การกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้าบัญชีสะสมเพื่อชำระคืนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 18, 2012 14:24 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 26/2555

นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศที่ สกส.3/2555 เรื่อง การกำหนดอัตราเงินนำส่ง หลักเกณฑ์และวิธีการในการส่งเงินนำส่ง และการนำส่งเงินเพิ่มเข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนเงินกู้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งได้นำลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2555 สาระสำคัญของประกาศ คือ กำหนดให้สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ นำส่งเงินเข้าบัญชีสะสมที่ ธปท. ในอัตราร้อยละ 0.46 ต่อปีของเงินรับจากประชาชน โดยนำส่งปีละ 2 งวด ๆ ละร้อยละ 0.23 โดยงวดแรก (มกราคม-มิถุนายน) นำส่งภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม และงวดที่สอง (กรกฎาคม-ธันวาคม) นำส่งภายในสิ้นเดือนมกราคมของปีถัดไป

สำหรับฐานเงินนำส่ง ให้คำนวณจากยอดคงเหลือถัวเฉลี่ยรายวันของเงินรับจากประชาชนของทุกสาขาและสำนักงานในประเทศไทยที่เป็นสกุลเงินบาท ดังนี้

(1) เงินฝากทุกประเภท

(2) เงินที่ได้รับจากการออกตั๋วแลกเงิน

(3) เงินที่ได้รับจากการออกตราสารหนี้ โดยไม่รวมยอดที่สถาบันการเงินออกเพื่อนับเป็นเงินกองทุน

(4) เงินที่ได้รับจากการกู้ยืมของทุกสาขาและสำนักงานในประเทศไทยที่เป็นสกุลเงินบาท

(5) เงินที่ได้รับจากการทำธุรกรรมขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาว่าจะซื้อคืนทั้งนี้ ไม่นับรวมเงินที่ได้รับจากธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และ ธปท.

สำหรับเงินรับตามข้อ (1) ให้ใช้ยอดคงเหลือถัวเฉลี่ยรายวัน ส่วนเงินรับตามข้อ (2) ถึง (5) ให้ใช้ยอดเงินที่สถาบันการเงินได้รับใหม่ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2555 เป็นต้นไปประกาศดังกล่าวจะมีผลเมื่อพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2555 มีผลบังคับใช้ซึ่งคาดว่าจะมีผลในเร็ววันนี้

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ