ฉบับที่ 9/2554
ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือเดือนมิถุนายน 2554 โดยรวมยังคงขยายตัวจากระยะเดียวกัน ปีก่อน จากการขยายตัวของรายได้เกษตรกร การท่องเที่ยว การส่งออก และการใช้จ่ายของภาครัฐ ในขณะที่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวค่อนข้างมาก และการบริโภคภาคเอกชนลดลงเล็กน้อย ทางด้านเสถียรภาพภายในประเทศยังคงมีแรงกดดันด้านราคาต่อเนื่อง ส่วนเงินฝากและเงินให้สินเชื่อขยายตัวดี
อุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัว ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 1.6 จากระยะเดียวกัน ปีก่อน ชะลอลงจากร้อยละ 4.7 ในเดือนก่อนตามการชะลอตัวของงานก่อสร้างจากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง ใน ขณะที่พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลจังหวัดหลักทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวดี สำหรับภาครัฐยังมีการกระตุ้นการใช้จ่ายต่อเนื่องสะท้อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่ขยายตัวร้อยละ 5.9 ตามการเบิกจ่ายงบลงทุนในหมวดที่ดินและสิ่งก่อสร้างเป็นสำคัญ ส่วนดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.8 เป็นผลจากปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์ที่ลดลง เพราะผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าจากปัญหา ขาดแคลนชิ้นส่วนเป็นสำคัญ ในขณะที่การบริโภคสินค้าคงทนชะลอตัว แต่การบริโภคสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันขยายตัวดี
การส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือมีมูลค่า 315.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปยังประเทศจีนเป็นสำคัญ ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 139.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือขยายตัวร้อยละ 21.0 จากการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้าขั้นกลาง และสินค้าทุน ส่วนการค้าชายแดน การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ขณะที่การนำเข้าลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนร้อยละ 3.0 ตามการนำเข้าจากพม่าที่ลดลง
ภาคการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 17.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน ที่สำคัญเป็น การลดลงของการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งส่วนประกอบฮาร์ดดิสไดร์ฟและแผงวงจรรวม ในขณะที่การผลิตเครื่องดื่มลดลงจากสต็อกที่อยู่ในระดับสูง และการผลิตอาหารแปรรูปที่ชะลอลง ด้านรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.5 ตามผลผลิตพืชสำคัญ โดยเฉพาะข้าวนาปรังตามการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตต่อไร่ ด้านราคาพืชผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 จากราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรังและลิ้นจี่ การท่องเที่ยวปรับดีขึ้นต่อเนื่อง จากเดือนก่อนตามกิจกรรมส่งเสริมการขายของภาครัฐและเอกชน ขณะที่ดัชนีการค้าหดตัวร้อยละ 0.5 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามหมวดค้าส่งและหมวดค้าปลีก ในขณะที่หมวดยานยนต์ชะลอตัวเล็กน้อย
เสถียรภาพในประเทศยังคงมีแรงกดดันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 4.93 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามการปรับเพิ่มขึ้นของหมวดพลังงานและราคาสินค้าในหมวดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ส่วนราคาผักและผลไม้ปรับลดลง อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.48 ตามการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังราคาสินค้าอื่นๆ อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูป ในขณะที่ตลาดแรงงานตึงตัวต่อเนื่องและรุนแรงมากสะท้อนจากอัตราการว่างงานเดือนพฤษภาคม 2554 อยู่ในระดับต่ำเพียงร้อยละ 0.3
เงินฝากของสาขาธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2554 ขยายตัวร้อยละ 7.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าจากการถอนเงินฝากประจำที่ครบกำหนดเพื่อนำไปลงทุนในตราสารหนี้ ขณะที่เงินฝากออมทรัพย์ของผู้ประกอบการสำหรับใช้หมุนเวียนในธุรกิจยังขยายตัวดี ทางด้านสินเชื่อขยายตัว ร้อยละ 13.8 ตามความต้องการใช้สินเชื่อของภาคธุรกิจ สำหรับสัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 83.7
ไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงตามการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอลง การระมัดระวังการใช้จ่ายของครัวเรือนจากราคาสินค้าสูงขึ้น ในขณะที่รายได้ของเกษตรกรชะลอลง ทางด้านการผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวจากการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจยังมีแรงขับเคลื่อนจากแรงกระตุ้นของภาครัฐ ภาวะการท่องเที่ยว และการส่งออก รวมถึงภาคการเงินจากเงินให้สินเชื่อและเงินฝากที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี สำหรับเสถียรภาพในประเทศมีแรงกดดันด้านราคาและตลาดแรงงานตึงตัวต่อเนื่อง
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : จารุมาส ปาละรัตน์
โทร. 0-5393-1161 e-mail : [email protected]
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย