ฉบับที่ 11/2555
ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนพฤษภาคม 2555 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนโดยการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวดีตามรายได้เกษตรกรจากราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดีและหดตัวน้อยลง การลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวดีตามความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนด้านพลังงาน และการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวทั้งงบประจำและงบลงทุน สอดคล้องกับการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวจากอุตสาหกรรมทุกประเภท และภาคการค้าขยายตัวตามสินค้าหมวดยานยนต์ สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญและอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ
การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.5 และขยายตัวจากเดือนก่อนเล็กน้อยสะท้อนจากปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์นั่งและรถบรรทุกส่วนบุคคลที่มีเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่ภาคการค้าส่งและค้าปลีกขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านการลงทุนในภาคยังขยายตัวตามความมั่นใจของนักลงทุนที่มองทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนเดือนนี้เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.4 สะท้อนจากพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.1 โดยเฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์และสกลนครเป็นสำคัญ ขณะที่ยอดการขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนในภาคเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนกว่า 6 เท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในจังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี และขอนแก่น สำหรับการจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว โดยเฉพาะธุรกิจก่อสร้างโรงพยาบาล และการผลิตพลังงานไฟฟ้านอกจากนี้ การใช้จ่ายของภาครัฐ ก็เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 16.9 เทียบกับเดือนก่อนที่หดตัว โดยเป็นการขยายตัวทั้งงบประจำที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.6 และงบลงทุนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 ตามการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ เงินเดือน และเงินอุดหนุนทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
ภาคเกษตรกรรม ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.5 แต่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ตามดัชนีราคาพืชสำคัญที่ถึงแม้จะหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.1 แต่ก็หดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับการขยายตัวในเดือนก่อนตามราคาหัวมันสำปะหลังที่ปรับดีขึ้นเนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลงและส่วนหนึ่งอยู่ในสต็อกของรัฐบาล ส่วนราคายางพารายังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังคงผันผวนเนื่องจากเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปที่ยังไม่คลี่คลาย สำหรับดัชนีผลผลิตพืชสำคัญ หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนจากการลดลงของผลผลิตข้าวเป็นสำคัญ ภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.7 เป็นผลจากการขยายตัวของการผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่ม Hard Disk Drive (HDD) และการผลิตน้ำตาล ภาคการค้า ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดัชนีการค้าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.5 แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย ตามการค้าส่งอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะการค้าส่งผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลที่ฐานสูงจากปีก่อนและการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและห้างสรรพสินค้าชะลอลง ขณะที่การค้าหมวดยานยนต์เร่งตัวขึ้นจากการจำหน่ายรถยนต์ เนื่องจากการผลิตรถยนต์เข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้มีการส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้น
ภาคการเงิน เงินฝากธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนเมษายน เงินฝากเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.5 ชะลอลงจากเดือนก่อน เป็นผลจากการถอนใช้เงินงบประมาณของส่วนราชการ ส่งผลให้เงินฝากกระแสรายวัน และออมทรัพย์ชะลอลง ขณะที่เงินฝากประจำยังขยายตัว สำหรับสินเชื่อธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.9 ขยายตัวอย่างตัวเนื่อง ทั้งสินเชื่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจโดยเฉพาะสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล สินเชื่อตัวกลางทางการเงิน และสินเชื่อการค้าปลีกค้าส่ง สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 106.9 เงินฝากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ณ สิ้นเดือนเมษายน เงินฝากเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.8 ชะลอตัวจากเดือนก่อน เป็นผลจากเงินฝากประจำของลูกค้าธนาคารออมสินที่ครบกำหนดไถ่ถอน สำหรับสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.5 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสินเชื่อในโครงการรับจำนำข้าวนาปรังของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 263.0
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.83 ชะลอลงจากเดือนก่อน ตามราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มโดยชะลอลงมากในหมวดพาหนะขนส่ง และการสื่อสารตามการหดตัวของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มกลับเร่งตัวขึ้นตามราคาผักสด เป็นสำคัญ สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.83 และอัตราการว่างงานเดือนเมษายน 2555 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค
โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410
E-mail: [email protected]
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย