ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ ธ.พาณิชย์ลงทุนในตราสารที่มีหนี้เป็นหลักประกัน รายงานข่าวจาก ธปท. เปิดเผยว่า
ธปท. ได้ออกประกาศฉบับใหม่ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ ธ.พาณิชย์ลงทุนในตราสารที่มีหนี้เป็นหลักประกัน (Collateralized Debt
Obligation : CDO) เพื่อให้ ธ.พาณิชย์ตระหนักถึงการมีระบบบริหารความเสี่ยงเพื่อรองรับการทำธุรกรรม CDO อย่างรัดกุม โดยให้ธนาคารแต่
ละแห่งที่ลงทุนบันทึกบัญชีและการประเมินมูลค่ายุติธรรมของธุรกรรมดังกล่าวให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากล โดยหากขาดทุนให้นำไปหักจาก
เงินทุนของธนาคาร ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้จะมีผลทันทีและเริ่มรายงานในวันที่ 1 ม.ค.51 เป็นต้นไป ส่วนงวดบัญชี 6 เดือนย้อนหลังที่สิ้นสุดในวันที่
31 ธ.ค.50 ให้ ธ.พาณิชย์เปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมและผลกระทบที่จะมีต่องบการเงินและเงินกองทุนในหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วย
สำหรับสาระในประกาศฉบับดังกล่าวจะเน้นเรื่องของความเพียงพอของเงินกองทุนที่จะรองรับความเสี่ยง โดย ธ.พาณิชย์จะต้องมีเงินกองทุนหลังจาก
หักด้วยผลขาดทุนของการประเมินราคายุติธรรมของธุรกรรม CDO ไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 8.5 จึงจะสามารถทำธุรกรรมดังกล่าว
เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การประเมินราคาดังกล่าวต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยหากมีเงินลงทุนในธุรกรรม CDO เกินกว่าร้อยละ 1 ของสินทรัพย์รวม จะต้อง
คำนวณราคาทุกสิ้นวัน แต่หากน้อยกว่านั้นให้ทำอย่างน้อยทุกสิ้นเดือน นอกจากนี้ ธ.พาณิชย์จะต้องจัดประเภทเงินลงทุน การบันทึกบัญชี และการ
ประเมินมูลค่ายุติธรรมสำหรับธุรกรรม CDO ตามมาตรฐานบัญชีสากลหรือ IAS39 แทนมาตรฐานการบัญชีไทย เพราะมีความเข้มงวดกว่า (โพสต์ทูเดย์,
กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
2. ธปท. ออกเกณฑ์ควบคุมเงินฝากและเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับอนุพันธ์ทางการเงินแฝง นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผอส.ฝ่ายนโยบาย
ความเสี่ยง ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. ได้ออกหนังสือแจ้ง ธ.พาณิชย์เรื่องการทำธุรกรรมเงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่มีอนุพันธ์ทางการเงินแฝง ให้พิจารณา
ความเสี่ยงเพื่อรองรับความผันผวนของตลาดเงินและธุรกรรมเหล่านี้ให้มากขึ้น ทั้งนี้ ธุรกรรมเงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่มีอนุพันธ์แฝงหมายถึง ธุรกรรม
เงินฝากหรือเงินกู้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปรที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ไม่ใช่อัตราดอกเบี้ยปกติ ทั้งที่อิงกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่าง
ประเทศ ราคาของกลุ่มหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยน ดัชนีทางการเงิน หรือตัวแปรอื่น ๆ นอกจากนี้ ยัง
รวมถึงธุรกรรมเงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่ให้สิทธิคู่สัญญาในการชำระคืนหรือรับชำระคืนเงินต้นหรือผลตอบแทนเป็นตราสารหนี้ หรือให้ผู้รับฝากในการขาย
หรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือผู้ฝากในการซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสกุลเงินและอัตราที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า และธุรกรรม
เงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่ให้สิทธิผู้รับฝากหรือกู้ยืมที่จะขยายระยะเวลาหรือไถ่ถอนก่อนครบกำหนดตามที่ตกลงไว้ (โพสต์ทูเดย์)
3. บีโอไอปรับเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ไม่เน้นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมากและเทคโนโลยีต่ำ นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการ
สำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในปี 51 จะปรับทิศทางการส่งเสริมการลงทุนใหม่โดยจะไม่เน้นให้การส่งเสริม
อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมากและใช้เทคโนโลยีต่ำเหมือนที่ผ่านมา เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอและอุตสาหกรรมฟอกย้อม แต่จะเน้นผลักดันไปที่อุตสาหกรรม
ที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น เช่น อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ โครงการลงทุนต่อเนื่องที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรม
ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมพื้นฐานต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยเกิดการปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถ
ในการแข่งขัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน โดยเบื้องต้นบีโอไอจะมีการกำหนดมาตรฐานเครื่องจักรเป็นหลักเกณฑ์การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนด้วย
คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จและประกาศใช้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ สำหรับในปี 50 ประเมินว่าจะมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนประมาณ
5.0 — 5.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 49 ประมาณร้อยละ 10 เนื่องจากเฉพาะในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูง
ถึง 4.98 แสนล้านบาท อันเป็นผลจากการเข้ามาลงทุนของอุตสาหกรรมหลักหลายตัว โดยเฉพาะกิจการด้านยานยนต์และพลังงาน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็น
ผลดีต่อไปยังปีหน้าด้วย (มติชน, ไทยรัฐ, เดลินิวส์)
4. ธ.กสิกรไทยเปิดจองพันธบัตรออมทรัพย์กองทุนฟื้นฟูฯ นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารธุรกิจตลาดทุน ธ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า
ธนาคารจะเปิดรับจองพันธบัตรออมทรัพย์กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่ ก.คลังค้ำประกัน ปี งปม.51 มูลค่ารวม 8 หมื่นล้านบาท โดย
พันธบัตรฯ อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.20 กำหนดชำระคืนเงินต้นวันที่ 30 พ.ย.52 และพันธบัตรฯ อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.65
กำหนดชำระคืนเงินต้นวันที่ 30 พ.ย.54 จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง คือ วันที่ 30 พ.ค. และ 30 พ.ย. ของทุกปี สำหรับราคาจำหน่ายพันธบัตร
ดังกล่าวอยู่ที่หน่วยละ 10,000 บาท ผู้มีสิทธิ์ซื้อ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร
สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 50,000 บาท และทวีคูณของ 10,000 บาท โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อราย ตั้งแต่วันที่ 22 — 29 พ.ย.50 (ผู้จัดการ
รายวัน, โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ประธานกลุ่ม G10 เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง รายงานจาก Cape Town เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 50 นาย J
ean-Claude Trichet ประธานกลุ่ม G10 เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ธ.กลางต่างๆทั่วโลกต่างเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความ
เสี่ยง คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และโดยภาพรวมความเสี่ยงอยู่ในช่วงขาลง นอกจากนั้นเขายังกล่าวเตือนเรื่องความเสี่ยง
ที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ราคาสินค้าและอาหาร ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรานั้น Trichet กล่าวว่ามีการเคลื่อนไหวที่
เกินกว่ามูลค่าที่แท้จริง และไม่เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งเหมือนกับที่เขาได้เคยกล่าวไว้ในการประชุมกลุ่ม G7 เมื่อเดือน ต.ค. รวมทั้งวิกฤติสิน
เชื่อที่เกิดจากสินเชื่อด้อยคุณภาพในภาคอสังหาริมทรัพย์ของ สรอ. ส่งผลกระทบต่อตลาดและเป็นปัญหามานับตั้งแต่เดือน ส.ค. ทำให้ ธพ.ต่างๆทั่ว
โลกได้รับผลกระทบดังกล่าวและส่งผลเสียต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย (รอยเตอร์)
2. ความเชื่อมั่นของผู้รับเหมาก่อสร้างใน สรอ.ในเดือน พ.ย.50 อยู่ในระดับเดียวกับเดือนก่อนหน้า รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 19
พ.ย.50 สมาคมผู้รับเหมาก่อสร้างแห่งชาติของ สรอ.หรือ NAHB รายงานตัวเลขเบื้องต้นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้รับเหมาก่อสร้างใน สรอ.คงที่
อยู่ที่ระดับ 19 ในเดือน พ.ย.50 เท่ากับเดือนก่อน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีดังกล่าวในเดือน ม.ค.28 และต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของ
ระดับสูงสุดในปีนี้ซึ่งอยู่ที่ 39 เมื่อเดือน ก.พ.50 ที่ผ่านมา และนับเป็นการลดลงต่อเนื่องของดัชนีดังกล่าวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน โดยผู้รับเหมาส่วน
ใหญ่เชื่อว่าตลาดบ้านใน สรอ.จะเริ่มฟื้นตัวอย่างเร็วในกลางปีหน้า ทั้งนี้ ยอดขายบ้านลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 42 โดย
นอกจากจะต้องแย่งตลาดกับบ้านรอการขายของสถาบันการเงินที่ยึดจากลูกหนี้แล้ว การอนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านยังเข้มงวดขึ้นทำให้กำลังซื้อในตลาด
หดหายไป ส่งผลให้ปริมาณบ้านค้างสต็อกที่ยังขายไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แม้ว่าจะมีการลดราคาและสร้างแรงจูงใจการซื้อ
แล้วก็ตาม สอดคล้องกับตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ของรัฐบาลที่ลดลงมาอยู่ที่ 1.191 ล้านหน่วยต่อปีในเดือน ก.ย.50 ลดลงร้อยละ 42 จากปี 48 ซึ่ง
มีจำนวน 2.07 ล้านหน่วย (รอยเตอร์)
3. คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลเซียในเดือน ต.ค.50 จะเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ร้อยละ 2.0 รายงานจากกัวลาลัมเปอร์
เมื่อ 19 พ.ย.50 ผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลเซียในเดือน ต.ค.50 จะเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 8 เดือนที่
ร้อยละ 2.0 เทียบกับเดือน ก.ย. และ ส.ค.50 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 และ 1.9 ตามลำดับ ทั้งนี้ มีสาเหตุสำคัญจากราคาอาหารเพิ่มขึ้น และความ
ต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมในช่วงเดือน ต.ค. ส่งผลให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นในระหว่างเดือนดังกล่าว อย่างไร
ก็ตาม ภาวะเงินเฟ้อของมาเลเซียต่ำกว่าร้อยละ 3 ซึ่งระดับที่ได้เห็นเมื่อปลายปีที่แล้วและต้นปีนี้ ขณะที่หัวหน้านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในระยะยาว
แล้วอัตราเงินเฟ้อเทียบต่อปีจะอยู่ที่ร้อยละ 3.8 โดยในปี 50 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่ ธ.กลางมาเลเซียประมาณการไว้ว่า
จะอยู่ระหว่างร้อยละ 2 — 2.5 อนึ่ง ผลสำรวจนักวิเคราะห์ 12 ใน 15 คนเห็นว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธ.กลาง
มาเลเซียในวันที่ 26 พ.ย.ที่จะถึงนี้จะคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม แม้ว่าการส่งออกของมาเลเซียและมุมมองภาวะเศรษฐกิจโลกจะ
ชะลอตัวก็ตาม (รอยเตอร์)
4. อัตราส่วนการจัดตั้งธุรกิจใหม่ต่อการเลิกธุรกิจของเกาหลีใต้ในเดือน ต.ค.50 ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน รายงานจากโซลเมื่อ 19
พ.ย.50 ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า อัตราส่วนธุรกิจใหม่ต่อการเลิกธุรกิจของเกาหลีใต้ในเดือน ต.ค.50 ต่ำสุดในรอบ 13 เดือนที่ระดับ 28.0
จากระดับ 36.4 ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากจำนวนบริษัทที่เลิกกิจการขยายตัวสูงกว่าจำนวนบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ และเป็นอัตราส่วนต่ำสุดนับตั้งแต่
เดือน ก.ย.49 ซึ่งตัวเลขอยู่ที่ระดับ 28.0 นอกจากนี้ ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยอัตราส่วนหนี้สินที่ผิดนัดชำระ ซึ่งสะท้อนสัดส่วนของหนี้สินที่ผิดนัด
ชำระต่อหนี้สินทางการค้าและ พธบ.ที่ออกเพื่อการชำระหนี้ โดยรวมในระบบการชำระเงิน ว่า เพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.03 จากระดับ 0.02 ในเดือนก่อน
หน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 พ.ย. 50 19 พ.ย. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 33.860 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 33.6477/33.9745 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.38313 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 831.14/16.06 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 12,450/12,550 12,600/12,700 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 86.77 85.12 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 32.49*/28.94** 32.49*/28.94** 26.49/23.34 ปตท.
*ปรับเพิ่มเมื่อ 17 พ.ย. 50 ** ปรับเพิ่มเมื่อ 14 พ.ย. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ ธ.พาณิชย์ลงทุนในตราสารที่มีหนี้เป็นหลักประกัน รายงานข่าวจาก ธปท. เปิดเผยว่า
ธปท. ได้ออกประกาศฉบับใหม่ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ ธ.พาณิชย์ลงทุนในตราสารที่มีหนี้เป็นหลักประกัน (Collateralized Debt
Obligation : CDO) เพื่อให้ ธ.พาณิชย์ตระหนักถึงการมีระบบบริหารความเสี่ยงเพื่อรองรับการทำธุรกรรม CDO อย่างรัดกุม โดยให้ธนาคารแต่
ละแห่งที่ลงทุนบันทึกบัญชีและการประเมินมูลค่ายุติธรรมของธุรกรรมดังกล่าวให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากล โดยหากขาดทุนให้นำไปหักจาก
เงินทุนของธนาคาร ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้จะมีผลทันทีและเริ่มรายงานในวันที่ 1 ม.ค.51 เป็นต้นไป ส่วนงวดบัญชี 6 เดือนย้อนหลังที่สิ้นสุดในวันที่
31 ธ.ค.50 ให้ ธ.พาณิชย์เปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมและผลกระทบที่จะมีต่องบการเงินและเงินกองทุนในหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วย
สำหรับสาระในประกาศฉบับดังกล่าวจะเน้นเรื่องของความเพียงพอของเงินกองทุนที่จะรองรับความเสี่ยง โดย ธ.พาณิชย์จะต้องมีเงินกองทุนหลังจาก
หักด้วยผลขาดทุนของการประเมินราคายุติธรรมของธุรกรรม CDO ไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 8.5 จึงจะสามารถทำธุรกรรมดังกล่าว
เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การประเมินราคาดังกล่าวต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยหากมีเงินลงทุนในธุรกรรม CDO เกินกว่าร้อยละ 1 ของสินทรัพย์รวม จะต้อง
คำนวณราคาทุกสิ้นวัน แต่หากน้อยกว่านั้นให้ทำอย่างน้อยทุกสิ้นเดือน นอกจากนี้ ธ.พาณิชย์จะต้องจัดประเภทเงินลงทุน การบันทึกบัญชี และการ
ประเมินมูลค่ายุติธรรมสำหรับธุรกรรม CDO ตามมาตรฐานบัญชีสากลหรือ IAS39 แทนมาตรฐานการบัญชีไทย เพราะมีความเข้มงวดกว่า (โพสต์ทูเดย์,
กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
2. ธปท. ออกเกณฑ์ควบคุมเงินฝากและเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับอนุพันธ์ทางการเงินแฝง นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผอส.ฝ่ายนโยบาย
ความเสี่ยง ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. ได้ออกหนังสือแจ้ง ธ.พาณิชย์เรื่องการทำธุรกรรมเงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่มีอนุพันธ์ทางการเงินแฝง ให้พิจารณา
ความเสี่ยงเพื่อรองรับความผันผวนของตลาดเงินและธุรกรรมเหล่านี้ให้มากขึ้น ทั้งนี้ ธุรกรรมเงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่มีอนุพันธ์แฝงหมายถึง ธุรกรรม
เงินฝากหรือเงินกู้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปรที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ไม่ใช่อัตราดอกเบี้ยปกติ ทั้งที่อิงกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่าง
ประเทศ ราคาของกลุ่มหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยน ดัชนีทางการเงิน หรือตัวแปรอื่น ๆ นอกจากนี้ ยัง
รวมถึงธุรกรรมเงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่ให้สิทธิคู่สัญญาในการชำระคืนหรือรับชำระคืนเงินต้นหรือผลตอบแทนเป็นตราสารหนี้ หรือให้ผู้รับฝากในการขาย
หรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือผู้ฝากในการซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสกุลเงินและอัตราที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า และธุรกรรม
เงินฝากหรือเงินกู้ยืมที่ให้สิทธิผู้รับฝากหรือกู้ยืมที่จะขยายระยะเวลาหรือไถ่ถอนก่อนครบกำหนดตามที่ตกลงไว้ (โพสต์ทูเดย์)
3. บีโอไอปรับเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ไม่เน้นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมากและเทคโนโลยีต่ำ นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการ
สำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในปี 51 จะปรับทิศทางการส่งเสริมการลงทุนใหม่โดยจะไม่เน้นให้การส่งเสริม
อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมากและใช้เทคโนโลยีต่ำเหมือนที่ผ่านมา เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอและอุตสาหกรรมฟอกย้อม แต่จะเน้นผลักดันไปที่อุตสาหกรรม
ที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น เช่น อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ โครงการลงทุนต่อเนื่องที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรม
ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมพื้นฐานต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยเกิดการปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถ
ในการแข่งขัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน โดยเบื้องต้นบีโอไอจะมีการกำหนดมาตรฐานเครื่องจักรเป็นหลักเกณฑ์การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนด้วย
คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จและประกาศใช้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ สำหรับในปี 50 ประเมินว่าจะมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนประมาณ
5.0 — 5.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 49 ประมาณร้อยละ 10 เนื่องจากเฉพาะในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูง
ถึง 4.98 แสนล้านบาท อันเป็นผลจากการเข้ามาลงทุนของอุตสาหกรรมหลักหลายตัว โดยเฉพาะกิจการด้านยานยนต์และพลังงาน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็น
ผลดีต่อไปยังปีหน้าด้วย (มติชน, ไทยรัฐ, เดลินิวส์)
4. ธ.กสิกรไทยเปิดจองพันธบัตรออมทรัพย์กองทุนฟื้นฟูฯ นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารธุรกิจตลาดทุน ธ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า
ธนาคารจะเปิดรับจองพันธบัตรออมทรัพย์กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่ ก.คลังค้ำประกัน ปี งปม.51 มูลค่ารวม 8 หมื่นล้านบาท โดย
พันธบัตรฯ อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.20 กำหนดชำระคืนเงินต้นวันที่ 30 พ.ย.52 และพันธบัตรฯ อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.65
กำหนดชำระคืนเงินต้นวันที่ 30 พ.ย.54 จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง คือ วันที่ 30 พ.ค. และ 30 พ.ย. ของทุกปี สำหรับราคาจำหน่ายพันธบัตร
ดังกล่าวอยู่ที่หน่วยละ 10,000 บาท ผู้มีสิทธิ์ซื้อ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร
สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 50,000 บาท และทวีคูณของ 10,000 บาท โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อราย ตั้งแต่วันที่ 22 — 29 พ.ย.50 (ผู้จัดการ
รายวัน, โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ประธานกลุ่ม G10 เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง รายงานจาก Cape Town เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 50 นาย J
ean-Claude Trichet ประธานกลุ่ม G10 เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ธ.กลางต่างๆทั่วโลกต่างเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความ
เสี่ยง คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และโดยภาพรวมความเสี่ยงอยู่ในช่วงขาลง นอกจากนั้นเขายังกล่าวเตือนเรื่องความเสี่ยง
ที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ราคาสินค้าและอาหาร ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรานั้น Trichet กล่าวว่ามีการเคลื่อนไหวที่
เกินกว่ามูลค่าที่แท้จริง และไม่เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งเหมือนกับที่เขาได้เคยกล่าวไว้ในการประชุมกลุ่ม G7 เมื่อเดือน ต.ค. รวมทั้งวิกฤติสิน
เชื่อที่เกิดจากสินเชื่อด้อยคุณภาพในภาคอสังหาริมทรัพย์ของ สรอ. ส่งผลกระทบต่อตลาดและเป็นปัญหามานับตั้งแต่เดือน ส.ค. ทำให้ ธพ.ต่างๆทั่ว
โลกได้รับผลกระทบดังกล่าวและส่งผลเสียต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย (รอยเตอร์)
2. ความเชื่อมั่นของผู้รับเหมาก่อสร้างใน สรอ.ในเดือน พ.ย.50 อยู่ในระดับเดียวกับเดือนก่อนหน้า รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 19
พ.ย.50 สมาคมผู้รับเหมาก่อสร้างแห่งชาติของ สรอ.หรือ NAHB รายงานตัวเลขเบื้องต้นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้รับเหมาก่อสร้างใน สรอ.คงที่
อยู่ที่ระดับ 19 ในเดือน พ.ย.50 เท่ากับเดือนก่อน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีดังกล่าวในเดือน ม.ค.28 และต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของ
ระดับสูงสุดในปีนี้ซึ่งอยู่ที่ 39 เมื่อเดือน ก.พ.50 ที่ผ่านมา และนับเป็นการลดลงต่อเนื่องของดัชนีดังกล่าวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน โดยผู้รับเหมาส่วน
ใหญ่เชื่อว่าตลาดบ้านใน สรอ.จะเริ่มฟื้นตัวอย่างเร็วในกลางปีหน้า ทั้งนี้ ยอดขายบ้านลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 42 โดย
นอกจากจะต้องแย่งตลาดกับบ้านรอการขายของสถาบันการเงินที่ยึดจากลูกหนี้แล้ว การอนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านยังเข้มงวดขึ้นทำให้กำลังซื้อในตลาด
หดหายไป ส่งผลให้ปริมาณบ้านค้างสต็อกที่ยังขายไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แม้ว่าจะมีการลดราคาและสร้างแรงจูงใจการซื้อ
แล้วก็ตาม สอดคล้องกับตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ของรัฐบาลที่ลดลงมาอยู่ที่ 1.191 ล้านหน่วยต่อปีในเดือน ก.ย.50 ลดลงร้อยละ 42 จากปี 48 ซึ่ง
มีจำนวน 2.07 ล้านหน่วย (รอยเตอร์)
3. คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลเซียในเดือน ต.ค.50 จะเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ร้อยละ 2.0 รายงานจากกัวลาลัมเปอร์
เมื่อ 19 พ.ย.50 ผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของมาเลเซียในเดือน ต.ค.50 จะเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 8 เดือนที่
ร้อยละ 2.0 เทียบกับเดือน ก.ย. และ ส.ค.50 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 และ 1.9 ตามลำดับ ทั้งนี้ มีสาเหตุสำคัญจากราคาอาหารเพิ่มขึ้น และความ
ต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมในช่วงเดือน ต.ค. ส่งผลให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นในระหว่างเดือนดังกล่าว อย่างไร
ก็ตาม ภาวะเงินเฟ้อของมาเลเซียต่ำกว่าร้อยละ 3 ซึ่งระดับที่ได้เห็นเมื่อปลายปีที่แล้วและต้นปีนี้ ขณะที่หัวหน้านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในระยะยาว
แล้วอัตราเงินเฟ้อเทียบต่อปีจะอยู่ที่ร้อยละ 3.8 โดยในปี 50 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่ ธ.กลางมาเลเซียประมาณการไว้ว่า
จะอยู่ระหว่างร้อยละ 2 — 2.5 อนึ่ง ผลสำรวจนักวิเคราะห์ 12 ใน 15 คนเห็นว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธ.กลาง
มาเลเซียในวันที่ 26 พ.ย.ที่จะถึงนี้จะคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม แม้ว่าการส่งออกของมาเลเซียและมุมมองภาวะเศรษฐกิจโลกจะ
ชะลอตัวก็ตาม (รอยเตอร์)
4. อัตราส่วนการจัดตั้งธุรกิจใหม่ต่อการเลิกธุรกิจของเกาหลีใต้ในเดือน ต.ค.50 ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน รายงานจากโซลเมื่อ 19
พ.ย.50 ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า อัตราส่วนธุรกิจใหม่ต่อการเลิกธุรกิจของเกาหลีใต้ในเดือน ต.ค.50 ต่ำสุดในรอบ 13 เดือนที่ระดับ 28.0
จากระดับ 36.4 ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากจำนวนบริษัทที่เลิกกิจการขยายตัวสูงกว่าจำนวนบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ และเป็นอัตราส่วนต่ำสุดนับตั้งแต่
เดือน ก.ย.49 ซึ่งตัวเลขอยู่ที่ระดับ 28.0 นอกจากนี้ ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยอัตราส่วนหนี้สินที่ผิดนัดชำระ ซึ่งสะท้อนสัดส่วนของหนี้สินที่ผิดนัด
ชำระต่อหนี้สินทางการค้าและ พธบ.ที่ออกเพื่อการชำระหนี้ โดยรวมในระบบการชำระเงิน ว่า เพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.03 จากระดับ 0.02 ในเดือนก่อน
หน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 20 พ.ย. 50 19 พ.ย. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 33.860 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 33.6477/33.9745 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.38313 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 831.14/16.06 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 12,450/12,550 12,600/12,700 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 86.77 85.12 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 32.49*/28.94** 32.49*/28.94** 26.49/23.34 ปตท.
*ปรับเพิ่มเมื่อ 17 พ.ย. 50 ** ปรับเพิ่มเมื่อ 14 พ.ย. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--