Understanding China Conference 2020 หนึ่งในเวทีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดที่ทำให้ทั่วโลกได้เรียนรู้เกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของจีน ได้ปิดฉากลงแล้วเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ เมืองกว่างโจว และนับเป็นครั้งที่ 2 ที่กว่างโจวรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมดังกล่าว ส่งผลให้เมืองกว่างโจวเป็นหน้าต่างบานสำคัญที่ฉายภาพเส้นทางใหม่ซึ่งนำพาให้จีนก้าวไปสู่ความทันสมัย
การทำความเข้าใจประเทศจีนนั้น ต้องเริ่มที่การทำความเข้าใจเมืองต่างๆ ของจีนก่อน สำหรับงานประชุมในปีนี้ เมืองกว่างโจวเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผสมผสานกับความมีชีวิตชีวาและแรงขับเคลื่อนใหม่ในฐานะเมืองระดับมหานคร ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นจุดดึงดูดความสนใจในปัจจุบัน โดยมีหลายคนที่คาดหวังถึงประสบการณ์ที่จะได้รับในการเฝ้าดูการพัฒนาของเมืองนี้
ที่งานประชุม คณะผู้แทนทั้งจากทั้งในและต่างประเทศได้พูดถึงการปรับตัวของเมืองกว่างโจวที่สร้างแรงบันดาลใจ ดังจะเห็นได้จากการเชื่อมโยงเข้ากับเซินเจิ้นโดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกัน การผลักดันให้เกิดการพัฒนาเมืองใหม่ที่ครอบคลุมบทบาทความเป็นเมือง เสน่ห์ทางวัฒนธรรม สภาพแวดล้อมด้านการบริการและการทำธุรกิจในระดับโลก ความพยายามในการยกระดับคุณภาพของเมืองในการส่งเสริมเป้าหมายของมณฑลที่จะพัฒนาพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ลร่วมกันในฐานะกลไกหลัก พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของเมืองกว่างโจวในฐานะที่เป็นขั้วความเจริญใหม่ และพื้นที่ทางตอนเหนือที่เป็นภูเขาในฐานะเขตการพัฒนาเชิงนิเวศ
เจ้าหน้าที่ของเมืองกว่างโจวกล่าวว่า เมืองกว่างโจวควรคว้าโอกาสใหม่ๆ ในการพลิกโฉมและยกระดับ ตลอดจนเปลี่ยนแปลงผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากโรคระบาดให้เป็นแรงผลักดันใหม่ๆ ในการพลิกโฉมเศรษฐกิจ เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน
ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อน เมืองกว่างโจว ในฐานะศูนย์กลางทางธุรกิจและการค้าระดับสากล กำลังปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาด้วยการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบ ขอบเขตการพัฒนา และปัจจัยใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนการเติบโต เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ทางการค้าแห่งนี้ยังคงทุ่มเทความกล้าและศักยภาพเพื่อที่จะยกระดับตัวเอง พร้อมทั้งเติมเต็มความสุขและความมั่งคั่งให้กับการดำเนินชีวิตของประชาชนในเมืองไปพร้อมกัน
Li Junru รองประธานบริหารสถาบันยุทธศาสตร์นวัตกรรมและการพัฒนาแห่งประเทศจีน (CIIDS) ตั้งความหวังกับกว่างโจวไว้สูงในระหว่างการประชุม โดยเขาชี้ว่า ในประวัติศาสตร์การฟื้นฟูชาติของจีนนั้น สามารถสืบสาวราวเรื่องไปที่กว่างโจว และการเปลี่ยนแปลงของเมืองสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของประเทศ พร้อมกล่าวเสริมว่า "การเปลี่ยนศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีนไปยังตอนใต้ และความก้าวหน้าในการพัฒนาเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area: GBA) ล้วนแล้วแต่เปิดโอกาสสำหรับการพัฒนาที่มากขึ้น
มุมมองของนาย Li สามารถพิสูจน์ได้ด้วยสถิติทางเศรษฐกิจและความสำเร็จที่แท้จริง โดยข้อมูลช่วงสามไตรมาสแรกของปีแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของนครกว่างโจว ดังสะท้อนจากดัชนีชี้วัดหลายรายการ ซึ่งรวมถึง GDP ระดับภูมิภาคที่พลิกจากติดลบกลับขึ้นมาเป็นบวก โดยเศรษฐกิจกว่างโจวขยายตัว 1.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี และขยายตัวอย่างน่าประทับใจถึง 7.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สาม ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.0% จากไตรมาสสองที่ผ่านมา
"เศรษฐกิจของกว่างโจวกำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการผลิตยังคงปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปกป้องอย่างดี และตัวชี้วัดเศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้นเป็นบวก หรือแตะระดับสูงสุดระดับใหม่นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัส" Feng Jun รองหัวหน้าสำนักงานสถิตินครกว่างโจว กล่าว
"ในฐานะผู้บุกเบิกการปฏิรูปและการเปิดประเทศ นครกว่างโจวเปรียบเสมือนหน้าต่างที่เปิดกว้างเพื่อให้นานาประเทศเข้าใจถึงความพยายามดังกล่าวของจีน ปัจจุบัน เมืองเก่าแก่นับพันปีแห่งนี้กำลังฟื้นฟูตัวเองขึ้นใหม่ และกุญแจดอกสำคัญในการทำความเข้าใจประเทศจีนคือ การทำความเข้าใจว่านครกว่างโจวฟื้นฟูเมืองขึ้นได้อย่างไร" Zheng Yongnian คณบดีสถาบัน Advanced Institute of Global and Contemporary China Studies มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง ในนครเซินเจิ้น กล่าวในที่ประชุม
หลังจากที่รัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาด จีนและเมืองต่างๆ ก็เริ่มกลับมาเฟื่องฟูและคึกคักตามปกติ และในช่วงการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญยิ่งนี้ นครกว่างโจว ซึ่งเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และความมีชีวิตชีวา ก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งเช่นกัน โดยการประชุม Understanding China Conference จะช่วยทำให้ชาวจีนและชาวโลกมีความเข้าใจประเทศนี้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: คณะกรรมการจัดงานประชุม Understanding China Conference 2020 (กว่างโจว)