จีนและอินโดนีเซียต่างมีอันดับลดลงในรายงาน ซึ่งบ่งชี้ว่าการทำธุรกิจในทั้งสองประเทศนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะยังคงติดอันดับอยู่ในกลุ่มประเทศที่ทำธุรกิจยากที่สุดก็ตาม ขณะที่ฮ่องกงติดกลุ่มทำธุรกิจง่ายที่สุด
ฮ่องกงยังคงเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำธุรกิจ จากการเปิดเผยในรายงาน Global Business Complexity Index (GBCI) โดย TMF Group บริษัทผู้ให้บริการทางวิชาชีพชั้นนำ
รายงานได้ทำการวิเคราะห์ด้านต่าง ๆ ที่สำคัญต่อการบริหารธุรกิจและการปฏิบัติตามกฎระเบียบใน 77 ประเทศและเขตปกครอง ตั้งแต่เวลาที่ใช้ในการจัดตั้งบริษัท ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษี นโยบายเกี่ยวกับค่าจ้างและสวัสดิการ ไปจนถึงความท้าทายในการเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งโดยรวมแล้วมีการใช้เกณฑ์ต่าง ๆ กว่า 290 รายการเป็นปัจจัยประกอบการพิจารณาจัดอันดับในปีนี้
ฮ่องกงเป็นสถานที่ที่ทำธุรกิจง่ายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เป็นรองเพียงแค่เดนมาร์ก ซึ่งสาเหตุหลักเป็นเพราะการเปิดกว้างแบบไร้พรมแดน และกฎเกณฑ์ที่เรียบง่าย ยกตัวอย่างเช่นในด้านการบัญชี หลักการบัญชีของฮ่องกงมีความสอดคล้องกับมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ หรือ International Financial Reporting Standards (IFRS) อีกปัจจัยหนึ่งคือ การจัดตั้งธุรกิจในฮ่องกงโดยทั่วไปใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เพราะต้องทำเรื่องแจ้งหน่วยงานของรัฐแค่แห่งเดียว ขณะที่การไล่พนักงานออกเพราะทำผลงานไม่ดี ก็สามารถทำได้ค่อนข้างง่าย โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเอื้อต่อการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล เนื่องจากเอกสารนิติบุคคลไม่จำเป็นต้องประทับตราสำคัญเพื่อให้มีผลทางกฎหมาย
สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยรวมนั้น มีทั้งความท้าทายและโอกาสมากมาย จีนเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ทำธุรกิจยากที่สุดในโลกเช่นกัน อย่างไรก็ดี แนวโน้มล่าสุดแสดงให้เห็นว่าข้อเท็จจริงนี้กำลังจะเปลี่ยนไป โดยจีนลดลงจากอันดับที่ 6 ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่อันดับ 12 ในปีนี้ เช่นเดียวกับอินโดนีเซียที่ตกลงจากอันดับที่ 1 มาอยู่ในอันดับที่ 6 หลังจากที่อินโดนีเซียแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นในการเปิดรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ด้วยการออกกฎหมายใหม่เพื่อลดระดับความซับซ้อนในการทำธุรกิจอย่างจริงจัง
ในทางกลับกัน เกาหลีใต้และอินเดียเป็นประเทศที่มีความซับซ้อนในการทำธุรกิจมากที่สุด 20 อันดับแรก ในขณะที่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ล้วนอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดของดัชนี ซึ่งหมายความว่าประเทศเหล่านี้ง่ายสำหรับการทำธุรกิจมากกว่า
การเปิดเผยที่น่าสนใจประการหนึ่งจากรายงานในปีนี้นี้คือไม่มีประเทศใดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่อนุญาตให้ไล่พนักงานออกโดยไม่ระบุเหตุผล ขณะที่เมื่อพิจารณาในระดับโลก ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 20% ในปัจจุบัน เทียบกับ 29% ในปี 2563 ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการระบาดของโควิด-19 และการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองพนักงาน
เปาโล ทาโวลาโต หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ TMF Group กล่าวว่า "ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเต็มไปด้วยความหลากหลายและโอกาส โดยทั่วไปแล้ว ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้พยายามใช้กฎหมายที่เป็นมิตรต่อธุรกิจมากขึ้น ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และทำให้สภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจง่ายยิ่งขึ้น ความท้าทายยังคงมีอยู่มากมายในหลายประเทศ เช่น จีน และ อินโดนีเซีย แต่ผมเชื่อว่าประเทศเหล่านี้นำเสนอโอกาสการลงทุนเพียงพอที่จะดึงดูดบริษัทและนักลงทุนให้เข้าไปทำธุรกิจ"
10 อันดับแรก และ 10 อันดับท้าย
1. บราซิล2. ฝรั่งเศส 3. เม็กซิโก 4. โคลอมเบีย5. ตุรกี6. อินโดนีเซีย7. อาร์เจนตินา8. โบลิเวีย9. คอสตาริกา10. โปแลนด์
68. มอริเชียส69. เอลซัลวาดอร์70. เนเธอร์แลนด์71. สหรัฐอเมริกา72. หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน73. กือราเซา74. ไอร์แลนด์75. หมู่เกาะเคย์แมน76. ฮ่องกง77. เดนมาร์ก
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :Giampaolo Arghittu, Global External Communications Manager, TMF [email protected] เบอร์ตรง: +44-7983-314-989
Daniel Resendes, External Communication Executive, TMF Group,อีเมล: [email protected] โทร: +55-11-978-923-227
เกี่ยวกับ TMF Group
TMF Group มีผู้เชี่ยวชาญ 9,100 คน ประจำสำนักงาน 120 แห่งใน 85 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก เพื่อให้บริการแก่บริษัท สถาบันการเงิน ผู้จัดการสินทรัพย์ ลูกค้าบุคคล และสำนักงานครอบครัว โดยให้บริการด้านบัญชี ภาษี บัญชีเงินเดือน การบริหารกองทุน การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการจัดการธุรกิจ ซึ่งมีความจำเป็นต่อความสำเร็จในการทำธุรกิจทั่วโลก
เรารู้วิธีปลดล็อกการเข้าถึงตลาดที่น่าสนใจที่สุดในโลกได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าตลาดนั้นจะซับซ้อนเพียงใด นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ 60% ของบริษัท Fortune Global 500 และบริษัทจดทะเบียน FTSE 100 และเกือบครึ่งของบริษัทไพรเวทอิควิตี้ชั้นนำ 300 อันดับแรกวางใจร่วมงานกับเรา เรามีรูปแบบการให้บริการทั่วโลกที่พิเศษไม่เหมือนใคร โดยได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทำให้เราสามารถให้บริการครอบคลุมภาคส่วนต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น ตลาดทุน ไพรเวทอิควิตี้ อสังหาริมทรัพย์ เภสัชกรรม พลังงาน และเทคโนโลยี โดยมีผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่คอยให้ความช่วยเหลือ
ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 8% มาตั้งแต่ปี 2556 TMF Group เป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานข้ามพรมแดนเพียงแห่งเดียวหรือหลายแห่ง มีพนักงานเพียงไม่กี่คนหรือหลายพันคน เราพร้อมให้การสนับสนุนทางธุรกิจตามที่ลูกค้าต้องการ เพื่อช่วยขยายธุรกิจ ดำเนินธุรกิจ และช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโต ในขณะที่ยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบท้องถิ่น
TMF Group - เราทำโลกที่ซับซ้อนให้ง่ายขึ้น
www.tmf-group.com