เมอร์คเพิ่มขีดความสามารถการผลิตในธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ในสหรัฐ

ข่าวทั่วไป Tuesday December 8, 2020 15:29 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

- เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นภายในสิ้นปี 2021 เพื่อตอบสนองความต้องการในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

- การขยายโรงงานในเมืองแดนเวอร์ส รัฐแมสซาชูเซตส์ และเมืองแจฟฟรีย์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐอเมริกา ช่วยสร้างงานใหม่รวมเกือบ 700 ตำแหน่ง

- เม็ดเงินลงทุนของเซกเตอร์ธุรกิจที่ประกาศในปี 2020 มีจำนวนรวมกว่า 350 ล้านยูโร

เมอร์ค (Merck) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ ประกาศขยายฐานการผลิตด้วยการลงทุนรวม 40 ล้านยูโรในโรงงานที่เมืองแดนเวอร์ส รัฐแมสซาชูเซตส์ และเมืองแจฟฟรีย์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐอเมริกา โดยโรงงานเหล่านี้ช่วยป้อนผลิตภัณฑ์สำคัญแก่ลูกค้าในการพัฒนาวิธีบำบัดรักษาเพื่อช่วยชีวิตผู้คน รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ตลอดจนจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ การขยายโรงงานเหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและผลผลิตภายในสิ้นปี 2021 และ 2022 ตามลำดับ และช่วยสร้างงานใหม่ในสายการผลิตเกือบ 700 ตำแหน่ง

"การระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลกได้กระตุ้นความต้องการด้านเทคโนโลยีการคัดกรองไวรัสแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งเราจัดหาให้กับบริษัทมากกว่า 50 แห่งที่ทำงานเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ที่อยู่ระหว่างการทดลอง" คริส รอสส์ รักษาการหัวหน้าแผนก Life Science ที่เมอร์ค กล่าว "การลงทุนเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างฐานการผลิตทั่วโลกของเรา ซึ่งจะทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งช่วยให้ได้วัคซีนและวิธีบำบัดรักษาผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและเร็วขึ้น"

แผนขยายโรงงานจะเพิ่มพื้นที่ 6,000 ตารางเมตรให้กับฐานการประกอบชิ้นส่วนแบบใช้ครั้งเดียวของโรงงานที่เมืองแดนเวอร์ส จากเดิมที่โรงงานมีขนาด 11,000 ตารางเมตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตที่จำเป็นในไลน์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงสินค้าที่ใช้ครั้งเดียวอย่าง Mobius(R) โดยการลงทุนทั้งหมดในแดนเวอร์สมีมูลค่าราว 21 ล้านยูโร ซึ่งจะสร้างงานใหม่ราว 400 ตำแหน่งในปี 2021

ส่วนแผนขยายโรงงานในเมืองแจฟฟรีย์ ประกอบด้วยการเพิ่มพื้นที่อีก 2,300 ตารางเมตร จากเดิมที่มีขนาด 24,000 ตารางเมตร โดยเป็นการเพิ่มสายการผลิตและอุปกรณ์ใหม่ เพื่อรองรับการผลิตเครื่องมือคัดกรองและผลิตภัณฑ์เยื่อบุผิว โดยเฉพาะตัวกรอง Durapore(R), Express(R) และไลน์ผลิตภัณฑ์ Viresolve(R) ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าเทคนิคการรักษาผู้ป่วยจะปราศจากเชื้อโรค และกำจัดการปนเปื้อนของไวรัสสำหรับเทคนิคต่าง ๆ เงินลงทุนทั้งหมดในเมืองแจฟฟรีย์นี้อยู่ที่ประมาณ 18.5 ล้านยูโร โดยคาดว่าจะช่วยสร้างงานใหม่เกือบ 275 ตำแหน่งภายในปี 2022 หลังจากการขยายโรงงานเสร็จสิ้นแล้ว

นอกจากการขยายโรงงานใน 2 รัฐดังกล่าวแล้ว การลงทุนในธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ที่ประกาศในปี 2020 ยังรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถและกำลังการผลิตในเมืองบูคส์ สวิตเซอร์แลนด์, เมืองคาร์ลสบัด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา, เมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา และเมืองดาร์มสตัดต์ เยอรมนี เพื่อขยายฐานการผลิตของบริษัททั่วโลก

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของบริษัทในการตอบสนองโควิด-19 ทั่วโลกได้ที่: https://www.merckgroup.com/en/company/press/press-kits/corona-pandemic.html

ข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์คทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้

เกี่ยวกับ เมอร์ค
เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และวัสดุสมรรถนะสูง พนักงานประมาณ 57,000 คนของบริษัทต่างทุ่มเทในการสร้างความแตกต่างที่ดีต่อชีวิตของผู้คนหลายล้านคนในทุก ๆ วัน ด้วยการนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตที่มีความสุขและยั่งยืนยิ่งขึ้น เมอร์คเป็นทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยีตัดต่อยีน ไปจนถึงการเสาะหากลวิธีใหม่ ๆ ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ท้าทายที่สุด ตลอดจนการคิดค้นอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยในปี 2562 เมอร์คทำยอดขายได้ 1.62 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ

การสำรวจทางวิทยาศาสตร์และการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คือหัวใจหลักในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมอร์ค ทั้งยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเมอร์คนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 ปัจจุบัน ครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมอร์คครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์เมอร์คทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ของเมอร์คดำเนินงานภายใต้ชื่อ อีเอ็มดี เซโรโน ในวงการดูแลสุขภาพ, มิลลิพอร์ซิกมา ในวงการชีววิทยาศาสตร์ และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1358444/Merck_Expansions.jpg


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ