ซิดนีย์--13 ส.ค.--มีเดียเน็ท อินเตอร์เนชั่นแนล/เอเชียเน็ท
ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารแลนเซ็ตระบุว่า บรรดาผู้ป่วยที่มีอาการปวด อย่างรุนแรงบริเวณหัวใจ หรือที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเนื่องจากโลหิตอุดตันแบบ non Q-wave นั้นเมื่อได้รับการรักษาด้วย roxithromycin ควบคู่ไปกับเวชภัณฑ์ต่อต้านการ อุดตันของเส้นเลือด (antithrombotic) ที่ใช้กันในปัจจุบันแล้ว ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มีอัตรา การตายจากโรคขาดแคลนเลือดในทางเดินโลหิตของหัวใจลดลงมาก รวมทั้งมีระดับการ เกิดของโรคกล้ามเนื้อหัวใจชั้นกลางตาย และระดับการเกิดของอาการปวดบริเวณหัวใจ อย่างรุนแรงและเป็นประจำลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลล่าสุดบ่งบอกว่า ปัจจัยด้านภูมิคุ้มกันโรคและด้านจุลชีววิทยาอาจจะมีบทบาท ในการก่อให้เกิดโรคที่บริเวณไขมันบนผิวหน้าของหลอดเลือด และยังมีบทบาทในการเพิ่ม จำนวนของเซลบนผนังเส้นเลือดที่เสียหายด้วย ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นพื้นฐานของข้อ สันนิษฐานที่ว่า การรักษาด้วย roxithromycin เป็นเวลา 30 วันจะช่วยลดอัตราการ เกิดของโรคขาดแคลนเลือดจากภาวะทางเดินโลหิตอุดตันลงเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยา ที่ใช้หลอกคนไข้
โรคปอดบวม Chlamydia ซึ่งปกติแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในระบบ ทางเดินหายใจนั้น ได้ถูกพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันด้วย หลังจาก ได้มีการตวรจพบเชื้อโรคนี้ในสารสะสมบนผิวหน้าของหลอดเลือดและตรวจพบบทบาทของ เชื้อโรคนี้ที่มีผลต่อการเกิดขึ้นของสารสะสมดังกล่าวอย่างเป็นครั้งคราวในปี 1988
คนไข้ที่มีอาการปวดบริเวณหัวใจเป็นครั้งคราวหรือที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจ ตายเนื่องจากโลหิตอุดตันแบบ non Q-wave ได้ถูกสุ่มแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก จะได้รับ roxithromycin และกลุ่มที่ 2 จะได้รับยาหลอก โดยทั้งสองกลุ่มจะได้รับ ตัวยาในปริมาณ 150 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลาอย่างต่ำสุด 72 ชั่วโมงและอย่าง มากสุด 30 วัน
การศึกษาซึ่งนำโดยดร. เอนริเก้ เกอร์ฟิลเคล ชาวอาร์เจนติน่านี้ ทำกับคนไข้ 202 คนด้วยกัน และได้มีการวัดผลขั้นแรกในวันที่ 31 เพื่อตรวจหาอัตราการเกิดของอาการ 3 อย่าง (การตายจากโรคขาดแคลนเลือดในหัวใจ, อาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย และ อาการขาดแคลนเลือดจากภาวะเส้นโลหิตหัวใจอุดตันอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นประจำ)
ผลสำรวจจากคนไข้ทุกรายได้แสดงให้เห็นว่า มีการลดลงทางสถิติอย่างเห็นได้ ชัดของอาการทั้ง 3 อย่างในกลุ่มคนไข้ที่ได้รับ roxithromycin (P=0.032) ทั้งนี้ อัตราการเกิดของอาการขาดแคลนเลือดในหัวใจอย่างรุนแรงและเป็นประจำ, อาการกล้าม เนื้อหัวใจตาย และอาการตายจากโรคขาดแคลนเลือดในหัวใจนั้นได้ลดลงจากระดับ 5.4%, 2.2 %, และ 2.2 % ตามลำดับในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก สู่ระดับ 1.1 %, 0 % และ 0 % ตามลำดับในกลุ่มที่ได้รับ roxithromycin และไม่มีการสังเกตพบผลข้างเคียงสำคัญในทาง ลบที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยา
ผลการศึกษาขั้นต้นนี้แสดงให้เห็นว่า การรักษาโดยใช้ roxithromycin ซึ่ง เป็นยาปฏิชีวนะ macrolide ของบริษัท Hoechst Marion Roussel นั้น สามารถลด อัตราการเกิดของอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับหัวใจได้
วารสารแลนเซ็ตยังลงบทความชมเชยความเคลื่อนไหวในการพยายามหาปัจจัย เสี่ยงข้างเคียงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจในครั้งนี้เอาไว้ด้วย--จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-กช,จพ/กก-