ฉบับที่ 7 /2554
ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนเมษายน 2554 ขยายตัวต่อเนื่องตามการลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายของภาครัฐ รายได้เกษตรกรขยายตัวดี การท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อย การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวในเดือนนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังคงมีแรงกดดันด้านราคาต่อเนื่อง การว่างงานอยู่ในระดับต่ำ เงินฝากและเงินให้สินเชื่อยังคงขยายตัวดี
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือ มีดังนี้
อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวดีแต่ในอัตราชะลอลง โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว ร้อยละ 8.6 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 9.2 ในเดือนก่อน จากยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์และยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างชะลอลง แต่การขออนุญาตพื้นที่ก่อสร้างในเขตเทศบาลยังคงเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะประเภทเพื่อการพาณิชย์ จากการขยายสาขาห้างค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่จากส่วนกลางมายังภูมิภาคการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐขยายตัวร้อยละ 26.4 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ตามงบอุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในงบประจำและงบลงทุนที่ดินและสิ่งก่อสร้าง สำหรับดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งจากความระมัดระวังในการใช้จ่าย แต่เครื่องชี้ในหมวดยานยนต์ยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี
การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือมีมูลค่า 290.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกเลนส์กล้องถ่ายรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 118.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนจากการนำเข้าสินค้าประเภทวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อส่งออก ส่วนการค้าชายแดน การส่งออกขยายตัวร้อยละ 6.6 และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.3 เป็นการส่งออก/นำเข้าจากลาวและจีนตอนใต้
ภาคการผลิตขยายตัวทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม โดยผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.9 ตามการเพิ่มขึ้นของข้าวนาปรังที่มีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก ผลผลิตอ้อย และกระเทียม เพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่เพาะปลูก ด้านราคาพืชผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้รายได้เกษตรกรเพิ่มร้อยละ 6.6 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12.0 ตามการส่งออกอาหารและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทส่วนประกอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในขณะที่การผลิตในหมวดฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟยังคงหดตัวต่อเนื่อง ด้านการท่องเที่ยวขยายตัวดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง และปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากเทศกาลสงกรานต์รวมทั้งการจัดประชุมสัมมนาของไทยและต่างประเทศ ด้านดัชนีการค้าขยายตัวร้อยละ 7.0 เพิ่มขึ้นในทุกหมวดโดยเฉพาะ หมวดยานยนต์ และค้าส่ง
เสถียรภาพในประเทศยังคงมีแรงกดดันด้านราคาต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน เร่งตัวจากร้อยละ 3.7 ในเดือนก่อน ตามราคาอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ทั้งราคาอาหารสด ผักและผลไม้ กอปรกับราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเภทอื่นเพิ่มขึ้นด้วย ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 เพิ่มเล็กน้อยจากเดือนก่อน
การว่างงาน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 อัตราการว่างงานต่ำอยู่ที่ร้อยละ 0.7 สะท้อนภาวะการจ้างงานตึงตัว โดยภาคเหนือมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 ตามการจ้างงานในสาขาการค้าปลีก/ส่ง การก่อสร้าง โรงแรม/ภัตตาคาร อนึ่งจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ณ สิ้นเดือนเมษายน 2554 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน
เงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 มีจำนวน 431,807 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.3 จากการระดมเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ ด้านเงินให้สินเชื่อมีจำนวน 354,503 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.9 ที่สำคัญเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและเช่าซื้อรถยนต์ สำหรับสัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 82.1
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : นุกุล มุกลีมาศ
โทร. 0-5393-1142
e-mail : [email protected]
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย