่าว: Clinic DDr. Heinrich
AsiaNet 47983
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --