แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนกุมภาพันธ์ 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 29, 2013 15:36 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 06/2556

ภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน แต่ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนยังเร่งตัวขึ้น ตามรายได้ของเกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นแต่การลงทุนภาคเอกชนชะลอลง ตามภาคการก่อสร้างที่ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของนโยบายการส่งเสริมการลงทุนใหม่ที่จะใช้ในปีนี้ ประกอบกับการใช้จ่ายประจำของภาครัฐหดตัวจากการเร่งตัวในช่วงก่อนหน้า ขณะที่งบลงทุนเร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเร่งตัวจากการเปิดโครงการใหม่โดยเฉพาะจากส่วนกลางที่เข้ามาลงทุนที่จังหวัดอุดรธานี สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.28 ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 3.50 ตามราคาอาหารสดและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีดังนี้

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.8 อย่างไรก็ตาม ยอดการจดทะเบียนรถยนต์เริ่มชะลอลงทั้งรถยนต์นั่งและรถบรรทุกส่วนบุคคลตามการสิ้นสุดนโยบายรถยนต์คันแรก อีกทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชะลอลงจากเดือนก่อนแต่ก็ยังถือว่าการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคยังขยายตัวดี สอดคล้องกับภาคการค้า ที่ดัชนีการค้าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.2 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 26.6 เป็นผลจากการค้าปลีกในหมวดยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.8 จากการเร่งตัวซื้อรถยนต์ของประชาชนในช่วงก่อนหน้า สำหรับการค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคชะลอลงในหมวดอาหารและเครื่องดื่มขณะที่การค้าส่งประเภทสินค้าทางการเกษตร และสินค้าวัสดุก่อสร้างยังขยายตัว ด้านการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวน้อยลง โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.4 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 สะท้อนจากการชะลอตัวของยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อย่างไรก็ตามภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเร่งตัวจากการเปิดโครงการใหม่ ๆ จากส่วนกลางที่เข้ามาลงทุนที่จังหวัดอุดรธานีด้วยต้นทุนที่ต่ำและเทคโนโลยีในการก่อสร้างที่ทันสมัย แต่ภาคการก่อสร้างหลายแห่งยังประสบปัญหาการขาดแคลน แรงงาน

การใช้จ่ายของภาครัฐ ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.3 เนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายในช่วงก่อนหน้า โดยงบประจำลดลงร้อยละ 20.2 แต่งบลงทุนกลับเร่งตัวขึ้นร้อยละ 93.7 ทั้งนี้ ส่วนราชการที่มีการเบิกจ่ายลดลง ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จากหมวดเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ และเงินอุดหนุนทั่วไป

ภาคเกษตร ดัชนีมูลค่าผลผลิตพืชสำคัญ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.5 ตามราคาที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีราคาพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.2 ตามราคามันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเรื่องผลผลิตจากปัญหาภัยแล้งและผลกระทบของโครงการรับจำนำของรัฐ จึงเร่งซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าเข้าสต็อก ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน เป็นผลจากมาตรการรับจำนำของรัฐเป็นสำคัญ ขณะที่ราคาข้าวเปลือกเหนียวลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผลผลิตที่ลดลงจากปัญหาภัยแล้ง ราคาอ้อยโรงงานลดลงจากปีก่อน ตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก และราคายางพาราลดลงจากปีก่อนจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับจีนชะลอการสั่งซื้อเนื่องจากยังมีสต็อกมาก สำหรับดัชนีผลผลิตพืชสำคัญเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 0.3 เป็นผลจากผลผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีพื้นที่กรีดได้เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ

การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.6 ตามการผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.7 แต่ยังอยู่ในระดับการผลิตปกติ เนื่องจากในระยะเดียวกันของปีก่อนมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยโรงงานที่ประสบอุทกภัยในภาคกลาง อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสำคัญของภาคยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการส่งออก ขยายตัวร้อยละ 15.9 และอุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาลขยายตัวร้อยละ 11.8 ตามการผลิตน้ำตาลทรายขาวเพิ่มขึ้น สำหรับภาคบริการ อัตราการเข้าพักแรมอยู่ที่ร้อยละ 48.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่มีอัตราการเข้าพักแรมอยู่ที่ร้อยละ 46.3

เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.28 ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 3.50 ตามราคาสินค้าอาหารสดโดยเฉพาะผักสดและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.63 เร่งตัวจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.32 ตามการสูงขึ้นของราคาอาหารสำเร็จรูปบริโภคในบ้านและค่าตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคลเป็นสำคัญ สำหรับอัตราการว่างงานเดือนมกราคม 2556 อยู่ที่ร้อยละ 1.1 เท่ากับระยะเดียวกันของปีก่อน

ธนาคารแห่งประเทศไทย

สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ส่วนเศรษฐกิจภาค

โทร: 0 4333 3000 ต่อ 3410

E-mail: Rotelakp@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ