สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต หรือสถาบัน FII ประกาศรายชื่อพันธมิตร ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรชั้นนำระดับโลกจากภาคธุรกิจ วิชาการ และนโยบายสาธารณะ
องค์กรชั้นนำระดับโลกจากภาคธุรกิจ วิชาการ และนโยบายสาธารณะ ต่างสนับสนุนโครงการส่งเสริมการวิจัย การลงทุน และเวที เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาที่เท่าเทียม การลงทุนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม และการเร่งนำเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึง AI มาใช้งาน รวมถึงผลกระทบที่เทคโนโลยีเหล่านี้มีต่อการศึกษาและสุขภาพ
กิจกรรมในปีนี้จะมีขึ้นเป็นเวลา 3 วัน โดยมุ่งหารือเกี่ยวกับปัญหาท้าทายที่มนุษยชาติเผชิญ ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงริยาด ระหว่างวันที่ 24-26 ตุลาคม ระหว่างงานประชุม FII ครั้งที่ 7 ผู้แทนกว่าหกพันคน ซึ่งรวมถึงผู้นำ รัฐมนตรี ซีอีโอ นักลงทุน ผู้ก่อตั้ง และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะทั่วโลก จะเข้าร่วมเวทีที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกนี้
พันธมิตรของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต สำหรับงานปี 2566 นี้แข็งแกร่งกว่าที่เคย
นอกเหนือจาก 'พันธมิตรผู้ก่อตั้ง' อย่างกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะแห่งซาอุดีอาระเบีย (PIF) และ 'พันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์' อย่างกระทรวงการลงทุนของซาอุดิอาระเบียแล้ว ยังมีกลุ่ม 'พันธมิตรเชิงกลยุทธ์' 23 รายสนับสนุนโครงการ ความคิดริเริ่ม และภารกิจที่กำลังดำเนินอยู่ของสถาบัน FII ตลอดทั้งปีด้วย
อารัมโก ( Aramco), ดิริยาห์ (Diriyah), อีมาร์ (Emaar), จีเอฟเอช (GFH), เอชเอสบีซี เอสเอบี (HSBC SAB), เคเอเอฟดี (KAFD), มาอาเดน (Ma'aden), นิอุม (NEOM), นิว มูรับบา (New Murabba), เป๊ปซี่โค (PepsiCo), เรด ซี โกลบอล (Red Sea Global), ริยาด แบงก์ (Riyad Bank), โรเชน (ROSHN),ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla), ซาบิก (Sabic), ซานาบิล อินเวสต์เมนต์ส (Sanabil Investments),ซาอุดี อิเล็กทริซิตี คอมปะนี (Saudi Electricity Company), เอสเอนบี (SNB),ซอฟต์แบงก์ วิชัน ฟันด์ (SoftBank Vision Fund), สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered), สเตต สตรีท (State Street),เอสทีซี (stc), ทิคาห์ (THIQAH) และวิชัน อินเวสต์ (Vision Invest) ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของสถาบัน FII และโครงการต่าง ๆ
พันธมิตรงานประชุม FII ครั้งที่ 7 ประกอบด้วย ดร. สุไลมาน อัลฮาบิบ (Sulaiman Alhabib) และสายการบินซาอุเดีย (SAUDIA)
ข้อมูลเชิงลึก การคิด และการอภิปรายกลุ่มอย่างตรงประเด็น ได้รับการสนับสนุนโดย 'พันธมิตรด้านความรู้' จากบริษัทที่ปรึกษา มหาวิทยาลัย และสถาบันชั้นนำ ทั้งเอคเซนเชอร์ (Accenture), เบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company), บีซีจี (BCG), ดีลอยท์ (Deloitte), อีวาย (EY),มูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation), กาวี (Gavi), เดอะ โกลบอล ฟันด์ (The Global Fund), เคิร์นนี (Kearny), เคพีเอ็มจี (KPMG), แมคคินซีย์ (McKinsey), เนเจอร์ (Nature), สตราทิจีแอนด์ (Strategy&) และยูนิเซฟ (UNICEF)
ส่วน 'พันธมิตรด้านวิชาการ' ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคิงอับดุลเลาะห์ (KAUST) และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จะมีส่วนร่วมในการอภิปรายและในโครงการตลอดทั้งปีของสถาบัน FII
ริชาร์ด แอตเทียส (Richard Attias) ซีอีโอของสถาบัน FII กล่าวว่า
"พันธมิตรของเราเป็นสิ่งที่ทำให้ชุมชนสถาบัน FII มีอิทธิพลอย่างมาก ทุกปีพันธมิตรของเราจะมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ เรามีภูมิใจที่มีพันธมิตรจากองค์กร มหาวิทยาลัย และสถาบันชั้นนำระดับโลก 42 แห่ง พันธมิตรของเราสะท้อนให้เห็นถึงการรวมตัวกันอย่างไม่ธรรมดาของผู้นำที่มีความคิดและจิตใจที่ยอดเยี่ยม และสถาบันฯ กำลังก้าวไปสู่วาระเดียวของเราร่วมกับชุมชน ได้แก่ การสร้างผลกระทบต่อมนุษยชาติ"
เกี่ยวกับสถาบัน FII
สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต หรือสถาบัน FII คือมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและมีเครื่องมือการลงทุนและมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือการสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อมนุษยชาติ เราดำเนินงานอย่างครอบคลุมในระดับโลก เราส่งเสริมผู้มีไอเดียดี ๆ จากทั่วโลกและเปลี่ยนไอเดียเหล่านั้นให้เป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงในสี่ส่วนสำคัญด้วยกัน ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิทยาการหุ่นยนต์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1811613/FII_Institute_Logo.jpg