JD.com ผู้นำตลาดค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในจีนและบริษัทแม่ของ JD CENTRAL ได้รับการจัดให้อยู่อันดับที่ 59 ในรายชื่อ Fortune Global 500 ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ส.ค. โดยไต่อันดับขึ้นมาถึง 43 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2563 ทั้งนี้ JD.com ติดอันดับ Fortune Global 500 เป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้วในฐานะ "บริษัทผู้ให้บริการด้านการค้าปลีกและอินเทอร์เน็ต" รายใหญ่ที่สุดของจีน และรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก
ผลงานล่าสุดของ JD.com ได้รับการกล่าวถึงโดย Fortune ว่า "ด้วยฐานลูกค้าเกือบ 500 ล้านคน รายได้ของ JD.com จึงพุ่งทะยานถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แตะระดับ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ใน Q1/2564 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ฝั่งผู้บริโภคชาวจีนที่กลับมากระเตื้องขึ้น หลังผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกทั้งบริษัทยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ยอดนิยม เช่น สตาร์บัคส์ และแบรนด์กีฬาอย่าง Decathlon"
ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา JD.com ได้ปรับอันดับขึ้นมาถึง 307 อันดับในรายชื่อดังกล่าว จากอันดับที่ 366 ในการติดอันดับครั้งแรกเมื่อปี 2559 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของโมเดลธุรกิจของ JD ที่มีพื้นฐานมาจากความสามารถด้านห่วงโซ่อุปทานและการประหยัดต่อขนาด ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนต่อเนื่องนานหลายปี
บริษัทพลิกโฉมจากแพลตฟอร์มค้าปลีกอันดับต้นๆ จนกลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีห่วงโซ่อุปทานและการบริการ ทั้งยังมีกิจการในหลายแวดวงธุรกิจ ตั้งแต่การค้าปลีก, เทคโนโลยี, โลจิสติกส์, สุขภาพ, ประกันภัย, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ผลิตภัณฑ์และบริการระดับอุตสาหกรรม ไปจนถึงธุรกิจในต่างประเทศ
ในปี 2561 บริษัทจับมือกับเซ็นทรัล กรุ๊ปเปิดตัว JD CENTRAL เพื่อขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้