ฉบับที่ 26/2555
นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศที่ สกส.3/2555 เรื่อง การกำหนดอัตราเงินนำส่ง หลักเกณฑ์และวิธีการในการส่งเงินนำส่ง และการนำส่งเงินเพิ่มเข้าบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนเงินกู้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งได้นำลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2555 สาระสำคัญของประกาศ คือ กำหนดให้สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ นำส่งเงินเข้าบัญชีสะสมที่ ธปท. ในอัตราร้อยละ 0.46 ต่อปีของเงินรับจากประชาชน โดยนำส่งปีละ 2 งวด ๆ ละร้อยละ 0.23 โดยงวดแรก (มกราคม-มิถุนายน) นำส่งภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม และงวดที่สอง (กรกฎาคม-ธันวาคม) นำส่งภายในสิ้นเดือนมกราคมของปีถัดไป
สำหรับฐานเงินนำส่ง ให้คำนวณจากยอดคงเหลือถัวเฉลี่ยรายวันของเงินรับจากประชาชนของทุกสาขาและสำนักงานในประเทศไทยที่เป็นสกุลเงินบาท ดังนี้
(1) เงินฝากทุกประเภท
(2) เงินที่ได้รับจากการออกตั๋วแลกเงิน
(3) เงินที่ได้รับจากการออกตราสารหนี้ โดยไม่รวมยอดที่สถาบันการเงินออกเพื่อนับเป็นเงินกองทุน
(4) เงินที่ได้รับจากการกู้ยืมของทุกสาขาและสำนักงานในประเทศไทยที่เป็นสกุลเงินบาท
(5) เงินที่ได้รับจากการทำธุรกรรมขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาว่าจะซื้อคืนทั้งนี้ ไม่นับรวมเงินที่ได้รับจากธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และ ธปท.
สำหรับเงินรับตามข้อ (1) ให้ใช้ยอดคงเหลือถัวเฉลี่ยรายวัน ส่วนเงินรับตามข้อ (2) ถึง (5) ให้ใช้ยอดเงินที่สถาบันการเงินได้รับใหม่ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2555 เป็นต้นไปประกาศดังกล่าวจะมีผลเมื่อพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2555 มีผลบังคับใช้ซึ่งคาดว่าจะมีผลในเร็ววันนี้
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย