ดร.หรงเซียง ซู เผยมนุษยชาติกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะแบบประยุกต์

ลอสแองเจลิส--30 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ - ดร.ซู ปราศรัยครั้งสำคัญเกี่ยวกับศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะ ระหว่างพิธีรับมอบรางวัลระดับนานาชาติ Golden Biatec ประจำปี 2556 ดร.หรงเซียง ซู ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ Golden Biatec ประจำปี 2556 จาก Informal Economic Forum (IEF) Economic Club เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 โดยในพิธีมอบรางวัลซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษ เขาได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกระตุ้นเซลล์ PRC ซึ่งเป็นเซลล์ฟื้นฟูในร่างกายมนุษย์ รวมถึงการเข้าสู่ยุคของศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะแบบนำมาประยุกต์ใช้จริง ดร.ซู เปิดเผยว่าศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะเป็นเครื่องรับประกันสุขภาพของเราและเป็นอุดมคติสูงสุดของการศึกษาชีววิทยาศาสตร์ทั้งในระดับพื้นฐานและระดับประยุกต์ ทั้งนี้ ดร.ซู เป็นผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติคนเดียวที่ได้รับรางวัลในปีนี้ จากการที่เขาได้คิดค้น “วิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการฟื้นฟูอวัยวะและยืดอายุขัยของมนุษย์” รางวัลระดับนานาชาติ Golden Biatec เป็นรางวัลอันทรงเกียรติของยุโรปซึ่งมอบให้กับบุคคลทั่วโลกที่ทำประโยชน์อย่างเอนกอนันต์ให้กับประชาคมโลก ในอดีตมีคนดังมากมายที่เคยได้รับรางวัลนี้ เช่น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย, อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐอเมริกา, อดีตประธานาธิบดีฌาคส์ ชีรัค แห่งฝรั่งเศส, ศจ.มูฮัมหมัด ยูนุส เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2539 และผู้นำระดับโลกอีกมากมาย การที่ดร.ซู ได้รับรางวัลนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า “ศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะแบบประยุกต์” ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการรักษาและยืดอายุขัยของมนุษยชาติ ระหว่างการนำเสนอข้อมูลในหัวข้อ “Initiate Your Body's PRC Regenerative Life” ดร.ซู ได้กล่าวโดยละเอียดเกี่ยวกับการมาถึงของยุคแห่งการนำศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์มาใช้จริง ในพิธีมอบรางวัล ดร.ซู เริ่มต้นกล่าวสุนทรพจน์ด้วยการอธิบายภาพรวมเกี่ยวกับปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งประกาศโดยประธานาธิบสหรัฐทั้งในปัจจุบันและอดีตรวม 4 ท่าน รวมถึงความสำคัญของการเข้าสู่ยุคแห่งการนำศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์มาใช้จริง โดยเขากล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีนิกสันของสหรัฐได้ให้คำมั่นสัญญาไว้เมื่อปี 2514 ว่าจะใช้ยีนในการเอาชนะมะเร็ง หลังผ่านการศึกษาและการพิสูจน์มานานหลายสิบปี การเดินทางครั้งนี้ก็สิ้นสุดลงในวันที่ 21 มีนาคม 2556 เมื่อศจ.วัตสัน ผู้เป็น “บิดาแห่งยีน” ได้ประกาศว่าการศึกษาเกี่ยวกับยีนบำบัดไม่มีประโยชน์อันใด ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นจุดสิ้นสุดของยุคแห่งการนำยีนมาใช้จริง ขณะที่ในปี 2531 รัฐบาลจีนได้เริ่มโปรโมทเทคโนโลยีฟื้นฟูผิวหนังของดร.ซู ด้วยการรับรองและสนับสนุนเทคโนโลยีฟื้นฟูและวิธีการรักษาแผลไหม้ (MEBT/MEBO) ของดร.ซู ให้กลายเป็นการรักษาแบบใหม่ในระดับชาติ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคระดับประเทศครั้งยิ่งใหญ่ ในปี 2533 ประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ เล็งเห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีฟื้นฟูผิวไหม้ของดร.ซู และสั่งให้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในสหรัฐ จากนั้นในปี 2551 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ผนวกรวมการศึกษา “การเปลี่ยน somatic cell เป็น embryonic stem cell” เข้าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางจริยธรรมของการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์จากตัวอ่อนของคน ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีที่ดร.ซู จดสิทธิบัตรไว้แล้ว นั่นคือ “การเปลี่ยน somatic cell เป็นสเต็มเซลล์ซึ่งฟื้นฟูเนื้อเยื่อและอวัยวะ” ดร.ซู กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์บางคนที่สร้างสเต็มเซลล์จริงๆขึ้นมาไม่ได้ ได้อ้างว่า pluripotent stem cell ปลอม เป็น pluripotent stem cell แท้ ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงและก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นการทำลายยุคของการศึกษา embryonic stem cell ที่ริเริ่มขึ้นครั้งแรกภายใต้รัฐบาลบุช เพราะมีการกำหนดวัตถุประสงค์ผิดๆในการศึกษาสเต็มเซลล์ สำหรับในปีนี้นั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ได้สนับสนุนการศึกษายาต่างๆสำหรับ “ฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะที่จดสิทธิบัตรโดยดร.หรงเซียง ซู เช่นกัน ประธานาธิบดีโอบามาได้ผลักดันการพัฒนาชีววิทยาศาสตร์ในสหรัฐไปสู่ยุคของการนำศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมาใช้จริง ขณะเดียวกัน Institute of Applied Science for Human Regeneration and Rejuvenation (IASHRR) ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ณ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อยกระดับการศึกษาศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมนุษย์ในระดับอุดมศึกษา ทั้งนี้ ในบรรดาเทคโนโลยีฟื้นฟูอวัยวะทั้งหมดของดร.ซู นั้น เทคโนโลยีประยุกต์สำหรับฟื้นฟูผิวหนังได้ถูกนำไปใช้ใน 73 ประเทศ มานานถึง 25 ปีแล้ว ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ดร.ซู ได้ให้เวลากับการรายงานผลการคิดค้นทางวิทยาศาสตร์และผลการพิสูจน์เซลล์ PRC ซึ่งเป็นเซลล์ฟื้นฟูในร่างกายมนุษย์ที่มีมาแต่กำเนิด รวมถึงการทำงานของเซลล์ดังกล่าว เนื้อหาที่กล่าวถึงครอบคลุมตั้งแต่ผลการฟื้นฟูผิวก่อนปี 2527 ไปจนถึงการถอดรหัสกระบวนการฟื้นฟูผิวในแหล่งกำเนิด สุดท้ายคือความสำเร็จของการฟื้นฟูและทำให้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายกลับสู่สภาพเดิม ดร.ซู แสดงให้เห็นถึงการทำงานของเซลล์ PRC ในร่างกายมนุษย์ทั้งจากการทดลองในร่างกายและในหลอดทดลอง พร้อมกับพิสูจน์คุณสมบัติของเซลล์ PRC ในการเปลี่ยนเป็นสเต็มเซลล์และก่อตัวเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ซึ่งหมายความว่า อวัยวะต่างๆในร่างกายมนุษย์สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยผ่านการทำงานของเซลล์ PRC ที่ร่างกายมีมาแต่กำเนิด หากมีการเสริมสารอาหารตามธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นและหล่อเลี้ยงการทำงานของเซลล์ PRC เข้าไปในอาหารที่กินทุกวัน ร่างกายมนุษย์ก็สามารถฟื้นฟูและทำให้อวัยวะต่างๆกลับสู่สภาพเดิมได้ด้วยตัวเอง ดร.ซู แสดงผลลัพธ์มากมายจากการที่ร่างกายของมนุษย์ใช้เซลล์ PRC ของตัวเองในการฟื้นฟูและทำให้อวัยวะกลับสู่สภาพเดิม แผลต่างๆตามผิวหนังสามารถรักษาได้ด้วยการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวในแหล่งกำเนิด ส่วนอวัยวะภายในสามารถฟื้นฟูและทำให้กลับสู่สภาพเดิมได้ด้วยการกระตุ้นให้เซลล์ PRC ทำงาน ตัวอย่างเช่น คนอายุ 40-50 ปี จะดูเด็กกว่าอายุจริง 5 ปีหลังฟื้นฟูมานาน 4 ปี คนอายุ 50-60 ปี จะดูเด็กกว่าอายุจริง 6 ปีหลังฟื้นฟูมานาน 5 ปี คนอายุ 60-70 ปี จะดูเด็กกว่าอายุจริง 7 ปีหลังฟื้นฟูมานาน 6 ปี คนอายุ 70-80 ปี จะดูเด็กกว่าอายุจริง 12 ปีหลังฟื้นฟูมานาน 6 ปี คนอายุ 80-100 ปี จะดูเด็กกว่าอายุจริง 14 ปีหลังฟื้นฟูมานาน 7 ปี นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยกลไกของการต่อต้านและป้องกันมะเร็ง (ในปี 2546 ดร.ซู ได้รับเชิญจากนายแอนโธนี บัคโค ผู้นำพรรคการเมืองในสหรัฐ ให้มาบรรยายในหัวข้อ “regenerative anti-cancer” ต่อคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการต้านมะเร็งในแถบอีสต์โคสต์ของสหรัฐ และเมื่อปี 2547 ดร.ซู ได้อธิบายกลไกของการต้านมะเร็งระหว่างได้รับเชิญไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด การบรรยายทั้งสองครั้งถูกใจบรรดาผู้เชี่ยวชาญมาก) ขณะเดียวกันดร.ซู ได้เรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการต้านมะเร็งทั่วโลกร่วมมือร่วมใจกันรับรองกลไกดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความทุกข์ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ดร.ซู เชื่อว่าหากเซลล์ PRC ในร่างกายมนุษย์ถูกกระตุ้นให้ทำงาน โรคต่างๆที่ยารักษาไม่ได้จะลดจำนวนลงอย่างมาก มนุษยชาติจะมีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง นอกจากนั้นมนุษย์จะมีกำลังวังชามากขึ้นและมีอายุขัยเพิ่มขึ้นอย่างมาก มนุษย์สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร้ขอบเขต โลกของการฟื้นฟูร่างกายมนุษย์จะกลายเป็นความจริงอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ผลงานการคิดค้นและสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อผู้คนทั่วโลก ดร.ซู ได้เรียกร้องให้ผู้นำทุกประเทศยอมรับและใช้เทคโนโลยีต่างๆของเขาโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของแต่ละประเทศเอง นอกจากนั้นดร.ซู ยังเรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์ผู้เกี่ยวข้องและกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะมาร่วมกันสนับสนุนศาสตร์นี้ หากไม่มีเทคโนโลยีใดที่ดีไปกว่าศาสตร์การฟื้นฟูอวัยวะและต้องการใช้ศาสตร์นี้ในการรักษาสุขภาพและยืดอายุขัยของตนเอง ทั้งนี้ ดร.ซู ยึดมั่นในหลักกฎหมายสากลว่าด้วยการใช้ “เทคโนโลยีรักษาชีวิต” เขาจึงเสนอว่าจะมอบผลงานการคิดค้นและสร้างสรรค์ของเขาให้แก่องค์การสหประชาชาติ เพื่อเผยแพร่ให้กับรัฐบาลประเทศต่างๆ เพื่อประโยชน์ของทุกคน ดร.ซู มุ่งหวังที่จะร่วมมือกับรัฐบาลประเทศต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำให้ผู้คนทั่วโลกมีความสุขกับร่างกายที่ฟื้นฟูได้ เกี่ยวกับดร.หรงเซียง ซู ดร.หรงเซียง ซู เป็นผู้คิดค้นและวางรากฐาน “ศาสตร์การฟื้นฟูร่างกายมนุษย์” เขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรการฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งถูกยกให้เป็นประเด็นสำคัญระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี 2556 ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้ค้นพบว่า somatic cell ของมนุษย์สามารถเปลี่ยนเป็น pluripotent stem cell และฟื้นฟูเนื้อเยื่อและอวัยวะได้ และเป็นผู้ค้นพบ Potential Regenerative Cell (PRC) ติดต่อ: เจน เวสต์เกต (Jane Westgate) โทร. 336-209-9276 อีเมล: Jane@westgatecom.com เชอรีล ไรลีย์ (Cheryl Riley) โทร.703-683-1798 อีเมล: cherylrileypr@comcast.net ชมวิดีโอ “ดร.หรงเซียง ซู รับรางวัลระดับนานาชาติ Golden Biatec ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 ที่ลอสแองเจลิส” ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=ZXe2sJMrJcg ชมภาพ “ดร.หรงเซียง ซู (กลาง) รับประกาศนียบัตรและเหรียญรางวัล Golden Biatec ประจำปี 2556” ได้ที่ http://photos.prnewswire.com/prnh/20131029/LA05947-a ชมภาพ “ดร.หรงเซียง ซู นำเสนอข้อมูลในพิธีมอบรางวัล Golden Biatec ประจำปี 2556” ได้ที่ http://photos.prnewswire.com/prnh/20131029/LA05947-b ชมภาพ “ประธานในพิธีมอบรางวัล Golden Biatec ประจำปี 2556: ปีเตอร์ คาซาลอฟสกี ประธาน Informal Economic Forum Economic Club Association ระหว่างปี 2536-2556” ได้ที่ http://photos.prnewswire.com/prnh/20131029/LA05947-c ชมภาพ “ประธานร่วมในพิธีมอบรางวัล Golden Biatec ประจำปี 2556: มิฮอค ปีเตอร์ ประธาน World Chambers Federation (ขวา), ปีเตอร์ คาซาลอฟสกี ประธาน Informal Economic Forum Economic Club Association ระหว่างปี 2536-2556 (กลาง), แจน กาเบรียล ประธานคณะกรรมการ IEF EC (ซ้าย)” ได้ที่ http://photos.prnewswire.com/prnh/20131029/LA05947-d