บังกาลอร์ อินเดีย, ลอนดอน และนิวยอร์ก--8 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์—เฟิร์สต์คอลล์ / อินโฟเควสท์
อินโฟซิส ผู้นำระดับโลกด้านที่ปรึกษาและเทคโนโลยี เปิดตัว Infosys Cloud Ecosystem Hub ซึ่งเป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้าง ใช้งาน และบริหารจัดการบริการระบบคลาวด์ได้ทั้งระบบ โดยธุรกิจสามารถลดระยะเวลาในการนำเสนอบริการคลาวด์สู่ตลาดได้เร็วขึ้น 40% และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการด้านการผลิตได้ถึง 20% ตลอดทั้งสามารถบรรลุเป้าหมายในการประหยัดต้นทุนได้ถึง 30%
Infosys Cloud Ecosystem Hub ช่วยให้การใช้งานบริการคลาวด์เป็นไปอย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์การใช้บริการด้วยตัวเองช่วยให้ธุรกิจสามารถสมัครใช้งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ที่เกี่ยวข้องและบริการสำหรับธุรกิจบนระบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โซลูชั่นดังกล่าวยังสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและแพลตฟอร์มที่สอดคล้องได้อย่างยืดหยุ่นภายในเวลาไม่กี่นาทีบนระบบคลาวด์แบบไฮบริด
ดารีล ซี. พลัมเมอร์ รองประธานกลุ่มบริษัทและประธานของการ์ทเนอร์ เฟลโลว์ กล่าวว่า “เนื่องจากระบบคลาวด์แบบไฮบริดได้กลายเป็นสิ่งที่เป็นจริงแล้วในปัจจุบัน ภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องทำงานร่วมกับตัวแทนให้บริการระบบคลาวด์เพื่อให้เข้าถึงและประเมินบริการคลาวด์ได้อย่างชาญฉลาด รวมทั้งรับมือกับความท้าทายในการบริหารระบบไอทีที่แยกจากกันเป็นหลายๆ ส่วน ธุรกิจจึงจำเป็นต้องพร้อมที่จะรับมือกับประสานงานกับตัวแทนให้บริการคลาวด์”
ฟีเจอร์ตัวแทนให้บริการอัจฉริยะของ Infosys Cloud Ecosystem Hub นำเสนอกลไกที่รองรับการตัดสินใจตลอดทั้งภาคธุรกิจในการคัดลือก เปรียบเทียบ และ ใช้งานบริการคลาวด์จากผู้ให้บริการต่างๆ การตัดสินใจอาจจะตั้งอยู่บนพื้นฐานการประเมินผลจากกว่า 20 มาตรวัด เช่น คุณภาพของการให้บริการ การทำงานร่วมกันของเทคโนโลยี ความจำเป็นในเรื่องความสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ และ ต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของแอพพลิเคชั่น Infosys Cloud Ecosystem Hub นำเสนอการแสดงผลของระบบคลาวด์สำหรับองค์กรในหน้าจอเดียว ตลอดทั้งรวมระบบไอทีที่แยกจากกันเป็นหลายๆ ส่วนจากทั้งระบบคลาวด์ในภาคเอกชนและสาธารณะเข้าไว้ด้วยกัน โซลูชั่นดังกล่าวช่วยให้การติดตามการใช้งานคลาวด์บนแหล่งต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องการวัดปริมาณและการจัดทำใบแจ้งหนี้สำหรับเรียกเก็บค่าบริการได้อีกด้วย
วิศนุ พัต รองประธานและประธานธุรกิจคลาวด์ระดับโลกของอินโฟซิส กล่าวว่า “ลูกค้าของเรากำลังเผชิญกับความซับซ้อนของระบบคลาวด์ที่แยกจากกันเป็นหลายๆ ส่วน Infosys Cloud Ecosystem Hub นำเสนอเกตเวย์เดียวสำหรับองค์กรในการสร้าง บริหาร และ ควบคุมระบบคลาวด์สำหรับองค์กรแบบไฮบริด โซลูชั่นนี้ช่วยให้ลูกค้าตระหนักถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากระบบคลาวด์ได้อย่างเต็มที่”
อินโฟซิสทำงานร่วมกับผู้ให้บริการสถาปัตยกรรมคลาวด์ แอพพลิเคชั่น และแพลตฟอร์ม ชั้นนำของโลกกว่า 30 ราย ซึ่งรวมไปถึง Amazon Web Service, CA Technologies, Dell, Hitachi Data Systems, HP, IBM, Microsoft, VMware และผู้ให้บริการรายอื่นๆ ในฐานะผู้รวบรวมระบบคลาวด์ อินโฟซิสได้นำเสนอศักยภาพชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายในเพียงจุดเดียว
คำกล่าวอ้างอิงของพาร์ทเนอร์
- “การเป็นพาร์ทเนอร์อย่างยาวนานกับอินโฟซิส ช่วยให้เรานำเสนอทางเลือกที่เกี่ยวกับโซลูชั่นคลาวด์ผ่าน Infosys Hub ใหม่ให้กับลูกค้าได้อย่างหลากหลาย” อดัม ฟามูลาโร รองประธานอาวุโสฝ่ายโซลูชั่นคลาวด์และบริการของ ซีเอ เทคโนโลยีส์ กล่าว “เราทำงานร่วมกันในหลายเรื่องเพื่อนำเสนอการบริหารระบบคลาวด์แบบครบวงจร เราช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็วขึ้นเกี่ยวกับแหล่งบริการคลาวด์ เพื่อคาดการณ์เกี่ยวกับศักยภาพด้านการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อทดสอบแอพพลิเคชั่นและพฤติกรรมของระบบคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยบริการเสมือนจริง เพื่อให้บริการได้รวดเร็วขึ้นด้วยระบบกริดเสมือนจริง การทำงานร่วมกันช่วยให้เราช่วยให้ลูกค้าร่นระยะเวลาในการเพิ่มมูลค่าและเพิ่มผลตอบแทนให้กับธุรกิจด้วยโซลูชั่นเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ยืดหยุ่น และ ปลอดภัย”
- “ที่เดลล์ เราตระหนักดีว่าธุรกิจต่างๆเข้าถึงระบบคลาวด์ในหลายรูปแบบ และเรารู้สึกตื่นเต้นที่เรามี Boomi ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการรวมระบบของเรา และเป็นส่วนหนึ่งของ Cloud Ecosystem Hub” ริค นุชชี ผู้จัดการทั่วไปของ Dell Boomi กล่าว “ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับอินโฟซิสช่วยให้ลูกค้าที่มองหาโอกาสในการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจด้วยโซลูชั่นคลาวด์มีทางเลือกเพิ่มขึ้น”
- “การเป็นพันธมิตรบริการคลาวด์เชิงกลยุทธ์ใหม่นี้ ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในระยะยาวระหว่างเรากับอินโฟซิสให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น Hitachi Unified Storage (HUS) ได้นำเสนอ Infosys Cloud Ecosystem Hub ใหม่พร้อมโซลูชั่นสำหรับ Microsoft Exchange ที่ให้ประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับความคาดหวัง ในขณะที่ยังสามารถเพิ่มปริมาณได้อย่างไม่จำกัด Hitachi Unified Storage ช่วยให้โมเดลคลาวด์ต่างๆ สามารถใช้งานได้ 99.999% ในระบบไอทีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ข้อดีเหล่านี้ช่วยให้อินโฟซิสนำเสนอบริการคลาวด์ในระดับธุรกิจให้กับลูกค้าได้ในต้นทุนที่ถูกลง เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในระบบใหม่นี้ร่วมกับอินโฟซิสเพื่อยกระดับความร่วมมือของเราขึ้นไปอีกขั้น” มาร์ค เคย์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการรวมระบบและพันธมิตรของบริษัทฮิตาชิ ดาต้า ซิสเท็มส์ กล่าว
- “เนื่องจากระบบคลาวด์คือ ศูนย์กลางของ Windows Server 2012, System Center 2012 และ Windows Azure ไมโครซอฟท์จึงนำเสนอบริการแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์สำหรับภาคเอกชน รัฐบาล และ ระบบคลาวด์แบบไฮบริด” มาร์ค มิลเลอร์ กรรมการฝ่ายการตลาดเซิร์ฟเวอร์และเครื่องมือธุรกิจของไมโครซอฟท์ล่าว “ในฐานะผู้รวบรวมระบบคลาวด์ Infosys Cloud Ecosystem Hub และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องช่วยให้ลูกค้าเข้าใจระบบคลาวด์สำหรับองค์กร เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้บริการที่จำเป็นได้”
- แมทธิว ลอดจ์ รองประธานฝ่ายบริการคลาวด์ของ VMware กล่าวว่า “เรารู้สึกดีใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับอินโฟซิสในการนำเสนอเทคโนโลยี VMware ชั้นนำของอุตสาหกรรมในฐานะพื้นฐานสำหรับ Cloud Ecosystem Hub ของธุรกิจ VMware มีวิสัยทัศน์เช่นเดียวกับอินโฟซิสในเรื่องการเติบโตด้านนวัตกรรมของธุรกิจด้วยแรงผลักดันจากระบบคลาวด์ ในขณะเดียวกันก็ยังนำเสนอโซลูชั่นคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่น มีการปรับแต่ง และสอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน เราเชื่อว่า Infosys Cloud Ecosystem Hub จะสามารถตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในการสร้าง นำเสนอ และบริหารระบบคลาวด์แบบไฮบริดสำหรับธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแน่นอน”
เกี่ยวกับอินโฟซิส
องค์กรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกหลายแห่งได้พึ่งพาพนักงาน 151,000 คนของอินโฟซิสในการนำเสนอมูลค่าทางธุรกิจที่สามารถประเมินผลได้ อินโฟซิสให้บริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ เทคโนโลยี วิศวกรรม และ บริการเอาท์ซอร์ส เพื่อช่วยลูกค้าใน 30 ประเทศพัฒนาองค์กรแห่งอนาคต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินโฟซิส (NASDAQ: INFY) สามารถเยี่ยมชมได้ที่ http://www.infosys.com
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ (Safe Harbor)
สถานะบางประเด็นที่เกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวในอนาคตของอินโฟซิสในข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นเพียงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งเกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจส่งผลให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงนั้นแตกต่างไปจากแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในแถลงการณ์นี้ประกอบไปด้วย ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากความผันผวนของรายได้ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความสามารถของอินโฟซิสในการบริหารการเติบโต ความรุนแรงของการแข่งขันในการให้บริการด้านไอทีซึ่งรวมไปถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความได้เปรียบด้านต้นทุนของอินโฟซิส การปรับเพิ่มค่าแรงในอินเดีย ความสามารถของอินโฟซิสในการดึงดูดและดึงพนักงานที่มีทักษะสูงไว้กับบริษัท ระยะเวลาและต้นทุนในการดำเนินการตามสัญญาที่กำหนดกรอบเวลาและราคาที่ชัดเจน การเล็งเห็นความสำคัญของลูกค้า การควบคุมการตรวจคนเข้าเมือง การให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรม ความสามารถของอินโฟซิสในการดำเนินงานในต่างประเทศ อุปสงค์ด้านไอทีที่ลดลงในพื้นที่สำคัญที่อินโฟซิสดำเนินงาน ภาวะติดขัดหรือความล้มเหลวของโครงข่ายโทรคมนาคม ความสามารถของอินโฟซิสในการรวมระบบที่ซื้อเพิ่มมาใหม่และการซื้อกิจการใหม่ หนี้สินที่เกิดจากความเสียหายจากการให้บริการตามสัญญาของอินโฟซิส ความสำเร็จของบริษัทที่อินโฟซิสได้เข้าไปลงทุนเชิงกลยุทธ์ การยกเลิกหรือการหมดอายุของมาตรการสร้างแรงจูงใจทางการคลังของรัฐบาล ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความขัดแย้งในภูมิภาค ข้อจำกัดทางกฎหมายในการเพิ่มทุนหรือการซื้อกิจการภายนอกประเทศอินเดีย และ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของอินโฟซิสและภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอที สำหรับความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของอินโฟซิสได้อธิบายอย่างละเอียดในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งรวมไปถึง Annual Report ใน Form 20-F สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555, และ Form 6-K สำหรับไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2554, 31 ธันวาคม 2554 และ 30 มิถุนายน 2555 สามารถดูรายละเอียดของเอกสารเหล่านี้ได้ที่ http://www.sec.gov อินโฟซิสอาจแก้ไขแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางวาจา ซึ่งรวมไปถึงแถลงการณ์ในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และในรายงานต่อผู้ถือหุ้น อินโฟซิสไม่จำเป็นต้องปรับปรุงเนื้อหาของแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าให้ทันสมัยตลอดเวลาหรือในนามของบริษัท
แหล่งข่าว: อินโฟซิส