ลอนดอน--25 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/ อินโฟเควสท์
โทมัส เฮเธอร์วิค (Thomas Heatherwick) นักออกแบบช่างจินตนาการจะฟื้นสภาพสถานที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ให้กลายเป็นโรงกลั่นสุราและศูนย์กลางแห่งการเยี่ยมชมการผลิตเหล้ายินแบรนด์ดัง
เหล้ายิน Bombay Sapphire(R) เหล้ายินระดับพรีเมียมที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก(1) เปิดเผยแผนการก่อสร้างโรงกลั่นสุราในเลเวอร์สโตค มิล เมืองแฮมป์เชอร์ โครงการซึ่งมีมูลค่าหลายล้านปอนด์นี้ จะช่วยฟื้นฟูอาคารทางประวัติศาสตร์ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของหนึ่งในโรงงานผลิตกระดาษสำหรับธนบัตรที่มีความสำคัญมากที่สุดของอังกฤษ การออกแบบการก่อสร้างโรงกลั่นสุรานี้อยู่ภายใต้การดูแลของโทมัส เฮเธอร์วิค นักออกแบบชื่อดังแห่งกรุงลอนดอน และเฮเธอร์วิค สตูดิโอ (Heatherwick Studio) โครงการก่อสร้างนี้จะแปรสภาพโรงงานผลิตร้างให้กลายเป็นโรงกลั่นเหล้ายินระดับพรีเมียมและศูนย์เยี่ยมชมที่ครอบคลุมมาตรฐานสูงสุดด้านการออกแบบ การใช้งาน และความยั่งยืน
การรับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดีย กรุณาคลิกที่
http://www.multivu.com/mnr/56574-bombay-sapphire
โรงกลั่นดังกล่าว จะสร้างขึ้นบนพื้นที่โรงงานร้างขนาด 2 เฮกตาร์ ใกล้กับสวนสาธารณะเลเวอร์สโตค ซึ่งห่างจากกรุงลอนดอนเพียง 60 ไมล์ นับเป็นเวลาถึง 200 ปีที่โรงงานแห่งนี้ได้ผลิตกระดาษคุณภาพสูงสำหรับทำธนบัตรของประเทศอินเดียและประเทศในอาณานิคมของอังกฤษ นอกจากนี้บริเวณโรงงานยังมีความสวยงามตามธรรมชาติ มีแม่น้ำเทสต์ที่ใสสะอาดไหลผ่านใจกลาง และยังมีความเกี่ยวพันทางประวัติศาสตร์กับการผลิตสินค้าคุณภาพสูงด้วยทักษะและความเอาใจใส่ของเจ้าของโรงงานเดิมและแรงงานฝีมือ ซึ่งโรงงานแห่งใหม่ที่ปรับปรุงขึ้นนี้จะเป็นโอกาสแรกที่เปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมแหล่งกำเนิดของแบรนด์สุราที่มีลักษณะเฉพาะตัว
ความมุ่งมั่นของโครงการก่อสร้างนี้ได้ช่วยฟื้นสภาพอาคาร พื้นดิน และมรดกทางประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดตัวสิ่งก่อสร้างหลังใหม่ที่จะมาเติมเต็มสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่เดิม ในฐานะที่โครงการสามารถแสดงคุณภาพที่แท้จริงของแบรนด์ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปณิธานของแบรนด์ Bombay Sapphire จุดเด่นของการก่อสร้างที่สลับซับซ้อนนี้อยู่ที่การสร้างเรือนกระจกสำหรับปลูกพืช 10 ชนิดของเหล้ายิน Bombay Sapphire เรือนกระจกนี้นอกจากจะเป็นจุดเด่นสำคัญของเลเวอร์สโตคมิลแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของวิธีการผลิตเหล้ายินของ Bombay Sapphire อย่างพิถีพิถัน ชำนาญ และเปี่ยมด้วยจินตนาการอีกด้วย
ทั้งนี้ เฮเธอร์วิค ให้ความเห็นเกี่ยวกับการออกแบบครั้งนี้ว่า “เนื่องจากรสชาติพิเศษเฉพาะตัวของเหล้ายิน Bombay Sapphire นั้นผสมขึ้นจากพืช 10 ชนิด ดังนั้นหัวใจของการก่อสร้างครั้งนี้จึงอยู่ที่เรือนกระจก ที่ซึ่งผู้มาเยือนสามารถสัมผัสประสบการณ์ตัวอย่างการปลูกพืชที่ใช้บ่มสุราในเรือนกระจกได้ เรือนกระจกนี้ได้รับอิทธิพลจากมรดกด้านโครงสร้างเรือนกระจกอันล้ำค่าของอังกฤษ ซึ่งจะมีการแยกออกเป็น 2 ส่วน ทั้งพื้นที่สำหรับสร้างสภาพแวดล้อมแบบชุ่มชื้นให้แก่พืชที่มีต้นกำเนิดจากเขตร้อน และโซนเขตสภาพอากาศแห้งอบอุ่นสำหรับพืชจากเมดิเตอร์เรเนียน เราตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้มีโอกาสใช้สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และได้แปรสภาพอาคารร้างในปัจจุบันให้กลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมแห่งใหม่ที่มีความสำคัญระดับประเทศ”
ความสัมพันธ์ระยะเวลา 10 ปีระหว่างแบรนด์ Bombay Sapphire กับ โทมัส เฮเธอร์วิค เริ่มต้นขึ้นเมื่อเฮเธอร์วิคได้รับตำแหน่งผู้ชนะเลิศรางวัล Bombay Sapphire Prize ซึ่งเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่มอบให้แก่ความเป็นเลิศและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ด้านแก้ว หลังจากนั้น เฮเธอร์วิคได้เข้าร่วมมูลนิธิ Bombay Sapphire ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งเสริมและให้รางวัลความเป็นเลิศด้านการออกแบบร่วมสมัยและการออกแบบแก้วโดยเฉพาะ และเมื่อปี 2553 เฮเธอร์วิคก็ได้รับข้อเสนอจากคณะทำงานของ Bombay Sapphire ให้เป็นผู้ออกแบบโรงงานผลิตสุราแบรนด์ Bombay Sapphire ในเลเวอร์สโตค
จอห์น เบิร์ก (John Burke) ผู้อำนวยการของ Bombay Sapphire ระดับโลกกล่าวเพิ่มเติมว่า “นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับทีมงานของ Bombay Sapphire โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่เราได้เห็นว่าโครงการก่อสร้างโรงงานของเราในเลเวอร์สโตคกำลังจะบรรลุผล ด้วยความเก่าแก่ คุณภาพ และศิลปะช่างฝีมือที่เป็นหัวใจของมรดกของสถานที่แห่งนี้ เราตั้งตารอที่จะเปิดประตูต้อนรับผู้บริโภคจากทั่วโลก และร่วมแบ่งปันความใส่ใจ ทักษะและจินตนาการที่บ่มเพาะอยู่ในสุราที่เราผลิตกับพวกเขา เหล้ายิน Bombay Sapphire ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่และเติบโตขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ และด้วยการเปิดตัวแหล่งกำเนิดของแบรนด์และประสบการณ์ของผู้บริโภค เรามั่นใจในอนาคตอีกทศศวรรษข้างหน้า”
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกระบวนการก่อสร้างก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการภายใต้การบริหารจัดการโดยบริษัท เมลเลอร์ จำกัด (Meller Ltd.) โดยโรงกลั่นจะมีกำหนดเปิดใช้บริการในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า
เกรแฮม คาร์ทเลดจ์ (Graham Cartledge) กรรมการผู้จัดการของบริษัทเมลเลอร์ กล่าวว่า “เมลเลอร์ภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำการพัฒนาเลเวอร์สโตคมิลให้กลายเป็นโรงงานผลิตสินค้าระดับโลกและศูนย์เยี่ยมชมที่ไม่เหมือนใคร”
http://www.laverstokemill.co.uk
[1] แหล่งข้อมูลจาก International Wine and Spirit Research (IWSR) ช่วงระยะเวลา 12 เดือน สิ้นสุด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2553
เกี่ยวกับ Bombay Sapphire
Bombay Sapphire เป็นเหล้ายินระดับพรีเมียมที่มีมูลค่าสูงสุดและเติบโตเร็วที่สุดในโลก Bombay Sapphire ผลิตตามสูตรลับเก่าแก่ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2304 ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวของพืช 10 ชนิดที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั่วโลก รสสัมผัสอันเป็นธรรมชาติของพืชนานาพันธุ์โดดเด่นขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการกลั่นอย่างประณีตที่เรียกว่า Vapour Infusion ก่อให้เกิดรสชาติที่เย้ายวน นุ่มละมุน และลึกซึ้งตามแบบฉบับ Bombay Sapphire
Bombay Sapphire — INFUSED WITH IMAGINATION(TM)
Bombay Sapphire [http://www.facebook.com/BombaySapphire] ต้องการกระตุ้นให้ผู้คนเปิดใจให้กว้างและคิดต่าง เพื่อเปิดเผยตัวตนและจินตนาการของตนเองให้มากขึ้น ทีมงานของ Bombay Sapphire เชื่อว่าทุกคนมีจินตนาการ ดังนั้นจึงต้องการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้รับแรงบันดาลใจ และซึมซับจินตนาการไปกับ Bombay Sapphire
สื่อติดต่อที่
ตาริต้า มุลลิงส์ [[email protected]] +44(0)20-7413-3143
แหล่งข่าว: Bombay Sapphire